พระเครื่อง

'ยังศรัทธายึดมั่นในองค์พ่อจตุคามฯ'หมอ ท่าแซะ ผู้ชำนาญพระสายใต้

'ยังศรัทธายึดมั่นในองค์พ่อจตุคามฯ'หมอ ท่าแซะ ผู้ชำนาญพระสายใต้

19 ก.ค. 2552

จ.ชุมพร ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟ แลหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก ... เป็นเมืองเก่าแก่ในตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช (พ.ศ.๑๐๙๘) โดยเป็นหนึ่งในเมืองสิบสองนักษัตรของเมืองนครศรีธรรมราช ถือ ตราแพะ (มะแม) เป็นตราประจำเมือง

 เมืองชุมพร มีวัดวาอารามเก่าๆ และมีพระเกจิอาจารย์มากมาย ผู้สืบสานวิทยาคมมาแต่โบราณกาลจนถึงทุกวัน อาทิ พ่อหลวงสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงพ่อมุม วัดนาสัก หลวงพ่อเปี๊ยก วัดนาสร้าง หลวงพ่อจี๊ด วัดถ้ำเขาพลู ฯลฯ

 ตรงจุดนี้เอง ที่ทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งจาก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีความสนใจในเรื่องพระเครื่องของเกจิอาจารย์บ้านตัวเอง มาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านเกิด

 ต่อมา เมื่อได้เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทำให้รู้จักสนามพระที่มีอยู่หลายแห่ง ยิ่งทำให้มีความรู้เรื่องพระเครื่องมากขึ้นไปด้วย และเมื่อเรียนจบ ได้เข้าทำงานที่บริษัทจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี อยู่ที่สนามบินดอนเมือง มีเพื่อนร่วมงานเห็นเขาหยิบแว่นขยายขึ้นมาส่องพระ จึงเรียกเขาว่า "หมอ ท่าแซะ" เพราะถามอะไรเขา เป็นต้องตอบได้ เป็นผู้รอบรู้เรื่องราวต่างๆ ได้สารพัด โดยเฉพาะเรื่องพระเครื่อง จำได้แม่นเป็นพิเศษ

 ทั้งนี้ ชื่อ "หมอ ท่าแซะ" ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชีพนายแพทย์ตามโรงพยาบาล หรือหมอแผนโบราณ หมอดู หมอเดา ฯลฯ แต่ประการใด

 "หมอ ท่าแซะ" มีชื่อจริงว่า วิสุทธิ์ ศุกลสกุล เป็นหนึ่งในคณะผู้ชำนาญพระสายใต้ ของ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย โดยมีหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินพระชุดสายใต้ ในงานประกวดพระที่สมาคมให้การสนับสนุน

 "สมัยที่ผมทำงานอยู่สนามบินดอนเมือง ตอนนั้นดูพระได้แม่นพอสมควรแล้ว พอมีเวลาว่าง ก็มักจะเข้าสนามพระ   หาซื้อพระที่ดูง่าย ราคาไม่แพงนัก แล้วเอาไปขายเพื่อนๆ ที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งมีพนักงานมากมายหลายบริษัท  ส่วนใหญ่จะรู้จักกันทั้งนั้น ช่วงนั้นกระแสเงินดีมาก ทำให้ขายพระได้คล่อง กำไรพองาม ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนผู้บริหารบริษัทสินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ผมก็ลาออกจากงาน เพราะอยากทำงานอิสระมากกว่า จึงหันมายึดอาชีพซื้อขายพระโดยตรง โชคดีที่ได้ตู้พระบนชมรมพระเครื่องมรดกไทย อาศัยที่เล่นพระเป็นทุกอย่าง ทำให้มีรายได้ดีพอสมควร จนได้ขยับขยายเช่าเป็นร้านพระมาจนทุกวันนี้ นับเป็นเวลา ๗ ปีมาแล้ว" หมอ ท่าแซะ กล่าวถึงเส้นทางเดินบนถนนสายนี้

 พระที่หมอซื้อขายส่วนใหญ่ เป็นพระสายใต้ ที่รู้จักกันในวงกว้าง เป็นพระยอดนิยมที่วงการเช่าหากัน อาทิ พระหลวงพ่อทวด ทุกรุ่น ทุกวัด พระกรุเมืองคอน โดยเฉพาะพระปิดตาดอกจัน พระพิฆเนศ ซึ่งเป็นพระกรุพระเก่าของเมืองคอน ซื้อขายกันบ่อยมาก รวมทั้งพระของเกจิอาจารย์สายพัทลุง สำนักเขาอ้อ และพระเมืองสุราษฎร์ธานี ฯลฯ

 พอมาถึงช่วงที่กระแสนิยม "จตุคามรามเทพ" มาแรง  หมอก็หันมาซื้อขายจตุคามฯ กับเขาด้วย โดยเริ่มจากรุ่น "มั่งมีศรีสุข" ปี ๒๕๔๗ ตอนแรกๆ ก็เฉยๆ ซื้อมาขายไปไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่ต่อมาความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เมื่อได้พบประสบการณ์จากองค์พ่อโดยตรง

 หมอเล่าว่า "วันนั้น มีเพื่อนปักษ์ใต้คนหนึ่ง มานั่งคุยกันที่ร้าน บังเอิญเขาเหลือบไปเห็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่เคยยืมเงินไปนานแล้ว ไม่จ่ายคืนสักที ก็เลยรีบเดินออกไปหาเพื่อนคนนั้นทันที ทันทีที่เห็นหน้า เพื่อนบอกว่า กำลังมาตามหาเขาอยู่พอดี จะเอาเงินที่ยืมไปมาใช้คืน นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ เพราะได้ตามหามานานปี อยู่ๆ ลูกหนี้ก็มาหาเอง  พร้อมกับเตรียมเงินมาจ่ายคืนให้ด้วย"

 หมอบอกด้วยว่า เพื่อนที่ได้เงินคืนมานั้น เขาแขวน องค์พ่อจตุคามฯ รุ่น "มั่งมีศรีสุข" ปี ๒๕๔๗ เพียงองค์เดียว  โดยก่อนหน้านั้น เขาได้อธิษฐานขอพรจากองค์พ่อ ให้ได้พบกับลูกหนี้รายนี้ ซึ่งก็มาพบกันอย่างบังเอิญจริงๆ และเพื่อนยังได้บรรยายสรรพคุณอันวิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ที่องค์พ่อจตุคามฯ ได้ให้ตามที่เขาขอพรทุกครั้ง

 หมอเห็นว่า ในตู้พระของเขาก็มีองค์พ่อรุ่นนี้อยู่ด้วย จึงได้อาราธนามาขึ้นคอบ้าง พร้อมกับขอพรให้พบกับสิ่งที่ดีงามเสมอ โดยเฉพาะขอให้ค้าขายดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือ

 หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีลูกค้ามาขอซื้อจตุคามฯ จากหมอ ติดๆ กันหลายราย ทำให้วันนั้นมีรายได้มากถึง ๒-๓ หมื่นบาท ซึ่งไม่เคยปรากฏรายได้ดีขนาดมาก่อน

 ด้วยเหตุนี้ หมอจึงมีความศรัทธาเลื่อมใสในองค์พ่อจตุคามฯ มาก เพราะทำให้สภาพการเงินคล่องขึ้นเรื่อยๆ จนกล้าซื้อกล้าขายองค์จตุคามฯ รุ่นปี ๒๕๒๐-๒๕๓๒ มากขึ้น ด้วย ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

 หมอบอกว่า ได้นำเงินส่วนนี้ไปซื้อบ้านหลังใหม่ ในราคากว่า ๗ ล้านบาท รวมทั้งเปลี่ยนรถคันใหม่ด้วย และสิ่งที่ต้องลืมไม่ได้คือ เมื่อมีรายได้จากองค์พ่อจตุคามฯ แล้ว อย่าลืมต้องทำบุญกุศลให้แก่พระศาสนา แก่ผู้ยากไร้ คนจนคนพิการผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ เพื่อถวายเป็นกุศลผลบุญแด่องค์พ่อจตุคามฯ ด้วย ยิ่งทำมาก ทำบ่อยๆ กุศลผลบุญนั้นย่อมสนองตอบในทางดีขึ้น เป็นอานิสงส์มาสู่ตัวเองเป็นประจำ

 เมื่อมาถึง ช่วงที่กระแสนิยมจตุคามฯ ถึงจุดขาลง หมอก็ไม่เจ็บตัว เพราะไม่ได้ตั้งอยู่บนความประมาท ไม่โลภ ไม่ได้จองเอาไว้มากๆ เพื่อเก็งกำไรในภายหลังแต่อย่างใด

 แม้ทุกวันนี้ กระแสนิยมจตุคามฯ จะแผ่วเบาลงไปมากแล้วก็ตาม แต่หมอก็ยังอยู่ดีกินดีมีของเข้าทุกวัน แถมบางครั้งองค์พ่อยังมาโปรดอีกด้วย อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีคนเอาเหรียญพระปิดตาพังพระกาฬ เนื้อเงิน มาขายให้ ๒ เหรียญ ราคา ๓-๔ หมื่นบาท ก็ซื้อเอาไว้ แล้วขายไปเหรียญหนึ่ง ได้เงินแสนกว่าบาท อีกเหรียญหนึ่งตั้งใจจะเอาไว้ใช้เอง เพราะองค์พ่อมาโปรดให้โดยเฉพาะ

 ด้วยเหตุที่ หมอ ท่าแซะ มีความจดจำเป็นเลิศ จึงสามารถเรียนรู้การดูพระหลากหลายประเภทได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ พระหลวงพ่อทวด ทั้งเนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ หรือรุ่นหลังเตารีด หลังตัวหนังสือ ปี ๒๕๐๕ รวมทั้งเหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นแรก ปี ๒๕๐๐ หรือรุ่นอื่นใดก็ตาม ที่ปลุกเสกโดย พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ซึ่งทุกวันนี้เป็นที่นิยมกันทุกรุ่น จนมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปตามกระแสนิยมจริงๆ ไม่ใช่เกิดจากการปั่นราคาแต่ประการใด

 หมอบอกว่า "การพิจารณาพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ ต้องดูพิมพ์เป็นหลักก่อน หากพิมพ์ผิดเพี้ยนก็ไม่ต้องดูอะไรอีก แต่ถ้าพิมพ์ถูก ก็ต้องไปดูที่เนื้อว่าน ดูลักษณะของมวลสาร เม็ดแร่ ที่อยู่หลังองค์พระ ต้องจำให้แม่นทั้งพิมพ์ทรง และเนื้อหา ที่สำคัญคือ ต้องหาพระองค์แท้มาให้ได้ก่อน จะได้เป็นคู่มือในการศึกษา ส่วนเหรียญนอกจากใบหน้าไม่ผิดเพี้ยนแล้ว หลักการพิจารณาที่สำคัญ คือ ตัวตัดขอบเหรียญ หากจำตรงนี้ได้ก็ตัดสินได้ว่า เป็นเหรียญแท้หรือเหรียญปลอม ทุกวันนี้ เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นแรก รวมทั้งรุ่นอื่นๆ มีของปลอม ที่ทำได้ใกล้เคียงมาก  ระบาดไปทั่ว ผู้สนใจต้องเช่าหาจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งผู้ขายต้องรับประกันให้ด้วย หากเก๊ต้องคืนได้ตลอดเวลา ส่วนราคาจะถูกหรือแพงนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้ง ๒ ฝ่าย"

 ทุกวันนี้ หมอ ท่าแซะ จะนั่งประจำอยู่ที่ร้านบนชั้น ๓ ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร.๐๘-๙๙๒๔-๑๕๗๖
 นับได้ว่า หมอ ท่าแซะ เป็นเซียนพระหนุ่มสายเลือดใหม่ อีกคนหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่า "เล่นพระดี มีพระสวย รวยพระแท้" และพร้อมที่จะแบ่งปันความรู้แก่ผู้สนใจใฝ่ศึกษาในเรื่องพระเครื่องด้วยความจริงใจเสมอ

+++++ แล่ม จันท์พิศาโล ++++++++++