หมอลักษณ์โหรฟันธงแขวนพระเฉพาะ'พุทธคุณที่โดดเด่น'
หมอลักษณ์ โหรฟันธงแขวนพระเฉพาะ'พุทธคุณที่โดดเด่น' : พระเครื่องสรณะคนดัง เรื่องไตรเทพ ไกรงู/ภาพ แมน น้อยพิทักษ์
“ผมแขวนพระเครื่องหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนให้ตรงกับช่วงชีวิต โดยส่วนตัวเชื่อว่าพระเครื่องแต่ละองค์มีพุทธคุณต่างกัน แม้ว่าพระบางองค์จะขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณดีทุกด้าน แต่ถ้าศึกษาจริงๆ พระแต่ละองค์จะมีพุทธคุณโดดเด่นด้านเดียว จึงไม่ใช่เรื่อแปลกที่ในคอของแต่ละคนจะมีพระเครื่องหลายองค์”
นี่เป็นเหตุผลในการเลือกแขวนพระของ อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ หรือเจ้าของฉายา “หมอลักษณ์ โหรฟันธง” เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์
“หมอลักษณ์ โหรฟันธง” บอกว่า โดยส่วนตัวชอบพระกรุ เพราะมีประวัติศาสตร์การจัดสร้างมากมาย แต่เมื่อได้มาทำงานสนองรับใช้พระมากขึ้น โดยเฉพาะพระผู้ใหญ่ในการสร้างพระคุณธงชัย แห่งวัดไตรมิตร จึงนำมาสลับนิมนต์ขึ้นคอ
พระสมเด็จบางขุนพรหมที่ได้มาจากคุณวสันต์ เบนซ์ทองหล่อ จะแขวนบางช่วงเวลาที่สบายใจ ปฏิบัติธรรม รวมทั้งงานพิธีบุญ เมื่อคราวใดที่มีความไม่สบายใจ ชีวิตมีความสับสนจะนิมนต์พระร่วงรางปืนหลังลายผ้าลพบุรีมาขึ้นคอ และหากช่วงชีวิตมีความติดขัดไม่ราบรื่นก็จะนิมนต์พระลีลาปางเปิดโลก วัดถ้ำหีบ หากมีปัญหาใหญ่ๆ หนักๆ จะแขวนพระรอดหริภุญชัย จ.ลำพูน
“แขวนพระกรุ พระเก่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้แขวนอย่างสนิทใจเพื่อหวังในพุทธคุณนั้น ต้องมีความรู้เรื่องพระนั้นๆ อย่างถ่องแท้ หรือเช่ามาจากคนที่เชื่อถือได้จริงๆ ว่าเป็นพระแท้ เพราะถ้าไม่แท้เราจะโทษว่าพระนั้นไร้พุทธคุณ แต่ถ้าเป็นพระใหม่โดยเฉพาะพระที่สร้างเอง ทุกกระบวนการสร้างล้วนเป็นไปตามตำราการจัดสร้าง ทั้งมวลสาร ฤกษ์ รวมทั้งพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก ซึ่งเราสัมผัสได้ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าพระใหม่อาจจะขาดเรื่องเล่าด้านประสบการณ์ต่างๆ แต่ใช่ว่าไม่มีประสบการณ์เลย ต้องค่อยๆ สะสมเช่นเดียวกับพระเก่าที่โด่งดังส่วนใหญ่ต้องสะสมประสบการณ์หลายสิบปีคนถึงรู้จัก” หมอลักษณ์ กล่าว
ในจำนวนพระที่สะสมมาทั้งหมด หมอลักษณ์ บอกว่า ชอบและต้องมนต์เสน่ห์พระกริ่งมากที่สุดจึงเช่าพระกริ่งจากสำนักดังไว้ทุกรุ่น ทั้งสายวัดบวรฯ และวัดสุทัศน์ฯ โดยจะแขวนพระกริ่งมากกว่าพระองค์อื่นๆ และเมื่อมีโอกาสได้สร้างพระกริ่งจึงศึกษาทุกกระบวนการสร้างล้วนเป็นไปตามตำราการจัดสร้าง และกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า ไม่เคยสร้างพระขายเลยสักองค์เดียว
เมื่อถามถึงปาฏิหาริย์ในชีวิต “หมอลักษณ์ โหรฟันธง” ในฐานะที่เป็นหมอดู แน่นอนที่สุดว่าต้องดูดวงตัวเอง ช่วงหนึ่งดูรู้ว่าชีวิตจะเกิดอุบัติเหตุในเดือนใด นอกจากหาพระเครื่องชุดใหญ่มาใส่แล้ว ยังหลอกเจ้ากรรมนายเวรด้วยการสลับสับเปลี่ยนรถคันอื่นๆ มาใช้ แต่ที่ไหนได้กลับเกิดอุบัติเหตุตามที่ทำนายไว้ แต่นับว่าเป็นบุญที่ผ่านนาทีชีวิตมาได้
ส่วนคำทำนายที่โหรใหญ่ท่านหนึ่งทำนายว่า “หมอลักษณ์ โหรฟันธง จะตายเมื่ออายุ ๔๘” นั้น หมอลักษณ์ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “ผมรู้มาตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๒ จึงเร่งสร้างบุญ ไม่ประมาทในบุญ วัตถุและทรัพย์สมบัติที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของเราในวันนี้เมื่อสิ้นลมเอาติดตัวไปไม่ได้เลย การรู้วาระสุดท้ายของชีวิตว่าจะตายเมื่อไรหรือช่วงอายุเท่าไร อย่างน้อยทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เราต้องเร่งสร้างบุญเพื่อเป็นทุนติดไปในภพหน้า เพราะสุดท้ายแล้วทุกชีวิตบนพื้นโลกล้วนต้องตายสิ้นอายุขัยกันทุกคน มันอยู่ที่ว่าก่อนที่จะตายเราสร้างความดีสร้างบุญอะไรไว้บ้าง”
อย่างไรก็ตามในฐานะที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดสร้างพระใหม่หลายสิบรุ่น หมอลักษณ์ บอกว่า การสร้างพระใหม่อาจจะมองได้ว่าเป็นพุทธพาณิชย์ แต่ถ้าคิดว่าเป็นวัตถุมงคลที่ระลึกในโอกาสต่างๆ เช่น ที่ระลึกในการสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างพระ รวมทั้งซื้อที่ดินถวายวัด ฯลฯ ล้วนเป็นบุญ คนที่มีเงินเช่าพระเก่าราคาแพงถือว่าเป็นบุญวาสนาที่เคยสะสมมาแต่ในอดีต ส่วนคนที่เช่าพระใหม่ถือว่าร่วมบุญสร้าง เป็นพยานบุญที่จะตามติดตัวไปทุกภพชาติ
พระรอดหลวงหริภุญชัย เนื้อผง
ในส่วนของการจัดสร้างพระรอดหลวงหริภุญชัย เนื้อผง กำหนดให้มีการผสมชนวนมวลสารและประกอบพิธีในพระวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัย ก่อนหน้าวันเททอง ในฤกษ์ ๑ วัน คือ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ โดยพระราชปัญญาโมลี และคณะสงฆ์แห่งวัดพระธาตุหริภุญชัย ได้เจริญพระพุทธมนต์ ในขณะที่มีการผสมมวลสาร ผงมวลสาร ผงว่านมหามงคล ไม้มงคลต่างๆ ประมาณ ๓,๐๐๐ รายการ ถือเป็นมหามงคลที่ยิ่งใหญ่และเป็นประวัติศาสตร์
หลังจากนั้นในวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ มีการปั๊มองค์พระนำฤกษ์ โดยเจ้าคุณพระราชปัญญาโมลี และเจ้าหน้าที่ที่ประกอบพิธีกดพิมพ์พระผงในฤกษ์ ก็เริ่มกดพระพิมพ์ที่ศาลาบาตร ด้านทิศตะวันตก ของวัดพระธาตุหริภุญชัย ราว ๑ เดือน จนสำเร็จเสร็จสิ้น ทั้งนี้ พระผงทุกองค์จะมีแผ่นโลหะทองจังโก๋ที่ผสมทองชนวน ผสมทองปลียอดฉัตรพระธาตุเจ้าหริภุญชัย ผสมอยู่ในเนื้อทองจังโก๋นั้น ปั๊มเป็นรูปตราพระธาตุหริภุญชัยติดที่พระผงทุกองค์
พิธีมหาพุทธาเทวามังคลาภิเษก กำหนดขึ้นในวันที่ ๒๗-๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยมีพระมหาเถระ พระเถราจารย์ ตั้งจิตอธิษฐาน จุดเทียนชัย ๕ ต้น ได้แก่ ๑.พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดปากน้ำกรุงเทพฯ ๒.พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อทอง) วัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ ๓.พระธรรมเสนาบดี วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ๔.พระเทพภาวนาวิกรม (หลวงพ่อบุญมา) วัดชัยภูมิพิทักษ์ และ ๕.พระมงคลสุธี (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ในพิธีอธิษฐานจิตพุทธาภิเษกได้ทำพิธีตลอดราตรีกาล มีการบวชเนกขัมมะ เพื่อให้คณะสาธุชนศรัทธาได้ตั้งดวงจิตอธิษฐานอนุโมทนาไปพร้อม ๆ กับพระเถราจารย์นั่งปรกพุทธาเทวาภิเษกไปตลอดคืน
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญติดต่อสอบถามได้ที่คณะสะดือเมือง วัดพระธาตุหริภุญชัย โทร.๐๘-๒๖๒๐-๒๕๒๖, ๐๙-๑๘๕๒-๔๑๒๔ ศูนย์ประสานงานภาคกลาง ที่วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ กทม. โทร.๐-๒๔๒๔-๐๓๖๓ และ ๐๘-๗๖๖๔-๒๒๔๔
หรือติดตามภาพประวัติศาสตร์บันทึกการจัดสร้างพระรอดหลวงหริภุญชัย ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ “พระรอดหลวงหริภุญชัย”
พระรอดหลวงหริภุญชัย รุ่นปลียอดฉัตร
“พระรอดหลวงหริภุญชัย” พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย คณะสงฆ์วัดพระธาตุหริภุญชัย และกรรมการวัดพระธาตุหริภุญชัย ได้จัดสร้างพระรอดหลวงหริภุญชัย รุ่นปลียอดฉัตรพระธาตุเจ้าหริภุญชัย เพื่อเป็นมงคลที่ระลึกกฐินพระราชทาน พ.ศ.๒๕๕๘
อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ ประธานทอดกฐินพระราชทาน พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับมอบหมายแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการรวบรวมมวลสารในการจัดสร้างพระรอดหลวงหริภุญชัยในครั้งนี้ ซึ่ง อ.ลักษณ์ ได้อาราธนาขอบารมีของท่านเจ้าคุณธงชัย นำชนวนมวลสารที่รวบรวมไว้ตั้งแต่สร้างจตุคามรามเทพ รุ่นสัจจะอธิษฐานบุโรพุทโธ ประมาณ ๓,๐๐๐ รายการ มาร่วมบุญสร้าง
ในส่วนภาคพิธีกรรมนั้น เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘ โดยนายช่างสมร รัชชนะธรรม นายช่างประวัติศาสตร์ เป็นผู้เททองนำฤกษ์ เป็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ ส่วนเนื้อทองคำในฤกษ์ และเนื้อทองจังโก๋นั้น ประกอบพิธีเททองในวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘ ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา วัตถุมงคลทุกรายการเททองที่วัดโดยทั้งสิ้น โดยใช้โรงงานของนายช่างง่วนจั๊วะ ประกอบพิธีเททองทั้งหมด
