
คมเลนส์ส่องพระวันเสาร์ที่7ก.พ.2552
07 ก.พ. 2552
*** เมื่อวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ ที่ผ่านมา บริษัท วันเดอร์แลนด์ แทรเวล จำกัด ได้เรียนเชิญวิทยากรพิเศษ อ.วีระ ธีระภัทร์ และ อ.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ไปบรรยายในรายการท่องเที่ยวเชิงวิชาการ ตามรอยพงศาวดารอโยธยา ราชวงศ์บ้านพลูหลวง
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สถานที่ที่ได้ไปชมคือ พระราชวังหลวง พระราชวังจันทรเกษม วัดธรรมิกราช เพนียดคล้องช้าง วัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยพัฒนาราม วัดมเหยงค์ วัดกุฎีดาว วัดประดู่ทรงธรรม วัดป่าโมก และปราสาทนครหลวง ท่านอาจารย์ทั้งสอง ได้เตรียมข้อมูลอย่างละเอียด เป็นการเพิ่มพูนความรู้แก่ผู้สนใจได้อย่างมากมาย โอกาสนี้ "คมเลนส์ส่องพระ" ก็ได้ร่วมแจมไปเที่ยวด้วย เพราะเคยเขียนถึงพระพุทธรูป สมัยบ้านพลูหลวง มาแล้วหลายครั้ง การได้ไปเห็นของจริงๆ ได้ฟังท่านผู้รู้บรรยาย จึงย่อมเป็นการเพิ่มพูนสติปัญญายิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้มีผู้สนใจร่วมเดินทางไปด้วยถึง ๑๒๐ ท่าน สำหรับ ทริปหน้า ใครสนใจการท่องเที่ยวให้ได้ความรู้จริงๆ ในแนวนี้ ติดต่อสอบถามได้ที่โทร.๐-๒๙๓๔-๘๕๔๖-๕๐
** วันที่ไปทัศนศึกษา วัดพุทไธศวรรย์ ก็ได้เข้าไปกราบไหว้สักการะ องค์พ่อจตุคามรามเทพ ขอพรตามความศรัทธาเลื่อมใสที่ยังมั่นคงเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นไปตามกระแสนิยมของสังคม พระอาจารย์โชติ บอกว่าทุกวันนี้ก็ยังมีผู้มาบูชากราบไหว้อยู่เรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่คึกคักเหมือนเดิมก็ตาม กลิ่นธูปควันเทียน ก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่มีขาดสาย...สาธุ
** เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ กรุงเทพมหานคร มีอายุครบ ๑๕๐ ปี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธีสมโภชขึ้น พร้อมทั้งการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) โอกาสนี้ทางราชการจึงจัดสร้าง เหรียญพระแก้วมรกต รุ่นฉลองกรุงเทพฯ ๑๕๐ ปี ขึ้นเป็นที่ระลึก เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคปัจจัยร่วมการกุศลในครั้งนั้น เหรียญที่จัดสร้างมีทั้งเนื้อทองคำ เงิน และอัลปาก้า โดยผู้บริจาค ๑๐๐ บาทขึ้นไป จะได้รับพระราชทานเหรียญเนื้อทองคำ ๒๐ บาทขึ้นไป จะได้รับพระราชทานเหรียญเนื้อเงิน ๕ บาทขึ้นไปจะได้รับพระราชทานเหรียญเนื้ออัลปาก้า (นิเกิล) และบริจาค ๑ บาท จะได้รับพระราชทานเหรียญเนื้อทองแดง ลักษณะของเหรียญ ด้านหน้าเหภายในซุ้มเรือนแก้วเป็นรูป พระแก้วมรกต ประทับนั่งบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย มีผ้าทิพย์ห้อย และดอกไม้อยู่โดยรอบ ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปยันต์กงจักร มีอักษรขอมจารึก มรรค ๘ คือ ทิ สํ วา กํ อา วา ส สํ
** เหรียญรุ่นนี้สร้างจำนวนมาก มีหลายบล็อกด้วยกัน ที่สั่งทำจากเมืองนอกก็มี เรียกว่า บล็อกนอก หรือ บล็อกเจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) มีความละเอียดในลวดลายต่างๆ คมชัดมาก และมีตัวอักษรภาษาอังกฤษที่หลังเหรียญด้านล่างจารึกว่า Georges Hantz Geneve U.G.D. ** ส่วนเหรียญที่ผลิตในเมืองไทย ก็มีหลายบล็อก เพราะได้สั่งทำจากหลายโรงงาน อาทิ บล็อกเพาะช่าง สุวรรณประดิษฐ์ นาถาจารุประกร ฮั่งเตียนเซ้ง และเหรียญที่เร่งสร้าง ไม่มีชื่อผู้ผลิตก็มี
** นอกจากนี้ยังมี พิธีพุทธาภิเษก เหรียญฉลองกรุงเทพฯ ๑๕๐ ปี ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยร่วมนักปรกปลุกเสกมากมาย ถ้าหากใครได้อ่านรายชื่อแล้ว ไม่รีบหาเหรียญนี้มาขึ้นคอ ก็ใจเย็นเกินไปแล้ว (เสียดายเนื้อที่ไม่พอ จึงขอยกไปไว้โอกาสหน้า) ** สำหรับ เหรียญพระแก้วมรกต ที่เห็นนี้เป็น เนื้อทองคำ บล็อกเจนีวา สวยสมบูรณ์คมชัดมาก เป็นเหรียญที่ ป๋อง สุพรรณ เช่ามาในราคาหลักแสนขึ้นไป ** ในส่วนของ เหรียญทองแดง ราคายังพอหาเช่าได้ แต่ต้องได้จากแหล่งที่เชื่อได้เท่านั้น เพราะมี ของปลอม ระบาดมานานแล้ว
** เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คอลัมน์ "เส้นทางนักพระเครื่อง" ได้นำเรื่องของ วิรัตน์ เอไอเอ มาให้อ่านกัน ได้ลง เหรียญท่านเจ้าคุณนรฯ ที่เรียกว่า เหรียญโภคทรัพย์ นั้น วันนี้ได้ภาพเหรียญที่ถ่ายอย่างคมชัดมาให้ชมกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นเหรียญเนื้อเงิน ฝีมือการผลิตโดยกองกษาปณ์ กระทรวงการคลัง นอกจากนี้ยังมีเนื้อทองคำ และเนื้อโลหะผสม มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ กับพิมพ์เล็ก จัดสร้างโดย พระมหาสงัด สุวิเวโก วัดเทพศิรินทร์ พิธีอธิษฐานจิต ๕ ธันวาคม ๒๕๑๓ อันเป็นพิธีใหญ่ที่มีพระเครื่องเข้าพิธีมากเป็นพิเศษ และเป็นพิธีครั้งสุดท้าย ก่อนที่ ท่านเจ้าคุณนรฯ จะมรณภาพ ในวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๑๔ ทุกวันนี้ เหรียญโภคทรัพย์ รุ่นนี้ได้กลายเป็นเหรียญยอดนิยมเหรียญหนึ่งในชุด ท่านเจ้าคุณนรฯ โดยเช่าหากันที่หลักแสนขึ้นไปสำหรับเนื้อทองคำ ส่วนเนื้อเงินอยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ และเนื้อนวโลหะประมาณ ๖,๐๐๐-๗,๐๐๐ บาท เหรียญในภาพนี้เป็นของ พัฒนะ ธรรมวิริยะกุล สายตรงพระเจ้าคุณนรฯ ซึ่งพรุ่งนี้จะมีเรื่องของเขามาให้อ่านใน "เส้นทางนักพระเครื่อง" โปรดติดตาม
** ที่ได้นำ เหรียญโภคทรัพย์เจ้าคุณนรฯ มาลงให้ชมเป็นวิทยาทานในวันนี้ ก็เพราะเป็นเหรียญที่มากด้วยประสบการณ์ จากคำบอกเล่าของ วิรัตน์ เอไอเอ ได้มีประสบการณ์ครั้งใหญ่มาแล้วในชีวิต เรียกว่า "เฉียดตาย" อย่างใจระทึกที่สุด ขณะขับรถเก๋งลงจากสะพานแขวน (สะพานพระราม ๙) ซึ่งมีความลาดชันมาก ได้ถูกรถบรรทุก ๑๐ ล้อ พุ่งเข้าชนท้ายรถเก๋งที่ขับอยู่อย่างจัง กระโปรงท้ายยุบถึงเบาะนั่งในรถ คนขับรถบรรทุกคิดว่าคงจะมีคนตายอย่างแน่นอน จึงเผ่นหนี ปรากฏว่า วิรัตน์ เอไอเอ และครอบครัวทั้งหมด ๔ คน ไม่มีใครเป็นอะไรเลย โดยเฉพาะคนที่นั่งเบาะหลัง มีเพียงเศษกระจกตกใส่ศีรษะเท่านั้น เพราะทุกคนมี เหรียญเจ้าคุณนรฯ ติดตัวตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา วิรัตน์ จึงแขวนเหรียญโภคทรัพย์อยู่เสมอ แม้ในเวลาเล่นฟุตบอล หรือเวลาอาบน้ำ เวลานอน ก็ไม่ยอมถอดออก พร้อมทั้งหาเพิ่มขึ้นเมื่อมีโอกาส วิรัตน์ บอกว่า เหรียญเจ้าคุณนรฯ ก็มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันหมด เพราะท่านเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ที่มีพลังจิตสูง จนลือกันว่าเป็น พระอรหันต์กลางกรุง
** ในเมืองไทย นอกจากมี คณะสงฆ์นิกายเถรวาท หรือ หินยาน คือ พระสงฆ์ไทยที่พบเห็นโดยทั่วไปแล้ว ก็ยังมี คณะสงฆ์ นิกายอาจริยวาท หรือ มหายาน อย่างเช่น พระนิกายจีน (วัดเล่งเน่ยยี่-วัดโพธิ์แมน) และอีกคณะสงฆ์หนึ่งที่คนไทยรู้จักกันน้อย คือ คณะสงฆ์อนัมนิกาย (หรือพระญวน) โดยกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณพ.ศ.๒๓๑๖ ได้เกิดกบฏขึ้นที่ เมืองเว้ อันเป็นเมืองหลวงของประเทศญวน (หรือเวียดนามในทุกวันนี้) สมาชิกราชวงศ์ญวน และชาวบ้านได้พากันอพยพเข้ามาอยู่ใน กรุงธนบุรี เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๑๙ ในสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ต่อมาได้มีชาวญวนอพยพภัยบ้านเมืองเข้ามาอีกหลายครั้ง ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีบางส่วนอพยพเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ โดยได้รับพระราชทานที่อยู่ให้ที่สามเสน และที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม ตรงสะพานขาว ชาวญวนที่นับถือพระพุทธศาสนา จึงได้สร้างวัดในนิกายญวนขึ้นหลายแห่ง เช่น วัดคั้นเยิงตื่อ (วัดอภัยราชบำรุง) ตลาดน้อย วัดกว๋างเพื๊อกตื่อ (วัดอนัมนิกายาราม) บางโพ วัดคั้นถ่อตื่อ (วัดถาวรวราราม) จ.กาญจนบุรี ฯลฯ รวมวัดญวนที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ ๗ วัด อยู่ในต่างจังหวัด ๓ วัด รวม ๑๐ วัด ในจำนวนนี้มีวัดที่คนไทยรู้จักกันดี คือ วัดเกี๋ยงเพื๊อกตื่อ (วัดสมณานับบริหาร) หรือ วัดญวน สะพานขาว ริมคลองผดุงกรุงเกษม (ตรงข้ามสภาพัฒน์) โดยผู้ที่บวชในวัดเหล่านี้ ส่วนหนึ่งเป็น ชาวจีน ที่นับถือพุทธศาสนานิกายมหายานเช่นกัน
** ที่ วัดญวน สะพานขาว นี่เองที่มี พระอาจารย์บ่าวเอิง เจ้าอาวาส เป็นผู้มีวิชาอาคมต่างๆ ตามตำราของมหายาน ได้ปลุกเสก เหรียญหมอชีวกโกมารทัต (พระหมอของพระพุทธเจ้า) เมื่อพ.ศ.๒๔๙๙ ร่วมกับ หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด ผู้สำเร็จเตโชกสิณ สมัยนั้นหลวงพ่อทั้ง ๒ ท่านนี้มีผู้ให้เคารพนับถือมาก ทำให้เหรียญที่สร้างขึ้นนี้ได้รับความศรัทธาสนใจกันอย่างกว้างขวาง โดยมีความเชื่อกันว่า ใครได้สักการบูชา เหรียญหมอชีวกโกมารทัต จะมีความแคล้วคลาดปลอดภัยสูง โดยเฉพาะในเรื่องของอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจะหมดไป โรคภัยร้ายแรงไม่มีเยี่ยมกราย ทุกวันนี้ เหรียญนี้พบเห็นได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะ เหรียญเนื้อทองคำ อย่างที่เห็นนี้ เช่าหากันถึงหลักแสนขึ้นไป คนที่โชคดีที่ได้เป็นเจ้าของเหรียญคือ ส.ส.ธนา ชีรวินิจ พรรคประชาธิปัตย์ กทม. คนหนุ่มสายเลือดใหม่ผู้มีความรู้ความสามารถมาก รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อนาคตได้เป็น รมช.รมต.อย่างแน่นอน **
** ขอแสดงความเสียใจ ในการจากไปของ เทวฤทธิ์ เฉลิมโยธิน เจ้าของและบรรณาธิการนิตยสาร พระคณาจารย์ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บก.เทวฤทธิ์ หรือ บรรเจิด เฉลิมโยธิน เป็นผู้รักในอาชีพหนังสือพิมพ์มาโดยตลอด จำได้ว่าสมัยที่นิตยสาร ลานโพธิ์ ยุคแรกๆ ราคาฉบับละ ๓-๔ บาท เมื่อปี ๒๕๑๘ ได้ไปว่าจ้างโรงพิมพ์ เอเซียการพิมพ์ ซอยโรงหนังพาราเมาท์ ประตูน้ำ (ทุกวันนี้อยู่ตรงข้ามห้างพันธุ์ทิพย์) เป็นผู้จัดพิมพ์ ก็ได้พบกับ "พี่เจิด" นั่งทำงานอยู่ที่นั่นด้วย ผ่านมาหลายสิบ ปีก็ยังคงพบเห็นกับ "พี่เจิด" มาโดยตลอด...จนครั้งหลังสุดได้จัดทำนิตยสาร พระคณาจารย์ และล้มป่วยลง จนถึงแก่กรรมเมื่อเร็วๆ นี้...ด้วยความเศร้าใจของทุกคนที่รู้จักมักคุ้นกันดี โดยเฉพาะในแวดวงพระเครื่อง ถือได้ว่า "พี่เจิด" เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่คนรุ่นลูกรุ่นหลานให้ความเคารพนับถือกันมาก **
** วันก่อนโน้นได้ลง เหรียญหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ปี ๒๔๙๒ พิมพ์ดอกจันตรง วันนี้ได้มาอีกภาพหนึ่งเป็นพิมพ์ดอกจันโค้ง จึงเอามาให้ชมเป็นวิทยาทาน จะได้เปรียบเทียบกันถูก ดอกจัน ที่ว่านี้อยู่ที่หลังเหรียญ ตรงด้านล่างสุด ใต้ตัวหนังสือ พ.ศ.๒๔๘๒ จะมีลักษณะโค้งเล็กน้อย รวมทั้งตัวอักขระขอม และตัวหนังสือไทยคำว่า วัดหนองโพ พ.ศ.๒๔๘๒ ก็มีลักษณะโค้งตามไปด้วย เหรียญนี้หลวงพ่อเดิมได้อนุญาตให้ นายประดิษฐ์ ลิ้มประยูร จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานทำบุญอายุ ๘๒ ปี พรรษา ๖๐ มาถึงวันนี้ได้เป็นเหรียญยอดนิยมที่เช่าหากันที่หลักแสนขึ้นไป โดยเฉพาะเหรียญที่มีความสวยสมบูรณ์ คมชัด และผิวเหรียญเดิมเช่นเหรียญที่เห็นนี้ เป็นเหรียญของ เวกัส มรดกไทย คนหนุ่มผู้นิยมแต่ของสวยเท่านั้น **
** นิตยสารพระเครื่องที่ออกวางตลาดแล้วในช่วงนี้คือ ** พบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้...นะมัสเต ***