พระเครื่อง

 พ.ต.อ.อัครภณกับปาฏิหาริย์'พระกริ่งพุทธชินราชรุ่นเสือดำ'

พ.ต.อ.อัครภณกับปาฏิหาริย์'พระกริ่งพุทธชินราชรุ่นเสือดำ'

08 ส.ค. 2558

พ.ต.อ.อัครภณ วริศเจริญกับปาฏิหาริย์'พระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ' : พระเครื่องสรณะคนดัง โดยไตรเทพ ไกรงู

             “มนตรา สัตถาผล” เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของ “พ.ต.อ.อัครภณ วริศเจริญ” ผู้กำกับการกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.๕ ซึ่งกว่าจะได้ชื่อและนามสกุลใหม่นั้น พ.ต.อ.อัครภณใช้เวลาเกือบ ๑ ปี ในการตั้งชื่อ เมื่อได้ชื่อมาก็ให้ผู้ที่มีความรู้มากกว่าช่วยดูอีกหลายครั้ง ดูแล้วดูอีก ในที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ และเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่ว่า เป็นรองผู้กำกับมา ๑๐ ปี ได้เลื่อนมาเป็น ผกก.๑ บก.สอ.บช.ตชด.

             พ.ต.อ.อัครภณ เล่าว่า เป็น ตชด.อยู่ทางภาคเหนือมากว่า ๒๐ ปี กว่าจะมานั่งในตำแหน่งนี้ลุ้นมาหลายปี ลุ้นชนิดที่เรียกไม่มีโอกาสที่จะเป็น จนกระทั่งมีคนมาทักว่า “หากไม่เปลี่ยนชื่อจะเป็นอยู่อย่างนี้ตำแหน่งไม่ก้าวหน้า” ครั้งแรกๆ ก็ไม่เชื่อ เพราะชื่อที่พ่อตั้งมาแต่เกิดอย่างไรก็เป็นมงคล แต่หลายครั้งและหลายปีที่มีการเสนอเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ทั้งๆ ที่เป็นตัวเต็ง แต่อยู่ๆ ก็มีนายตำรวจท่านอื่นย้ายข้ามห้วยเอาตำแหน่งไปต่อหน้าต่อตา หลายๆ ครั้งเข้าจึงมีความคิดว่าน่าจะลองเปลี่ยนชื่อดู โดยได้ไปศึกษาตำราการตั้งชื่อด้วยตัวเอง ในที่สุดจึงตัดสินใจเปลี่ยนทั้งชื่อ เปลี่ยนทั้งนามสกุล จากเดิมที่ใช้มา ๔๕ ปี คือ “มนตรา สัตถาผล” เปลี่ยนเป็น “อัครภณ วริศเจริญ” และใช้มาถึงทุกวันนี้

             เมื่อครั้งที่เป็น ผกก.๑ บก.สอ.บช.ตชด. พ.ต.อ.อัครภณ บอกว่า ตำรวจพลร่มหน่วยรบพิเศษถือว่าเป็นศิษย์ก้นกุฏิของพระอาจารย์ไพโรจน์ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะว่าวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีของตำรวจพลร่มหน่วยรบพิเศษ โดยมีความคุ้นเคยกับท่านเมื่อครั้งท่านเดินธุดงค์อยู่ในบริเวณป่าละอู ด้วยความห่วงใยท่านจึงดำริให้ตำรวจพลร่มช่วยกันเก็บรวบรวมปลอกกระสุนปืน จากนั้นนำไปหลอมรวมกับมวลสารศักดิ์สิทธิ์อย่างอื่นอีก ๙ ชนิด ได้แก่ ๑.ประคำแร่มงคล ๑๐๘ ๒.ชนวนหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ๓.เหรียญคณาจารย์ยุคเก่าที่มีชื่อเสียงทางพุทธคุณหลากหลายชนิด ๔.โลหะมงคลตามสูตรโบราณ ๙ ชนิด รวมทั้งเหล็กน้ำพี้บริสุทธิ์จากแหล่งทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ โดย พ.ต.อ.ไพโรจน์ ริมประโคน ผกก.๑ บก.สอ.บช.ตชด.ในขณะนั้นเป็นผู้รวบรวม
             
             ๕.อาวุธปืนโบราณ ๖.กระสุนปืนเก่า ๗.เครื่องหมายราชอิสริยาภรณ์และตราแผ่นดินที่เป็นโลหะ ๘.เหล็กไหลจากถ้ำวิปัสสนาที่เชื่อว่าได้รับกระแสจิตความศักดิ์สิทธิ์จากพระเกจิอาจารย์ที่ธุดงค์เข้าไปปฏิบัติธรรมในถ้ำนั้น และ ๙.แผ่นจารอักขระจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ แล้วนำไปหล่อในแบบพิมพ์พระกริ่งที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ โดยใช้พระกริ่งนเรศวรเพชรกลับของวัดพระศรีมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีเอกลักษณ์สวยงามมากเป็นต้นแบบ แต่รุ่นนี้สร้างขึ้นสำหรับตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ที่ไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้ จึงเรียกว่า “พระกริ่งนเรศวรเพชรกลับ รุ่นอัศวิน” ตามนามเรียกขานของหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม (กก.๑ บก.สอ.บช.ตชด.) ค่ายนเรศวร

             อย่างไรก็ตามในฐานะที่เคยเป็นผู้นำหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม พ.ต.อ.อัครภณ พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า “แม้ว่าคติพจน์ของหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่มที่ท่องกันทุกเช้าเย็น คือตายในสนามรบยังดีกว่าละทิ้งหน้าที่ ตายในสนามรบเป็นเกียรติของค่ายนเรศวร แต่ไม่มีใครอยากตาย ไม่ว่าเราจะฝึกทำการรบด้วยยุทธวิธีอย่างเข้มข้น แต่เมื่อต้องลงปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จริง เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีพระเครื่อง วัตถุมงคล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้คุ้มกะลาหัว ก่อนออกจากค่ายหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่มจะต้องไปไหว้ขอพรสมเด็จพระนเรศวร และเสือดำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม”

พระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ

             หลังจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ต.อ.อัครภณ บอกว่า คุมหน่วยรบและออกปฏิบัติการในพื้นที่มาตลอด เมื่อรับหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่มตำรวจในหน่วย ๖๐๐ นาย ถูกส่งไปประจำการใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด แต่ละปีต้องสูญเสียกำลังพลประมาณ ๑๕-๒๐ นาย เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๕ จึงไปกราบพระอาจารย์ไพโรจน์ และพูดขอในเชิงท้ายว่า “อยากให้ท่านสร้างพระที่แคล้วคลาดปลอดภัย ไม่โดน ไม่เจ็บ ไม่ตาย จะทำได้ไหม” ท่านแนะนำให้ไปเก็บปลอกกระสุนปืนมาสร้าง “พระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ”

             พระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ สร้างขึ้น ๓ แบบ แบบ ละ ๑๐,๐๐๐ องค์ คือ ๑.เนื้อทองเหลืองปลอกกระสุนปืน ๒.เนื้อทองเหลืองปลอกกระสุนปืนรมดำ และ ๓.เนื้อทองเหลืองปลอกกระสุนปืนชุบทองไมครอน ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีปลุกเสกหน้าพระหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธี

             “ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๕ ตำรวจในสังกัดหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม ๖๐๐ นาย ที่ได้รับมอบพระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า นับแต่นั้นมาไม่มีการสูญเสียตำรวจสักนาย เมื่อผมย้ายไปเป็นหัวหน้าหน่วยที่ไหนก็ตามจะแจกลูกน้องให้แขวนติดตัวคนละองค์ ซึ่งตลอดที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่มีใครเป็นอะไร ทุกวันนี้ผมก็แขวนพระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ พระที่ผมสร้างเองมากับมือเพียงองค์เดียวเท่านั้น” พ.ต.อ.อัครภณ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
 
             อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งเป็น ผกก.กก.สส.ภ.จว.พะเยา ได้นำออกให้เช่าบูชาเพื่อหารายได้ปรับปรุง พัฒนาที่ตั้งและสนามยิงปืนหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา และเมื่อ พ.ต.อ.อัครภณ ย้ายมารับตำแหน่งผู้กำกับการกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.๕ ซึ่งรับผิดชอบหน่วยสวาท หรือหน่วยคอมมานโดของตำรวจภูรภาค ๕ จึงนำพระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ ออกให้เช่าบูชาเพื่อนำเงินมาสนับสนุนกิจการและกำลังพลของหน่วย

             ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนภารกิจของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.๕ สอบถามรายละเอียดได้ที่ ร.ต.อ.ธนาถ อินทุ่ง โทร.๐๘-๙๘๓๘-๘๙๒๙ และ ร.ต.ท.วิรันต์ บุญเทียม โทร.๐๘-๑๖๐๓-๐๔๙๘ (ในเวลาราชการ)

พลังศรัทธา “พระอาจารย์ไพโรจน์”

             พ.ต.อ.อัครภณ บอกว่า การลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม และตำรวจตระเวนชายแดน จะแตกต่างจากหน่วยงานอื่น คือตลอดระยะเวลา ๘ ปีที่ผ่านมาจะไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในส่วนของที่พักที่อาศัย รัฐบาลจะจ่ายให้เฉพาะเงินเดือนกับเบี้ยเลี้ยงเท่านั้น ในส่วนที่พักที่อาศัยต้องเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่ต้องจัดหามาเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับบารมีจากหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ และความช่วยเหลือจากพระอาจารย์ไพโรจน์ โดยส่งข้าวปลาอาหารไปช่วยทุกเดือนไม่ต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท

             ทั้งนี้เมื่อพระอาจารย์ไพโรจน์เดินทางไปเยี่ยมตำรวจพลร่มในพื้นที่ปฏิบัติการที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ได้เห็นการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีอันตรายรอบด้าน มีการใช้วัตถุระเบิดและอาวุธปืนยิงต่อสู้กันอยู่เสมอ ตามสูตรโบราณเชื่อว่าปลอกกระสุนที่ได้จากการปราบปรามโจรผู้ร้ายนั้นมีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดปลอดภัย เมื่อสร้างพระกริ่งพุทธชินราช รุ่นเสือดำ จึงนำปลอกกระสุนมาหล่อเป็นพระรุ่นนี้ทั้งหมด

             ในส่วนของพระที่เหลือจากการมอบให้หน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม พ.ต.อ.อัครภณนำออกให้บุคคลทั่วไปเช่าบูชา นอกจากนั้นให้เป็นสวัสดิการช่วยเหลือหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่มในการปฏิบัติงานต่อไปแล้ว ยังนำไปช่วยเหลือวัด สำนักสงฆ์ รวมทั้งสุเหร่าและมัสยิดที่อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการของหน่วยรบพิเศษตำรวจพลร่ม อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต

พ.ต.อ.อัครภณกับปาฏิหาริย์\'พระกริ่งพุทธชินราชรุ่นเสือดำ\'