
พระอาจารย์จิ้ม'พระต้องสร้างคนแล้วคนจะช่วยพระสร้างวัด'
พระอาจารย์จิ้มวัดศรีวโนภาสฯพระต้องสร้างคนแล้วคนจะช่วยพระสร้างวัด : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
วัดศรีมโนภาสสถิตย์พร หมู่ ๑ ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นวัดที่ ๖ ของคณะธรรมยุตจังหวัดระยอง ที่มีการก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๗ โดยในสมัยนั้นคุณแจง และคุณแข่ง ศรีธาราม เป็นผู้ถวายที่ดินเพื่อก่อสร้างวัดโดยมีเนื้อที่ประมาณ ๔๘ ไร่ ได้รับวิสุงคามเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
พ.ศ.๒๕๔๒ มีการสร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นมาใหม่อีก ๑๒ หลัง รวมทั้งมีการพัฒนาปรับปรุงสภาพของวัดขึ้นมาใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๗ ได้ดำเนินการก่อสร้างเรือนรับรองสมเด็จ เพื่อรับรองพระเถรานุเถระและพระผู้ใหญ่ และอนุญาตให้ใช้ที่ดินส่วนหนึ่งของวัดสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเนินสำราญ รวมทั้งสร้างที่อยู่อาศัยให้ชาวบ้านที่ยากจนไม่มีที่อยู่อาศัย และพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน
ปัจจุบันวัดศรีวโนภาสสถิตย์พร มีพระครูบวรสาธุกิจ หรือพระอาจารย์จิ้ม เป็นเจ้าอาวาส ทั้งนี้ ท่านได้พัฒนาและมีความพร้อมทางถาวรวัตถุที่ใช้ในทางพระพุทธศาสนาในระดับหนึ่ง รวมทั้งชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนากันมากขึ้นจนทำให้วัดเป็นศาสนสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของหมู่บ้านและมีชื่อเสียงจวบจนปัจจุบัน
“เมื่อ ๒๐ ปีก่อน วัดนี้ไม่ต่างจากวัดร้างทั่วๆ ไป มีเพียงกุฏิเก่าๆ ๒ หลัง และศาลาโทรมๆ หลังหนึ่งเท่านั้น เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ อาตมาได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ มาวางศิลาฤกษ์โบสถ์ วันนั้นมีคนถวายหลวงพ่อคูณปัจจัยกว่า ๓ ล้านบาท”
นี่เป็นจุดเริ่มต้องการสร้างวัดศรีวโนภาสฯ จากคำบอกเล่าของพระอาจารย์จิ้ม
สำหรับจุดเริ่มต้นและหลักการในการสร้างวัดนั้น พระอาจารย์จิ้ม พูดไว้อย่างน่าคิดว่า ถ้ามีปัจจัยจะสร้างวัดชนิดที่เนรมิตให้สวยงดงามเท่าไรก็ได้ แต่สิ่งที่ยากกว่าคือ การสร้างคน เพราะโดยส่วนตัวแล้วมีความเชื่อว่าเมื่อพระสร้างคนในที่สุดคนก็จะมาช่วยสร้างวัด ซึ่งในอดีตวัดศรีวโนภาสฯ ไม่ค่อยมีคนมาเข้าวัดทำบุญ แต่ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์รวมทางจิตใจและศูนย์กลางในการประกอบกิจกรรมของชุมชน
ทั้งนี้เราต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถสร้างคนด้วยเงินได้ แต่เราสามารถสร้างคนได้ด้วยศีลธรรม สร้างด้วยคำสอนพระพุทธเจ้าเท่านั้น จึงเอาเด็กเข้ามาบวชเณร โดยครั้งแรกมีเด็กมาบวช ๓๐ คน จากนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเอาลูกมาบวชพ่อแม่และญาติพี่น้องก็ตามมาเข้าวัดทำบุญ ขณะเดียวกันก็เริ่มสร้างโรงเรียนเพื่อให้เด็กเรียน ในที่สุดก็สร้างคนได้สำเร็จ
ในช่วงปีแรกๆ จำนวนพระน้อยมากชนิดที่ว่าในช่วงเข้าพรรษาต้องไปขอร้องให้พระวัดอื่นมาช่วยจำพรรษาให้ครบ ๕ รูป เพื่อให้รับกฐินได้ แต่เมื่อสร้างคนได้แล้วในพรรษาที่ ๓ วัดศรีวโนภาสฯ จะมีพระบวชในพรรษาไม่ตำกว่า ๒๐ รูป และเคยมีมากถึง ๘๐ รูป โดยในพรรษา พ.ศ.๒๕๕๘ นี้ มีพระบวชใหม่เกือบ ๓๐ รูป
“การสร้างคนแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ไม่เกินความสามารถหากเราตั้งใจ เป็นพระต้องเป็นผู้ให้ก่อนไม่ใช่เป็นฝ่ายรับ พระต้องทำให้คนเกิดศรัทธาในวัตรปฏิบัติก่อน หากพระเป็นผู้นำที่ไม่ดี มีวัตรปฏิบัติที่ไม่งดงาม เป็นเรื่องยากที่จะให้คนเข้าวัด และสอนคนให้เชื่อและเข้าใจในธรรมของพระพุทธเจ้า” พระอาจารย์จิ้ม กล่าว
เมื่อถามถึงเหตุผลในการบวช พระอาจารย์จิ้มตอบสวนมาว่า ตอนที่บวชนั้นคิดว่าบวชตามประเพณี บวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ เพียงพรรษาเดียวก็สึกแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงมันไม่ใช่อย่างที่คิดไว้แต่ต้น เผลอแป๊บเดียวบวชมา ๒๕ พรรษาแล้ว ซึ่งมีงานเพื่อพระพุทธศาสนา งานเพื่อพุทธบริษัท ๔ ที่จะต้องทำอีกมาก ชนิดที่เรียกว่าตายคาผ้าเหลืองคงทำไม่หมด
'ขุนแผนพรายกุมาร'วัดศรีวโนภาสฯ
"เพื่อหาปัจจัยในการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม สร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมทั้งปรับปรุงศาสนสถานของวัดศรีวโนภาสสถิตย์พร" นี่เป็นจุดประสงค์ในการจัดสร้างขุนแผนผงพรายกุมาร โดยมีมวลสารจากศิษย์สายตรงหลวงปู่ทิมแบบเข้มข้นมวลสารชุดนี้จัดเต็ม จริงๆ ผงพรายแท้ๆ ที่หลวงปู่ใช้ตอนทำชุดผงพรายกุมารทั้งหมด น้ำมันงา น้ำมันประคำ สายสิญจน์งานเสกพระกริ่ง และในห้องหลวงปู่ทิม มวลสารจากอาจารย์เพียรวิทย์ จารุสถิติ และ อาจารย์นิลนารถ วัฒนธรรม รวมทั้งมวลสารว่านอีกมากมายจากพระอาจารย์จิ้ม เจ้าอาวาสวัศรีมโนภาสฯ
หลังจากขุนแผนผงพรายกุมาร ปั๊มพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ ตามจำนวนเรียบร้อยแล้ว พระอาจารย์จิ้มได้ให้ลูกศิษย์เอาเลื่อยตัดเหล็ก เลื่อยบล็อกทั้งหมด โดยแต่ละบล็อกเลื่อยออกเป็น ๔ ส่วนหรือ ๔ ชิ้น จะทำให้พระรุ่นนี้ดังไปทั่ว ๔ ทิศเลยนะ” นี่คือเคล็ดวิชาที่หลวงปู่ทิมได้อธิษฐานและลั่นวาจาไว้ จนปัจจุบันนี้พระรุ่นนี้จึงดังไปทั่วทั้ง ๔ ทิศจริงๆ
พระขุนแผนผงพรายกุมาร วัดศรีวโนภาสฯ จัดสร้างโดยทีมงาน "นายเกรียงไกร จิระสวัสดิ์ตระกูล" หรือ "ป้อม สกลนคร" ผู้ซึ่งถูกยกให้เป็นมือวางอันดับ ๑ "อาจาย์ฝั้น-หลวงปู่ทิม" หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ที่ปรึกษา วัฒน์ สาธุประดิษฐ์ นพธิดา อุบล (ต้นอ้อ) ทีมงานดูแลผลิต วิทย์พระยาสุเรนทร์&Getjung
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ วัดจัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกพระขุนแผนพรายกุมาร วัดศรีวโนภาสฯ ระยอง ในงานพิธีมีแจกพระสิวลี ปรากฏว่า พระสิวลีที่แจกฟรีนั้นมีการเช่าซื้อกันสูงถึงองค์ละ ๒,๐๐๐ บาท
หมอกฤษฎ์"สร้างพระเพื่อให้คนได้ใช้"
“นายศุกฤษฎ์ ศรีปทุมวิโรจน์” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม” บอกว่า แขวนพระขุนแผน ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม มาตั้งแต่เด็กเพราะลุงเป็นศิษย์ครอบครูของหลวงปู่ทิม จากนั้นเมื่อโตขึ้นและมีเงินก็เช่าพระที่ขึ้นชื่อแนวหน้าของวงการ ทั้งพระชุดเบญจภาคี พระหลวงปู่ทวด แต่ในที่สุดก็มาจบที่พระขุนแผน ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ชนิดที่เรียกว่าในคอจะขาดพระขุนแผน ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม ไม่ได้เลยสักวันเดียว โดยแขวนมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๖ มาถึงปีนี้ก็แขวนมาแล้ว ๑๒ ปี ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
"พระขุนแผนหลวงปู่ทิมวันนี้เป็นเรื่องยากที่คนทั่วๆ ไปจะเช่าหามาขึ้นคอ เพราะคาราขึ้นไปที่หลักแสน ดังนั้นการจัดสร้างพระขุนแผนพรายกุมาร วัดศรีวโนภาสฯ ในครั้งนี้ ผมมีความตั้งใจสร้างที่ให้มีความใกล้เคียงกับพระขุนแผนที่หลวงปู่ทิมมากที่สุด ทั้งในส่วนของพิมพ์และมวลสารจากศิษย์สายตรงหลวงปู่ทิมแบบเข้มข้นมวลสารชุดนี้จัดเต็ม จริงๆ ผงพรายแท้ๆ ที่หลวงปู่ใช้ตอนทำ ชุดผงพรายกุมารทั้งหมด น้ำมันงา น้ำมันประคำ สายสิญจน์งานเสกพระกริ่ง และในห้องหลวงปู่ทิม มวลสารจากอาจารย์เพียรวิทย์ จารุสถิติ และอาจารย์นิลนารถ วัฒนธรรม เพื่อให้พระมีพุทธคุณ และได้ใช้จริงๆ" นี่เป็นคำยืนยันของ “หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม”
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมทุกรุ่น สามารถเข้าชมได้ที่ "www.facebook.com/puutim" และ "www.facebook.com/groups/puutim" ทั้งนี้ คุณนพธิดา อุบล หรือต้นอ้อ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก หลวงปู่ทิมพระเครื่อง ได้รวบรวมการดูพระขุนแผนผงพรายกุมาร รวมทั้งพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมสร้างไว้ครบทุกรุ่น โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า ๗๐,๐๐๐ คน