
ปัญญา นิรันดร์กุล ผู้สร้าง... 'แฟนพันธุ์แท้' พระเครื่อง
นายเสมอ งิ้วงาม หรือ ป๋อง สุพรรณ เลขานุการสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย อ.ราม วัชรประดิษฐ์ อาจารย์ประจำสาขาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก รวมทั้ง นายรักษ์ ศรีเกตุ ที่กล่าวมานี้ เป็นส่วนหนึ่งของ เซียนพระ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น แฟ
แม้ว่า รายการแฟนพันธุ์แท้ จะงดการออกอากาศมาตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ เนื่องจากมีการยกเลิกสัญญาออกอากาศของ ททบ.๕ แต่รายการนี้ยังถูกพูดถึงเสมอๆ โดยเฉพาะในวงการสังคมพระเครื่องพระบูชาไทย
ขณะเดียวกัน รายการนี้ยังถือว่าเป็นรายการทางสถานีวิทยุโทรทัศน์รายการแรกๆ ที่นำพาวงการพระเครื่องให้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ยอมรับของสังคมคนทั่วๆ ไป จากนั้นก็มีสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องและรายการอื่นๆ เชิญเซียนพระไปร่วมรายการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากสร้างชื่อเซียนพระ และนำเรื่องในวงการพระเครื่องให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆ ไปแล้ว นายปัญญายังขึ้นชื่อว่า เป็นผู้สร้างวัตถุมงคลอันเป็นที่ยอมรับด้วย
ทั้งนี้ เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ บริษัท เวิร์คพอยท์ฯ ร่วมกับ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด จัดสร้าง เหรียญพระพิฆเนศวร ปางมหาเทพแห่งศิลปะของแผ่นดิน รุ่นเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา แม้จะสร้างจำนวนมากถึง ๑๐๐,๐๐๐ เหรียญ แต่ก็จำหน่ายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ เพื่อรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่ มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กองทุนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
“ชีวิตที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จมาได้ทุกวันนี้ ต้องบอกว่า มาจากความศรัทธาที่เกิดจากองค์พระพิฆเนศ ไม่ว่าจะทำอะไรก็สำเร็จอยู่ตลอดเวลา ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่ทุกอย่างไม่ได้เกิดจากการขอจากท่าน หากอยู่ที่ตัวเราต้องทำด้วย ตรงนี้เป็นความเชื่อและความศรัทธา ปัจจุบันก่อนออกจากบ้านจะต้องสักการบูชาพระพุทธรูป รูปหล่อพระอริยสงฆ์ ภายในห้องพระที่บ้าน รวมทั้งสิ่งที่จะต้องกราบไหว้ทุกวัน คือ องค์เจ้าแม่กวนอิมหลายสิบปาง ที่ตั้งบูชาอยู่ด้านขวามือห้องพระ ส่วนด้านซ้ายมือจะบูชาองค์พระพิฆเนศ ซึ่งยังมีการไหว้ชุดใหญ่ในวันพฤหัสบดี เพราะถือเป็นวันครู ทุกครั้งก่อนแสดงภาพยนตร์ในอดีต หรือมาทำหน้าที่พิธีกรในวันนี้ ลืมไม่ได้เลยที่จะต้องไหว้องค์พระพิฆเนศ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเราทุกครั้ง” นี่คือคำยืนยันของเสี่ยตา
สำหรับการจัดสร้างพระพิฆเนศวร ปางมหาเทพนั้น เกิดจากแนวคิดของเสี่ยตาที่ว่า เมื่อคิดจะเปิดบริษัท อยากจะสร้างพระอะไรสักองค์ เพื่อเอาไว้กราบไหว้ในบริษัท ตรงนี้คิดอยู่ที่จะสร้างองค์พระพิฆเนศวร
พอมีแนวคิดแบบนี้จึงศึกษาเกี่ยวกับประวัติขององค์พระพิฆเนศ ว่าเป็นเทพมหาเทพ จนออกแบบมาเป็นปางมหาเทพ วันนี้นำมาประดิษฐานองค์ท่านไว้ด้านหน้าบริษัทเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทุกคนสักการบูชา
เมื่อเป็นผู้สร้างพระพิฆเนศวร ปางมหาเทพ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะแขวนเหรียญพระพิฆเนศวรรุ่นดังกล่าวติดตัวเป็นประจำ ส่วนพระเครื่ององค์อื่นๆ เคยมีแขวนเหมือนกัน เช่น พระผงของขวัญหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ รุ่นปลดหนี้ แต่ด้วยเหตุที่ต้องถอดเข้าถอดออกอยู่บ่อยครั้ง เพราะต้องทำหน้าที่พิธีกร จึงนิมนต์ท่านไว้ที่บ้าน นานครั้งจะนิมนต์ขึ้นคอสักหน
“ในความคิดส่วนตัวคิดว่า พระเครื่องหรือพระบูชาจะมีพุทธคุณอยู่แล้ว ความรู้สึกตรงนี้คิดว่า ในองค์พระท่านน่าจะมีจิตที่สื่อถึง หรือเมตตามาถึงตัวเราอย่างถูกทาง เพราะบางท่านอาจเช่าบูชา หรือมีพระแขวนที่มีดีแตกต่างกันไป อยากให้ทุกคนแยกความศรัทธา กับความมัวเมา ที่อยู่ใกล้กันมากด้วย อย่าไปศรัทธาอย่างลุ่มหลง มัวเมา ด้วยการนำเงินไปทุ่ม เพราะบางคนหลงใหลในความศรัทธา แล้วไปปั่นองค์พระให้มีมูลค่ามากขึ้น แบบนั้นไม่ดี แต่ถ้าเราทุกคนศรัทธาพระเครื่องบูชาแล้วจะดีกับชีวิต ก็สามารถบูชาองค์เดียวได้” เสี่ยตากล่าว
เมื่อถามถึงหลักธรรมในการดำเนินชีวิต นายปัญญาพูดไว้อย่างน่าคิดว่า "ผมเชื่อในเรื่องของการทำความดี แล้วสิ่งที่เป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านมีพระราชดำรัสว่า ให้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมา แต่ถ้าจะให้ดี พระองค์ท่านให้ปิดทองไม่ใช่หลังนะ แต่ให้ปิดทองที่ใต้ฐานพระเลย ผมเองก็เลยใช้วิธีการทำบุญด้วยการปิดทองหลังองค์พระปฏิมา ขณะเดียวกัน ผมยังเชื่อในเรื่องกฎแห่งความดี ใครก็แล้วแต่ที่ทำความดี จงทำไปเลย โดยไม่ต้องไปบอกใคร แล้วเวลาความดีจะคืนกลับมา จะไหลมาเป็นมหาสมุทร เป็นน้ำที่ไหลเชี่ยวอย่างรับไม่ทันเลย"
ขณะเดียวกัน เสี่ยตายังบอกด้วยว่า "จริงๆ แล้วหลักธรรมมีความสำคัญทุกข้อ แต่โอกาสที่ใช้ไม่เหมือนกัน แต่หลักหนึ่งที่ใช้ได้ตลอดเวลา คือ หลักของความพอเพียง ทุกคนเลือกที่จะมีความพอเพียงได้ คือ ถ้าคุณมีความรู้น้อย ก็ทำความพอเพียงให้เข้ากับตัวคุณก่อน คือ กินอยู่น้อยตามความพอเพียง ไม่คิดเปรียบเทียบกับคนที่มีความรู้มากกว่า ซึ่งเขาอาจจะกินอยู่ดีกว่า เพราะเขามีโอกาสมากกว่า คนเราเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า มีมากกว่า ก็มักจะเป็นทุกข์ อิจฉาตาร้อน ถ้าเราไม่ไปเปรียบเทียบ ก็จะมีความสุข นั่นเป็นเพราะคำว่า รู้จักความพอเพียง นอกจากนี้ ต้องรู้จักให้ ทั้งนี้ เราต้องคิดอยู่เสมอว่า เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ชีวิตคนเราก็จะเหลือน้อยลง เราน่าจะถ่ายทอดสิ่งที่เป็นประโยชน์ คืนกลับไปสู่สังคม อาจจะเริ่มจากการมีเมตตา จากการให้อะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทอง โดยเฉพาะการให้ความรู้ หรือที่เรียกว่า วิทยาทาน ถ้าเราแบ่งปันให้คนอื่นบ้าง ก็อาจจะช่วยให้เขาเกิดปัญญา ที่จะนำไปทำมาหากินต่อ โจรขโมยก็น้อยลง เพราะทุกคนมีหนทาง มีความคิดที่จะทำกินโดยสุจริต ปัญหาสังคมก็เบาบางลงไป”
"อยากให้ทุกคนแยกความศรัทธา กับความมัวเมา ที่อยู่ใกล้กันมากด้วย อย่าไปศรัทธาอย่างลุ่มหลง มัวเมา ด้วยการนำเงินไปทุ่ม เพราะบางคนหลงใหลในความศรัทธา"
เรื่อง... "ไตรเทพ ไกรงู"
ภาพ... "ประเสริฐ เทพศรี"