หลวงพ่อชาญพระแท้แห่งเมืองปากน้ำ | คมชัดลึก

            วัดบางบ่อเป็นวัดที่เก่าแก่ สร้างเมื่อปี ๒๓๒๔ ตอนปลายสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี นับอายุถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๒๓๔ ปี ไม่พบว่าใครเป็นผู้สร้าง วัดบางบ่อตั้งอยู่เลขที่ ๓ บ้านบางบ่อ คลองสำโรง หมู่ ๓ ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ ๔๓ ไร่ ๙๘ ตารางวา พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมคลองสำโรง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เจ้าอาวาสปกครองวัดเริ่มจาก พระอธิการโต พระอธิการแดง พระอธิการพร้อม พระครูพินิจสมณคุณ (หลวงปู่ไผ่) พระปลัดทรง สงฺฆวโร พระครูสังฆรักษ์ (หม๋อง) และพระมงคลวราการ (หลวงพ่อชาญ) รูปปัจจุบัน
 
            “พระมงคลวราการ” หรือ "หลวงพ่อชาญ อิณฺมุตฺโต" หรือที่ชาวบ้านมักเรียกขานว่า "หลวงพ่อใหม่” เจ้าอาวาสวัดบางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางบ่อ พระเถราจารย์ที่มีอายุยืนยาวถึง ๑๐๑ ปี ๘๑ พรรษา เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของสมุทรปราการในยุคปัจจุบันร่วมสมัยกับหลวงพ่อฟู อติภัทโท เจ้าอาวาสวัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ศิษย์เอกของหลวงพ่อคง วังสรรพรส และหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว

            แม้ว่าวัยจะล่วงเลยมานนานถึง ๑๐๑ ปี แต่จิตใจและสุขภาพของท่านยังดีเยี่ยม สามารถรับงานพุทธาภิเษกตามวัดต่างๆ ได้โดยเฉพาะในแถบสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี แทบทุกงานจะขาดท่านไม่ได้ เท่าที่ทราบหลวงพ่อชาญ ยังเป็นสหธรรมมิกที่สนิทกับหลวงพ่อเกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี ซึ่งทั้งสองท่านมีอายุไล่เรี่ยกัน

            หลวงพ่อชาญเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านวิชาอาคมและปฏิบัติ โดยเป็นที่พึ่งของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งรู้กันมานานหลายสิบปีแล้ว เพียงแต่เรื่องราวของท่านไม่ได้มีการเผยแพร่มากนัก เช่นเดียวกับพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ ที่แม้จะสร้างไว้ไม่มากรุ่น แต่พุทธคุณหลากหลายและบางอย่างกลายเป็นของดีที่เล่นหาในราคาที่สูง
 
            หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ ท่านสืบสายพุทธาคมหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยผ่านมาทาง  “หลวงพ่อไผ่” อดีตเจ้าอาวาสวัดบางบ่อ และหลวงพ่อคำ วัดนิยมยาตรา ซึ่งทั้ง ๒ ท่านเป็นศิษย์สายตรงหลวงพ่อปาน อีกทั้งได้วิชาจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังยุคอินโดจีน ๒ ท่านคือ ๑.หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เจ้าแห่งปลัดขิก ได้สอนวิชาธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งสามารถแสดงฤทธิ์ เรียกน้ำ-ห้ามไฟได้ รวมทั้งการตั้งธาตุหนุนธาตุประจุในวัตถุมงคล ซึ่งวิชานี้ลูกศิษย์ในสายหลวงพ่อเหลือ ทราบกันดีว่าเป็นหัวใจหลักของการปลุกเสกวัตถุมงคล

            ๒.หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี สอนวิชากัมมัฏฐาน ๔๐ กอง โดยท่านเล่าว่า “การเรียนกัมมัฏฐาน เป็นวิธีฝึกจิตให้เกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิก็เกิดปัญญา และมองได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย สรุป คือ ไม่มีอะไรเลย เพื่อให้ปลงและหลุดพ้น”

            นอกจากนั้น ท่านยังไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ศึกษาวิชาการทำลูกอม การลงอักขระเลขยันต์และการทำเครื่องรางมีลิง และเสือ จนมีความเชี่ยวชาญและนำมาสร้างเครื่องรางตามตำรับผู้เป็นอาจารย์ให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชา
 
            วิชาอาคมต่างๆ จากพระอาจารย์ขมังเวทย์แต่ละท่านล้วนเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตในช่วงที่ออกธุดงค์ไปหลายที่ อาทิ พระพุทธบาท สระบุรี พระแท่นดงรัง จ.กาญจนบุรี พระแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งแต่ละแห่งในยุคก่อนเต็มไปด้วยความยากลำบากและน่าสะพรึงกลัว ต้องผจญกับสัตว์ร้ายมีช้างป่า เสือ หมี และงูพิษ อีกทั้งต้องต่อสู้กับภูตผีปีศาจต่างๆ มากมาย หากไม่มีวิชาติดตัวเป็นเกราะกำบังก็หมายถึงไม่รอดชีวิตอย่างแน่นอน

วัตถุมงคลยุคต้น ที่ได้รับความนิยม

            วัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ กล่าวได้ว่าทุกรุ่นทุกชนิดได้รับความนิยมมาก จากเรื่องเล่าและประสบการณ์ต่างๆ ทำให้มีผู้คนหันมาสะสมพระชุดหลวงพ่อชาญวัดบางบ่อ โดยเฉพาะคนในพื้นที่มีประสบการณ์เยี่ยมในด้านคงกระพัน แคล้วคลาด สำหรับวัตถุมงคลยุคต้นๆ ที่ได้รับความนิยม คือ เหรียญรุ่นแรกของท่านออกที่วัดนิยมยาตรา พ.ศ. ๒๕๐๘ เพื่อนำรายได้เป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนวัดนิยมยาตราที่ท่านอุปถัมภ์อยู่ จำนวนสร้างประมาณไม่เกิน ๑,๐๐๐ เหรียญ ซึ่งการเช่าหาต้องพึงระวังของปลอมเลียนแบบด้วย
 
            ส่วนเหรียญรุ่นแรกที่ออกในนามวัดบางบ่อสร้าง ปี ๒๕๑๓ เรียกกันว่า “เหรียญล้อแม็ก” เท่าที่พบมี ๒ เนื้อคือ เนื้ออัลปาก้าและเนื้อทองแดง เหรียญรุ่นนี้เป็นที่ร่ำลือกันว่าเหนียวสุดๆ และมหาอุดจริงๆ เหรียญยอดนิยมอีกรุ่นคือ เหรียญปี ๒๕๑๘ (รุ่น ๒) มีด้วยกัน ๓ พิมพ์ คือ ๑.เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์ (นิยม) ๒.เหรียญรูปไข่เต็มองค์ ๓.เหรียญหันข้างหรือเหรียญอาร์มครึ่งองค์ ส่วนเหรียญรุ่น ๓ เรียกขานกันว่า “เหรียญสองผู้ยิ่งใหญ่” รุ่นกรรมการ สร้างปี ๒๕๑๙ ด้านหน้าหลวงพ่อชาญ ด้านหลังหลวงพ่อหม่อง พระอาจารย์ของท่าน

            เหรียญสตางค์ ปี ๒๕๒๑ เป็นเหรียญเก่าอีกรุ่นที่น่าสะสมมีทั้งกะไหล่ทองและไม่ไม่มีกะไหล่ เป็นเหรียญที่โด่งดังในอดีต ประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานว่าแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีเหรียญนั่งเสือ ไตรมาส ปี ๒๕๕๐ ที่เป็นเหรียญประสบการณ์ดังอีกรุ่น
 
            เครื่องรางประเภทเสือรุ่นแรก จัดสร้างเมื่อปี ๒๕๓๐ หรือที่เรียกกันว่า เสือรุ่น “สร้างเขื่อน” จำนวนไม่เกิน ๑oo ตัว เนื้อทองผสม ในบรรดาวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อชาญแล้ว ถือว่าเสือรุ่นนี้หายากที่สุด คนในพื้นที่ต่างหวงแหนยิ่งนักเพราะข้อมูลและหน้าตาของเสือบางคนยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำไป

            พระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงพ่อชาญในยุคหลังจนถึงปัจจุบันที่ท่านอนุญาตให้จัดสร้างหรือเมตตาอธิษฐานจิต ล้วนได้รับความนิยมแพร่หลายและบางรุ่นมีประสบการณ์หนักมาก ทั้งนี้เพราะความเชื่อความศรัทธาในบารมีแห่งความเป็นพระดีมีวิชาของหลวงพ่อชาญล้วนๆ

วัตถุมงคลรุ่น “สร้างกำแพง”

            สืบเนื่องจากวัดบางบ่อกำลังก่อสร้างกำแพงวัด ต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนหนึ่ง จึงดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น “สร้างกำแพง” เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างกำแพงวัดให้เสร็จสมบูรณ์ โดยหลวงพ่อชาญประธานฝ่ายสงฆ์ นายเชิดชัย เชยนาค อดีตส.จ.สมุทรปราการและอดีตเลขาฯ นายกอบจ.สมุทรปราการ ประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบด้วย

            พระกริ่งบางบ่อ พระชัยวัฒน์บางบ่อ เทดินไทยโบราณ, รูปหล่อหลวงพ่อชาญ เทดินไทยโบราณ, รูปเหมือนปั๊มอุดกริ่ง พิมพ์เข่ากว้างรุ่นแรก, รูปเหมือนปั๊มอุดกริ่ง พิมพ์นิยมรุ่นแรก, เหรียญห่วงเชื่อมหลวงพ่อชาญ รุ่นแรก และสุภาพบุรุษเสือไทย “พยัคฆ์บางบ่อ” ทุกรูปแบบตอกโค้ดและหมายเลขกำกับ
 
            กำหนดพิธีเททองหล่อที่วัดบางบ่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๕๙ น. พล.อ.อุดม สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระสงฆ์นั่งปรก ๔ ทิศ ๔ รูปคือ หลวงปู่ฮก วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) หลวงปู่ฟูวัดบางสมัคร หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน พิธีพราหมณ์โดยโหรหลวงสำนักพระราชวัง และกำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ มณฑลพิธีวัดบางบ่อในวันอาทิตย์ที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๙ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะแม ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญสอบถามฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร.๐๘-๑๕๗๓-๕๒๗๕, ๐๙-๔๙๒๖-๗๑๑๑ และ ๐๘-๖๖๐๐-๒๖๒๙