
หลวงพ่อโสต สิริธมฺโม วัดสันติธรรมคีรี(เขาหินโค่ง)จ.จันทบุรี
หลวงพ่อโสต สิริธมฺโม วัดสันติธรรมคีรี (เขาหินโค่ง) จ.จันทบุรี เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
หลวงพ่อโสต สิริธมฺโม หรือที่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายนิยมเรียกนามว่า "ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม" เจ้าอาวาสวัดสันติธรรมคีรี (เขาหินโค่ง) บ้านชำตาเรือง ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทรบุรี ถือเป็นพระเกจิคณาจารย์แบบช้างเผือกมักเกิดในป่าที่ผู้คนต้องเที่ยวเสาะแสวงหาแบบปากต่อปาก แบบมีประสบการณ์ดีจึงบอกต่อกัน บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายส่วนใหญ่อยู่กระจัดกระจายไปทั่ว ๔ จังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันออก และในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ในแต่ละวันมักมีลูกศิษย์เดินทางกันมากราบนมัสการกันตลอดทั้งวัน เพื่อมาขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือทางด้านต่างๆ จำนวนมากน้อยแตกต่างกันไป
อายุได้ ๑๖ ปี ได้เข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณร ณ พัทธสีมา วัดทุ่งเบญจา ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อศึกษาเล่าเรียนในทางพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรมบาลี และในพรรษาแรกก็สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ในสำนักเรียนวัดทุ่งเบญจา ต่อมาได้เข้าศึกษาเล่าเรียนในหลักพระอภิธัมมัตถสังคหะชั้นตรี หรือพระอภิธรรมชั้นตรี ในสำนักเรียนวัดคลองน้ำใส
เมื่อมีอายุครบ ๒๐ ปี ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม อุปสมบท ในครั้งแรกปี ๒๕๑๘ ณ พัทธสีมา วัดทุ่งเบญจา โดยมี พระครูพิศาลธรรมคุณ วัดบูรพา ท่าใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูรัตนคุณ วัดศรีเมือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูเป๋า นนฺทสาโร วัดทุ่งเบญจา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “สิริธมฺโม” แปลว่า ผู้มีธรรมอันเป็นสิริ
แต่เมื่อได้อุปสมบทล่วงมาถึงเดือนมกราคม ปี ๒๕๑๙ ทางราชการได้ส่งหนังสือให้เข้ารับการตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหารในเดือนเมษายน เป็นเหตุให้ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม ต้องเข้ารับการตรวจคัดเลือก และผลปรากฏว่า ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม จับได้ใบแดงต้องเข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์ จนกระทั่งปลดประจำการในปลายปี ๒๕๒๑
หลังจากปลดประจำการแล้วได้ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของผู้อยู่ครองเรือน ยึดการประกอบอาชีพของชาวสวน ชาวไร่ รับจ้าง ทำงานโดยสุจริต ด้วยเป็นอำนาจกรรมเก่าบันดาลให้เป็นไปตามกระแสในทางโลกธรรมทั้ง ๘ ที่ผกผันแปรเปลี่ยนโถมเข้ามา สุข ทุกข์ เรื่องราวต่างๆ นานา ที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลิ้มรสรับรู้ความทุกข์ยากลำบากของการเป็นผู้อยู่ครองเรือนว่าวุ่นวายหาความสงบสุขไม่ได้เลย แม้กระทั่งยามหลับนอนยังต้องครุ่นคิดจับจิตขับความกังวลทั้งหลายออกไปจากจิตใจไม่ได้เลย
การอุปสมบทในครั้งที่สอง เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๓๖ ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม มีอายุ ๓๘ ปี ณ พัทธสีมา วัดทุ่งตาอิน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โดยมีพระครูประดิษฐ์สาธนการ หรือหลวงพ่อจำนงค์ ชยฺยวํโส วัดทุ่งตาอิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สมแดง จิรวํโส วัดจันเขม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการฉาบ ฉนฺทธมฺโม วัดคลองพลู เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “สิริธมฺโม” แปลว่า ผู้มีธรรมอันเป็นสิริ
ศึกษาพุทธาคม พุทธาเวท
หลังอุปสมบท ได้อยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์คลองชีพ บ้านจันเขม อยู่ฝึกฝนอบรมในพระวิปัสสนากรรมฐานนาน ๓ เดือน แต่จิตใจไม่สงบหาที่ตั้งในฐานของจิตไม่ได้ เกิดขึ้นแล้วไม่ตั้งอยู่และยังไม่ยอมดับไปเองตามสภาวธรรมอันเป็นปกติในพระวิปัสสนาปฏิบัติพระกรรมฐาน จึงได้กราบนมัสการขออนุญาตเจ้าสำนักสงฆ์ออกธุดงค์แสวงหาสถานที่สัปปายะ
เมื่อพิจารณาว่ามีความรู้ในทางหลักพระพุทธศาสนาอยู่ขั้นดีพอสมควรแล้ว ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม จึงหันเหเปลี่ยนมาในเรื่องการศึกษาเล่าเรียนในทางพุทธศาสตร์ พุทธาคม พุทธาเวท ได้ฝากตัวเป็นอันเตวาสิกวิหาริกธรรมในหลวงพ่อคง สุวณฺโณ วัดวังสรรพรส ผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าตำรับในสายวิชาเสือ หนุมาน พระขุนแผน
ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม ได้ศึกษาเล่าเรียนการสัก เสก เลข ยันต์ ในสำนักหลวงพ่อจุ่ย วัดทุ่งเบญจา สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ในสมัยนั้น ต่อมาท่านพ่อโสต สิริธมฺโม ได้สืบทอดต่อช่วงในการสัก เสก เลข ยันต์ ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย จึงปรากฏชื่อเสียงในการแทงเข็มเดินหมึกสักเป็นรูปใบโพธิ์ที่ทรงอิทธิคุณในทางมหาอุด แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรีมาตั้งแต่สมัยที่ยังบรรพชาเป็นสามเณร ได้รับฉายาจากบรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการประสิทธิ์ประสาทกว่าสองร้อยคนว่า “หลวงพ่อเณรโพธิ์ดำ” หรือ “พระอาจารย์โพธิ์ดำ”
ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม ในขณะนั้นถือเป็นผู้คงแก่เรียนที่มุ่งเน้นให้น้ำหนักไปทางการศึกษาเล่าเรียนพระเวท พระคาถา พระอาคม หลักวิชาการต่างๆ จากบรรดาฆราวาสคณาจารย์ อีกหลายท่าน ดังนี้
อาจารย์เนือง ท่าใหม่ เชี่ยวชาญชำนาญการในทางเจตภูตวิญญาณ ขับไล่ภูตผีปีศาจ และรักษาผู้คนที่ถูกกระทำย่ำยีบีฑาจากเดรัจฉานวิชา ศาสตร์มืด มนต์ดำ ไสยต่ำ
อาจารย์พัด วัดทุ่งเบญจา เชี่ยวชาญชำนาญการในสายวิชาชุมเสือ หรือสายเหนียวที่เน้นไปในเรื่องคงกระพันชาตรี ยิงไม่ออกฟันไม่เข้า มหาอำนาจตบะเดชาชัย ในสายเมตตา วิชาด้านเสน่ห์มหานิยมทางอิตถีเพศ ด้วยเหตุที่อาจารย์พัด เคยเป็นเสือเก่ามาก่อนอยู่ชุมเสือเดียวกันกับเสือเท้ว เสือฝ้าย เสือใบ อาจารย์ด่วน บ้านคลองน้ำใส เชี่ยวชาญชำนาญการในกำหนดจิตติดต่อนายผี สามารถเรียกผีได้ ขับไล่ผีได้ ใช้งานผีได้ และยังเชี่ยวชาญในการต่อกระดูก ผูกกระดูก
ศรัทธาสร้างวัดเขาหินโค่ง
ด้วยมีประชาชนที่มีจิตศรัทธาได้มาร่วมทำบุญสร้างอาคารศาลาเล็กๆ พอได้พักพิงอาศัยให้เป็นที่สบายขึ้น ง่ายต่อการปฏิบัติธรรมได้สะดวกสบายขึ้น ต่อมาเมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่ามีพระธุดงค์ปฏิบัติธรรมที่บนเขา ต่างก็หลั่งไหลมาร่วมทำบุญกันมากยิ่งขึ้น และมีพระภิกษุมาอยู่ร่วมจำพรรษาเพิ่มอีก ๒ รูป สำนักสงฆ์เขาหินโค่ง จึงปรากฏเป็นอาณาจักรในการประพฤติปฏิบัติธรรมได้เกิดขึ้นให้เป็นที่อาศัยพาดพิงอิงธรรมมาจนถึงปัจจุบัน
สำนักสงฆ์เขาหินโค่ง อยู่ในการปกครองความดูแลของหลวงพ่อโสต สิรธมฺโม หรือที่ศรัทธาประชาชนโดยทั่วไปนิยมเรียกกันว่า ท่านพ่อโสต สิริธมฺโม พระเกจิคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงในทางศาสตร์สายวิชาพญาเสือ หรือสายเหนียว ด้วยปรากฏประสบการณ์ในทางด้านมหาอุด แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี อย่างเด่นชัด จึงได้รับความเลื่อมใสศรัทธากันเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้คนในพื้นที่ย่านแก่งหางแมว บ้านชำตาเรือง บ้านคลองพลู เขาคิชฌกูฏ
ยังมีเหล่าลูกศิษย์ในแถบย่านพระโขนง อ่อนนุช ประเวศน์ ลาดกระบัง หัวตะเข้ คลองหลวงแพ่ง เป็นท้องถิ่นย่านของผู้ประกอบกิจการในด้านโรงงานเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีอัตราความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องนิยมเครื่องรางของขลัง เครื่องรางของศักดิ์สิทธิ์ที่ดีเด่นทางด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี
อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่วัดเขาหินโค่ง มีงานบุญงานกุศล ต่างก็พากันหลั่งไหลมาประชุมรวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้วัดมีโครงการก่อสร้างหลายอย่าง ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่ โทร.๐๘-๑๖๓๘-๖๐๑๕ และ ๐๘-๗๐๐๐-๓๑๘๙ หรือร่วมทำบุญทางวัดได้บัญชี พระโสต สิริธมฺโม ๒๓๗-๐-๔๗๓๒๗-๔ ธนาคารกรุงไทย สาขานายายอาม