พระทองคำ'มากค่าหายาก' | คมชัดลึก

             มนุษย์รู้จัก “ทองคำ” มาตั้งแต่ประมาณ ๕,๐๐๐ ปี เป็นความหมายแห่งความมั่งคั่ง โดยนำมาตีมูลค่าสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและใช้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับวงการเครื่องประดับ

             ในวงการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคล “ทองคำ” ก็ได้รับความนิยม แต่ทองคำที่่ใช้หลอมหล่อเป็นองค์พระไม่ใช่ทองคำบริสุทธิ์เช่นในปัจจุบันอย่างน้อยๆ มีการจารอักขระลงในแผ่นจาร ซึ่งมีทั้งเนื้อเงิน เนื้อทองแดง และในบางวาระก็นำโลหะธาตุ (วิเศษ) อื่นๆ ผสมเพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ พระที่เป็นเนื้อทองคำหากมีอายุพอสมควรจะต้องเกิดปฏิกิริยากับอากาศจากส่วนผสมที่ไม่ใช่เนื้อทองคำ ในวงการพระและในท้องตลาดจะพบเห็นพระเนื้อทองคำกันมากมายมีทั้งของแท้และปลอมเรียนแบบ

             พระเนื้อทองคำเคยถูกสร้างขึ้นมาในยุคโบราณมีอายุหลายร้อยปีมีมากมาย ที่พบบ่อยมากที่สุดคือ พระยอดธง ส่วนใหญ่พบที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะมีกระจายอยู่แทบทุกกรุในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง เช่น ปทุมธานี แต่ที่พบมากที่สุดคือ พระยอดธงอยุธยา กรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าผู้นำของแต่ละเหล่าทัพจะสร้างพระยอดธงตามความเคารพเลื่อมใสในพุทธคุณขององค์พระนั้นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่กองทัพและไพร่พลของตน

             “พระยอดธง” นับว่ามีชื่อเสียงเป็นที่นิยมและแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาอย่างมาก สืบเนื่องจากเป็นพระเก่าแก่ที่ผ่านการศึกสงครามมาแล้ว แสดงถึงพุทธคุณล้นเหลือในการคุ้มครองกองทัพทั้งกองทัพไม่ใช่รายบุคคล จึงเชื่อว่าจะมีความเข้มขลังมากนั่นเอง

             สำหรับเหรียญพระพุทธที่สร้างด้วยเนื้อทองคำ คือ เหรียญหลวงพ่อโสธร รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๐ ที่นับว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลหลวงพ่อโสธร และถือได้ว่า “เหรียญหลวงพ่อโสธร รุ่นแรก” เป็นเหรียญพระพุทธที่มีราคาแพงที่สุดในประเทศ

             ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่สร้างด้วยเนื้อทองคำเหรียญแรก คือ “พระครูวินัยธรรม“ หรือ ”หลวงพ่อแก้ว พรหมสโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดพวงมาลัยรูปแรก ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ที่จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๙ ซึ่งเป็นเหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อแก้วขึ้นมา มีด้วยกัน ๒ บล็อก คือ บล็อกวัด อันเป็นบล็อกนิยม หรือพิมพ์นิยม และอีกบล็อกหนึ่งคือ บล็อกวัง วังที่ว่าคือ “วังบูรพา” ของสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งทรงเคารพนับถือหลวงพ่อแก้วเป็นอย่างมาก

             ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าในวงการพระเครื่องและในท้องตลาดจะพบเห็นพระเนื้อทองคำกันมากมาย มีทั้งของแท้และปลอมเลียนแบบ มีหลายต่อหลายท่านที่ครอบครอง พระเครื่องที่มีสีเหมือนเนื้อทองคำ แต่ไม่ใช่เนื้อทองคำทั้งองค์ดันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระเนื้อทองคำทั้งองค์ บางท่านครอบครองพระเนื้อทองคำแท้ แต่กลับเป็นพระที่สร้างใหม่เลียนแบบ หรืออาจจะได้ครอบครองพระเปียกทอง (ชุบทอง) มีทั้งชุบหนาและชุบบาง

             ในอดีตนั้นวงการพระเครื่องไม่ค่อยพบเหรียญพระพุทธและเหรียญพระสงฆ์เนื้อทองคำ ด้วยเหตุที่ว่าพระส่วนใหญ่อยู่ในมือของคหบดีและเศรษฐีผู้ที่เป็นกรรมการวัด หรือมีส่วนร่วมในการสร้างพระรุ่นนั้นๆ จึงไม่ได้พบเห็น แต่เมื่อเสียชีวิตลงตกเป็นสมบัติรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยเฉพาะกรณีมีทายาทหลายคนเป็นเรื่องยากที่จะแบ่งพระทองคำองค์เดียว จึงมีการนำพระทองคำออกมาขายเพื่อนำเงินไปแบ่งกัน เช่นเดียวกับการแตกรังของพระกรุใหญ่ๆ ซึ่งว่าเป็นเรื่องปกติของวงการพระและเป็นไปตามสัจธรรมที่เป็นอมตะว่าสมบัติผลัดกันชม

             ขอคุณภาพพระทองคำของนายสุขธรรม ปานศรี หรือที่คนในวงการรถยนต์รู้จักในชื่อ “เฮียกุ่ย” นักสะสมพระหลวงพ่อทวดมานานกว่า ๑๐ ปี ส่วนผู้ที่สนใจศึกษาพระเนื้อทองคำ รวมทั้งพระองค์ที่ขึ้นชื้อว่าสวยแชมป์ สามารถเข้าชมความงามของพุทธศิลป์ของพระที่อยู่ในความครอบครองในรังพระของเฮียกุ่ยได้ ที่ “WWW.SOONPRARATCHADA.COM” ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

พระชินราชใบเสมาทองคำ

             “พระชินราชใบเสมา” พระกรุเก่าที่นับว่าเป็นหนึ่งในพระยอดขุนพลที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างสูง มีแหล่งที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” และแหล่งพระเครื่องเก่าแก่มากมายที่มีชื่อเสียง อาทิ พระนางพญาวัดใหญ่ พระท่ามะปราง พระอัฏฐารส พระชินสีห์ ฯลฯ แตกกรุออกมาเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๔๐ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จฯ เมืองพิษณุโลก มีประชาชนที่ขุดค้นพบนำมาทูลเกล้าฯ ถวาย พระองค์ทรงนำแจกจ่ายไปยังพสกนิกรที่ติดตามเสด็จกันอย่างถ้วนหน้า

             นอกจากนี้ยังมีผู้พบปรากฏที่กรุอื่นๆ ด้วย คือ กรุพระปรางค์ กรุอัฏฐารส กรุเขาสมอแคลง กรุพรหมพิราม และกรุเขาพนมรุ้ง แต่ที่นับว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นพระชินราชใบเสมา กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก

             พุทธลักษณะของพระชินราชใบเสมานั้น เป็นพระที่สร้างแบบศิลปะอู่ทองยุคต้น เป็นพระพิมพ์ครึ่งซีกเพียงหน้าเดียว ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระพุทธปฏิมากร นั่งปางมารวิชัย ประทับนั่งบนอาสนะ ฐานบัวคว่ำบัวหงาย ด้านบนมี ๙ กลีบ ด้านล่างมี ๙ กลีบ องค์พระอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว ด้านหลังจะปรากฏเป็นลายผ้า

             เนื่องจากอาณาบริเวณพระศรีรัตนมหาธาตุกว้างขวาง มีโบราณสถานต่างๆ เป็นจำนวนมากพระชินราชใบเสมา ขุดพบจากกรุภายในวัดหลายแห่ง เช่น กรุอัฏฐารส กรุต้นโพธิ์ กรุประตูชัย กรุพระปรางค์ ฯลฯ พระที่ค้นพบมีด้วยหลายพิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ ฐานสูง พิมพ์ใหญ่ ฐานเตี้ย พิมพ์กลาง ฐานสูง พิมพ์กลาง ฐานเตี้ย พิมพ์เล็ก ฐานสูง และพิมพ์เล็ก ฐานเตี้ย

             พระทุกพิมพ์ทุกเนื้อล้วนมีพุทธคุณเป็นเลิศปรากฏทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด อำนาจบารมี ครบเครื่องครบครัน