หลวงปู่ฮก รตินฺธโรที่สุดแห่งพระที่สมถะและมีเมตตาสูง | คมชัดลึก

               "ฮก แซ่เตียว" เป็นชื่อและสกุลเดิมของ หลวงปู่ฮก รตินฺธโร วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

               เกิดเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ตรงกับปีขาล เป็นลูกคนจีน โยมพ่อท่านเป็นคนจีนแท้ ส่วนโยมแม่เป็นลูกครึ่งไทย-จีน โดยโยมบิดาชื่อ บู๊ แซ่เตียว โยมมารดาชื่อ ไน้ แซ่เตียว เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี ประมาณปี ๒๔๘๔ ช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ ๒ หลวงปู่ได้ย้ายมาอยู่ที่ชลบุรี

               เมื่ออายุได้ ๔๘ ปี หลวงปู่ฮก อุปสมบทที่วัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี  พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมีพระครูพิบูลย์สังฆกิจ วัดกุณฑีธาร (วัดหัวกุญแจ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสรัจธรรมคุณ วัดบุญญฤทธยาราม วัดบึงบน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระใบฎีกาฮง วัดบึงบวรสถิต  (วัดบึงล่าง) เป็น อนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “รตินฺธโร” เมื่อบวชแล้วได้จำพรรษาที่วัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) เพื่อดูแลอุปัฏฐากสนองคุณพระกรรมวาจารย์

               ตั้งแต่พรรษาแรกที่ท่านอุปสมบท ก็มุ่งมั่นในทางธรรม ฝึกฝน ปฏิบัติฝึกจิต เพื่อหวังความหลุดพ้น โดยท่านบอกว่า "ท่านเป็นครูของตัวเองนั่นคือ ท่านฝึกด้วยตัวของท่านเอง โดยอาศัยการอ่านตำราแนวทางปฏิบัติต่างๆ จนพบแนวทางปฏิบัติที่ตรงกับจริตของท่าน"

               เมื่อล่วงพรรษาที่ ๓ ท่านก็เดินทางไปมาจำพรรษาระหว่างวัดบึงบน กับวัดเขาน้อยคีรีวัน อีกวัดหนึ่งซึ่งมีสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองชล ที่เป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดเขาน้อยคีรีวันขึ้นมา ซึ่งก็คือ หลวงปู่โทน กนฺตสีโล เพราะท่านเป็นเพื่อนกับหลวงปู่โทนตั้งแต่ทำงานที่โรงไม้ แถวชลบุรี ด้วยกันมาก่อน เมื่อตอนท่านอายุ ๑๗-๑๘ ปี ก่อนหลวงปู่จะมาอยู่บ้านบึง หลวงปู่ได้มาอยู่ที่ตัวเมืองชลบุรี โดยมาทำงานอยู่โรงไม้กับพี่ชายของท่าน และที่นี่เองที่ทำให้หลวงปู่ได้รู้จักกับหนุ่มเมืองพนัสนิคมคนหนึ่งชื่อ โทน หรือในเวลาต่อมาก็คือ หลวงปู่โทน กนฺตสีโล แห่งวัดเขาน้อยคีรีวัน เกจิชื่อดังแห่งเมืองชลอีกรูปหนึ่ง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเพื่อนในทางธรรม

               ในเวลาต่อมาหลังหลวงปู่มาทำงานที่โรงไม้ได้ ๒ ปี ก็กลับไปเกณฑ์ทหารที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี ๒๔๙๐ เมื่อไม่ได้เป็นทหาร จึงกลับมาที่เมืองชลอีกครั้ง แต่ไม่ได้ไปอยู่โรงไม้ที่เดิม แต่มาอาศัยอยู่ที่ อ.บ้านบึง และทำอาชีพรับจ้างเลื่อยไม้ทั่วไปแล้วแต่ใครจะจ้าง จนหมดภาระเมื่ออายุได้ ๔๘ ปี จึงสละชีวิตทางโลกมุ่งสู่ทางธรรม หลวงปู่บวชที่วัดบึงบน และจำพรรษาที่นั่น จนล่วง ๓๘ พรรษา

               แม้ว่าหลวงปู่ฮกจะเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่โทน แต่หลวงปู่ฮกก็ไม่เคยเรียนวิชาอาคมกับหลวงปู่โทนเลย เพราะท่านมุ่งมั่นเพียงความสงบ และหลุดพ้นจากกิเลสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มีเพียงแต่ออกธุดงค์กับหลวงปู่โทนอยู่เสมอ เพราะท่านกับหลวงปู่โทนสนิทกันมาก จนหลวงปู่บอกว่า ท่านกับหลวงปู่โทนสนิทกันมาก อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนอยู่กับหลวงปู่โทน ท่านจะเรียกหลวงปู่โทนว่า “พี่โทน”

               เมื่อล่วงเลยกว่า ๑๐ กว่าพรรษา ท่านได้รับมอบหมายจากพระครูโสรัจธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) เจ้าคณะตำบลคลองกิ่วในตอนนั้น ปัจจุบันเป็นรองเจ้าคณะอำเภอบ้านบึง ให้มาจำพรรษาที่วัดราษฎร์เรืองสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันท่านอายุ ๘๗ ปี พรรษา ๓๙ ท่านเป็นพระที่สมถะ ไม่หวังลาภ ยศ สรรเสริญใดๆ และมีเมตตามาก ทุกวันหลังจากตื่นจากจำวัดในโบสถ์หลังเก่า ท่านจะมากวาดใบไม้รอบกุฏิ เมื่อกวาดเสร็จก็จะไปให้อาหารแมว ซึ่งท่านเมตตาเลี้ยงไว้ที่บนกุฏิจำนวนหลายตัว และฉันเช้า และรอรับลูกศิษย์ลูกหา ที่แวะเวียนมากราบท่าน เพราะท่านไม่รับกิจนิมนต์ที่ไหนอีกแล้ว
 
               เนื่องด้วยอายุที่เยอะ ถ้าวันไหนลูกศิษย์ไม่มาก ท่านก็จะเข้าอุโบสถในช่วงหลังฉันภัตตาหารเพลแล้ว เพื่อปฏิบัติและฝึกจิตของท่าน ถ้าวันไหนลูกศิษย์มากราบขอพรกันเป็นจำนวนมาก ก็จะเข้าอุโบสถเกือบ ๑๘.๐๐น. หลวงปู่ฮก นับว่าท่านเป็นพระแท้อีกรูปที่น่ากราบไหว้จริงๆ ท่านไม่เคยพูดโอ้อวดถึงความเก่งของท่านให้ลูกศิษย์หรือใครๆ ฟัง เมื่อถามถึงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่ลูกศิษย์หลายคนเจอมากับวัตถุมงคลของท่าน ก็จะได้คำตอบว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ของมัน

               เคยมีหลายคนนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ฮกไปใช้และเกิดประสบการณ์กับตัวเอง พอไปถามหลวงปู่ ท่านก็จะตอบเพียงว่า “ไม่ได้มีดีอะไร คาถาบริกรรมปลุกเสกก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ อาตมาทำง่ายๆ ไม่ว่าเราจะมีพระดีขนาดไหน ถึงคราวตายก็หนีไม่พ้น อยากให้ระลึกว่าการแขวนพระเครื่องเอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจและเตือนสติให้อยู่ในศีลในธรรม ทำดีละเว้นความชั่ว”

วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด)

               วัดราษฎร์เรืองสุข ตั้งอยู่ที่บ้านมาบลำบิด ถนบบ้านบึง-บ้านค่าย หมู่ ๗ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๒๕ ไร่ อาคารเสนาสนะประกอบด้วยอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๕ หลัง เป็นอาคารไม้ ๓ หลัง ครึ่งตึงครึ่งไม้ ๒ หลัง วิหาร ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาบำเพ็ญกุศล นอกจากนี้มีอาคารเสนาสนะต่างๆ ดังนี้ คือ ศาลาอ่านหนังสือ โรงครัว และเมรุ ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปนามว่า พระสุพรรณรังส์ สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าตักกว้าง ๔๐ นิ้ว เป็นปูนปั้น

               ประวัติการสร้างวัด เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม  ๒๕๑๐ นายสง่า-นายคิ้ม เรืองสุข เป็นผู้ถวายที่ดินให้สร้างวัด  เมื่อปี ๒๔๙๐ เดิมทีเป็นเพียงที่พักสงฆ์ มีที่พักเป็นกุฏิไม้มุงจาก ๒ หลัง ศาลาอเนกประสงค์หลังเล็กๆ ๑ หลัง ต่อมาจึงได้สร้างกุฏิไม้ถาวร ตั้งเป็นวัดเมื่อปี ๒๕๑๐ และสร้างพระอุโบสถหลังเก่า ต่อมาในปี ๒๕๓๑ สร้างศาลาการเปรียญ โรงครัว และ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี ๒๕๑๑ 

               การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ รูปที่ ๑ พระสง่า รุปที่ ๒ พระบุญยัง รูปที่ ๓ พระทองเพียร ปี ๒๕๑๘-๒๕๒๘ รูปที่ ๔ พระอู๊ด ปี ๒๕๒๘-๒๕๓๐ รูปที่ ๕ พระสุรพล สุรวณฺโณ ปี ๒๕๓๑-๒๕๓๔ และรูปปัจจุบันเป็นรูปที่ ๖ คือ  พระณรงค์ พระครูวิสุทธิพรหมจรรย์ โดยเป็นมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๕

               นอกจากนี้แล้ววัดราษฎร์เรืองสุข ยังมีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม เปิดสอนเมื่อปี ๒๕๓๑ "สพฺพรติง ธมฺมรติ ชินาติ” หมายถึง "ความยินดีในธรรม ย่อมชนะความยินดีทั้งปวง"

               อย่างไรก็ตามในโอกาสที่นิตยสาร "เกจิแห่งสยาม" เปิดตัวเป็นฉบับปฐมฤกษ์ นายวิชา ฤกษ์สุนทรี บรรณาธิการและเจ้าของ ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ฮกให้นำพระคะแนนหลวงปู่ฮกแจกฟรีพร้อมหนังสือฉบับเดือนมิถุนายนนี้

ร่วมบุญสร้างโบสถ์หลังใหม่

               หลวงปู่ฮกเป็นห่วงเรื่องอุโบสถหลังเก่าของวัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ชำรุดทรุดโทรมไปมาก และหลังคารั่ว ทำให้การทำศาสนกิจของวัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก หลวงปู่จึงมีดำริสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่า เพราะท่านบอกว่า ถ้าท่านไม่อยู่แล้ว อุโบสถหลังใหม่จะไม่ได้สร้าง จึงอนุญาตให้ทางเจ้าอาวาสจัดสร้างพระเครื่องเพื่อหาทุนในการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น และทางวัดก็ได้ออกเหรียญมาหลายรุ่น

               โดยทางวัดดำเนินการจัดสร้างเอง แต่ด้วยจำนวนการสร้างแต่ละรุ่นนั้นมีจำนวนที่น้อย เพราะค่าดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้นมีราคาแพง ทางวัดไม่มีทุนทรัพย์มากพอ แต่ด้วยประสบการณ์ที่มีมาก ทำให้เหรียญแต่ละรุ่น ทางวัดได้จัดสร้างให้ลูกศิษย์ลูกหาได้เช่าบูชาออกมาแต่ละรุ่นหมดไปอย่างรวดเร็ว หากใครแสวงหาพระแท้อยู่ก็ไปกราบท่าน หรือไปบูชาพระเครื่องของท่านเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถได้ทุกวันที่วัดราษฎร์เรืองสุข

               ติดต่อร่วมทำบุญสร้างอุโบสถได้ที่ : พระครูวิสุทธิพรหมจรรย์ (พระอาจารย์ณรงค์) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) บ้านบึง ชลบุรี โทร.๐๘-๑๙๔๐-๓๐๖๐