
3ปีฌาปนกิจ!สังขารหลวงพ่อคูณ
3ปีฌาปนกิจ!สังขารหลวงพ่อคูณ มข.แจงเป็นไปตามพินัยกรรมเงินทำบุญ9 วัน 8 คืน51ล้านคนร่วม2ล้าน หนี้วัดบ้านไร่95ล้านหากไม่มีสัญญาโมฆะ
27พ.ค.2558 ที่ห้องประชุมปฏิบัติการ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ได้มีการประชุมสรุปและรวบรวมข้อมูล การจัดงานบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 16-24 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่ร่วมจัดงาน เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น( มข.) คณะแพทย์ศาสตร์ มข. มณฑลทหารบกที่ 23 ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจทางหลวง สำนักงานวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนา สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เทศบาลนครขอนแก่น และหน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วม เพื่อจัดทำข้อมูลเสนอคณะรัฐมนตรี
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานบำเพ็ญกุศลสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตลอด 9 วัน 8 คืน ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในมหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมถึงหน่วยงานภายนอกทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ทำให้งานลุล่วงไปได้ด้วยดี คาดว่าตลอดทั้ง 9 วัน มีผู้มาร่วมงานไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ส่วน งานใหญ่ที่รออยู่คืออีก 3 ปีข้างหน้า คืองานฌาปนกิจหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะต้องวางแผนร่วมกับทางจังหวัด และส่วนงานต่างๆ ว่าควรจะใช้สถานที่ใดในการจัดงาน ตามพินัยกรรมหลวงพ่อคูณได้ระบุว่าที่วัดหนองแวงหรือวัดอื่นที่มีความเหมาะสม ซึ่งสถานที่บำเพ็ญกุศลครูใหญ่ในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือเดือนมิถุนายน 2561
เบื้องต้นจะใช้ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์ เพราะครูใหญ่จำนวนมาก เกือบ 500 ท่าน ที่จะต้องทำพร้อมกัน รวมทั้งหลวงพ่อคูณด้วย ซึ่งปกติจะทำทุกปีที่ศาลา 25 ปี แต่เพื่อรองรับจำนวนผู้ที่ี่มาร่วมงาน ที่จะมีมากกว่าทุกครั้ง จึงต้องใช้สถานที่ที่กว้างขวางและสมเกียรติหลวงพ่อคูณ แต่เมื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศลครูใหญ่เสร็จแล้ว ต้องมีการแยกครูใหญ่ไปฌาปนกิจตามวัดต่างๆทั่วทั้งจังหวัด ส่วนหลวงพ่อคูณจะต้องดูว่าวัดไหนเพราะถ้าเป็นวัดหนองแวงตามกำหนดพินัยกรรมนั้น สถานที่น่าจะไม่สามารถรองรับศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศมากกว่าแสนคนที่จะเดินทางมาร่วมงานได้ ซึ่งเบื้องต้นได้มีผู้เสนอมาแล้วหลายแห่งเช่นพุทธมณฑล ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางกว่าพันไร่ สามารถที่จะปรับปรุงปรับพื้นที่ทำเมรุชั่วคราวได้ หรือวัดหนองกุง ซึ่งเคยจัดงานใหญ่แต่คาดว่าน่าจะไม่เพียงพอในการรองรับคนหลายแสนได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เสนอวัดป่าเวฬุวัน ซึ่งเป็นวัดขนาดใหญ่ ทั้งนี้ก็ต้องมีการประชุมหาข้อสรุปและเตรียมการกันอีกครั้ง
หนึ่ง
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. กล่าวว่า นับตั้งแต่เสร็จพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ นำสรีรสังขารของหลวงพ่อคุณ มอบให้กับคณะแพทย์จนกระทั่งนำสรีระสังขารไว้ในน้ำยา โดยอ่างเก็บสรีระสังขารในน้ำยาที่ชั้น 7 ถือได้ว่าหลวงพ่อคูณได้เป็นครูใหญ่แล้ว จึงไม่เปิดให้มีการสักการะที่ชั้น 7 เพียงแต่ได้จัดทำสถานที่ชั้นล่างโดยติดตั้งรูปเหมือนหลวงพ่อ โต๊ะหมู่บูชา และเตรียมดอกบัวอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย หรือญาติหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยได้กราบไหว้ ซึ่งตอนแรกไม่ได้ติดตั้งกล่องรับบริจาค เพียงต้องการให้ประชาชนได้กราบไหว้เท่านั้น แต่ปรากฎว่าประชาชนที่มากราบไหว้ ได้นำเงินวางไว้บนพานหรือโต๊ะหมู่บูชา จำนวนไม่น้อย เกรงว่าเงินที่ต้องการทำบุญจะหาย จึงติดตั้งกล่องบริจาคโดยเขียนข้อความระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเงินที่หยอดกล่องจะนำไปรวมกับกองทุนหลวงพ่อคูณเพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ
สำหรับสรีรสังขารหลวงพ่อคูณเมื่อครบกำหนดการดอง ก็จะนำมาทำการผ่าตัดโดยอาจารย์ผู้อาวุโสที่มีความชำนาญมีฝีมือเป็นพิเศษในการผ่าตัด ให้มีความเรียบร้อยไม่บอบช้ำ เมื่อสาธิตเสร็จเวลาปิดผิวหนังจะใกล้เคียงกับสภาพเดิมที่สุด ที่มีคนกังวลว่าจะไม่มีการผ่าตัดสรีระของท่านนั้น เพื่อให้ตรงตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ที่่ต้องการให้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนจนมอบให้กับทางคณะแพทย์ และก็ได้ทำพิธีขอขมาไปก่อนนำสรีระของท่านลงในน้ำยา ทุกอย่างเป็นไปตามที่ระบุในพินัยกรรมเรียกได้สมบูรณ์ตามพินัยการร้อยเปอร์เซ็นต์
“รู้สึก ภาคภูมิใจได้ทำดีที่สุดให้กับหลวงพ่อ ยิ่งได้ยินพี่น้องประชาชนพอใจก็ดีใจ ถ้าทำไม่ได้ก็จะรู้สึกเป็นความผิดในใจ มีสิ่งใดขาดตกบางเรื่องต้องเรียนว่าการทำงานแก้ปัญหาวันต่อวัน ไม่สามารถวางแผนได้เลย ทุกอย่างแก้ปัญหารายวันรายชั่วโมง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี” รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวและว่า
ส่วนเงินร่วมทำบุญหรือเงินบริจาคทั้งเงินสดหยอดกล่อง เงินสดบริจาคหน้างาน หรือเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร จนถึงวันนี้ยอดรวม 51,799,325,58 บาท ซึ่งจะมีโอนเข้ามาเรื่อยๆ โดยเงินทั้งหมดเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปเข้ากองทุนหลวงพ่อคูณเพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ โดยมีคณะกรรมจากคนภายนอกเข้ามาดูแลเพื่อความโปร่งใสต่อไป
หนี้วัดบ้านไร่95ล้านหากไม่มีสัญญาโมฆะ
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะกรณีเรื่องที่นายเกรียงไกร จารุทวีรักษาการรองประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ และเป็นผู้ดูแลวิหารเทพวิทยาคม ได้ชี้แจงถึงกรณีวัดบ้านไร่มีหนี้สินจากการก่อสร้างวิหารเทพวิทยาคมจำนวนกว่า 95 ล้านบาทที่นายเกรียงไกรได้ทดรองจ่ายไปก่อน พร้อมกับยื่นหนังสือปกเหลืองรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพิจารณาว่าควรจะให้วัดบ้านไร่เบิกเงินจ่ายคืนหรือไม่นั้น
นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ กล่าวว่า ต้องถามเรื่องการทำสัญญาไว้กับวัดบ้านไร่หรือไม่ ถ้ามีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรถูกต้องตามกฎหมาย นายเกรียงไกรสามารถขอเบิกเงินคืนได้ แต่ถ้าไม่ได้ทำสัญญาไว้ ถือว่าเป็นโมฆะ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินไม่มีสิทธิ์ไปเบิกเงินคืน ส่วนบัญชีทรัพย์สินวัดบ้านไร่โดยเฉพาะบัญชีธนาคารบางบัญชีถูกระงับไว้ก่อนยกเว้นบางบัญชีที่ต้องใช้ เช่น บัญชีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าจัดพิธีบำเพ็ญกุศล เป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของเหตุและผล
ลูกศิษย์ใกล้ชิดโต้ไม่เคยนำจีวรหลวงพ่อคูณไปหาผลประโยชน์
นายธวัช เรืองหร่าย รักษาการไวยาวัจกร วัดบ้านไร่ กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่า ลูกศิษย์ใกล้ชิดทำการเปลี่ยนจีวรของหลวงพ่อคูณฯถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ท่านมรณภาพและตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะนำไปหาประโยชน์นั้นว่า เรื่องนี้คนที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดคอยปรนนิบัติหลวงพ่อมาตลอด ฟังแล้วน่าน้อยใจมาก ที่ผ่านมาหลวงปู่ท่านมีความเมตตากับทุกคน มีอะไรบริจาคทำบุญหมด ทั้งพระ ทั้งฆราวาส ท่านไม่เคยเลือกปฏิบัติ พวกเราเป็นลูกศิษย์ ก็ต้องเจริญรอยตาม เพื่อสร้างบารมีให้กับหลวงปู่ พวกตนไม่เคยเอาจีวร หรืออัฐบริขารหลวงปู่ไปหาผลประโยชน์ มีแต่บริจาคตามที่ท่านเคยพาปฏิบัติ ใครมาขอก็ให้ไปหมด เพราะท่านเป็นพระที่มีเมตตา ลูกศิษย์ใกล้ชิด ไม่เคยหากินกับเรื่องพวกนี้และไม่เคยเก็บมาเป็นสมบัติส่วนตัว ฉะนั้นขออย่าได้กล่าวหาใส่ร้ายกันเลย
นายธวัช กล่าวถึงกรณีที่มีคนแชร์รูปที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคน คอยนั่งปรนนิบัติหลวงปู่ และนำไปกล่าวหาใส่ร้ายว่า หยิกหลวงปู่เพื่อให้คอยรับแขกที่ไปกราบที่วัด แล้วส่งต่อๆกันไปนั้นว่า เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่อกุศลอย่างยิ่ง จนทำให้ครอบครัววงศ์ตระกูลของลูกศิษย์คนนั้นต้องมัวหมอง และต้องคอยตอบคำถามกับทุกคนที่ทราบข่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก ทำไมถึงคิดเรื่องขึ้นมาทำลายกันได้ถึงเพียงนี้ ทำไมไม่คิดถึงหัวอกของเขาบ้างว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร รูปที่เห็นเป็นการนวดกระตุ้นประสาทของหลวงปู่ตามที่แพทย์แนะนำ ฉะนั้นจึงขอร้องให้หยุดกระทำในเรื่องนี้เสียที และให้นึกถึงตอนที่เขาคอยเสียสละปรนนิบัติดูแลหลวงปู่มายาวนานบ้าง
นายธวัช กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินบางคนระบุว่า ทางคณะกรรมการวัด จะต้องล๊อกกุญแจกุฏิหลวงพ่อคูณเพื่อป้องกันไม่ให้มีการขนย้ายทรัพย์สินและอัฐบริขารออกไปนั้นว่า การล็อกกุฏิของหลวงพ่อคูณที่ผ่านมาก็ไม่เคยล็อกอะไรเป็นพิเศษ นอกจากเวลาท่านอาพาธเข้าโรงพยาบาล เพราะในกุฏิไม่มีทรัพย์สินอะไรอยู่แล้ว เท่าที่ตนเห็นก็จะมีพระพุทธรูปบูชาและอัฐบริขารบางอย่าง เช่น ย่าม,เกษา,ฟันปลอมและพระยอดธง เป็นต้น ซึ่งทางวัดก็ดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยไม่มีใครคิดจะเอาไปเป็นของส่วนตัว หรือนำไปหาผลประโยชน์ตามที่ถูกตั้งข้อสังเกต สำหรับชาวต่างชาติเวลาที่เขาเดินทางมากราบหลวงปู่ ลูกศิษย์ใกล้ชิดก็ไม่เคยไปเรียกร้องหรือรับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ถ้าเขาจะทำบุญสร้างบารมีกับหลวงปู่ก็ให้บริจาคที่ตู้รับบริจาคของวัดตามกำลังศรัทธาทำเช่นนี้มาโดยตลอด
เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นยอดนิยมเกลี้ยงแผงพระโคราช
ตั้งแต่หลวงพ่อคูณละสังขาร บรรดานักสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณทั่วประเทศ ต่างก็แสวงหาเช่าบูชาวัตถุมงคลกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยม 3 รุ่น ได้แก่ เหรียญรุ่นแรก ปี 2512, รุ่นปี 2517 และรุ่นปี 2519 ซึ่งขณะนี้ราคาเช่าบูชาพุ่งสูงหลักหมื่นปลายๆ จนถึงหลักแสนบาท
นายสรวล ชินโกสีย์ ประธานชมรมพระเครื่องเมืองโคราช กล่าวว่า รุ่นยอดนิยม 3 รุ่นดังกล่าว ขณะนี้ตามแผงพระทั่วทั้งจังหวัดนครราชสีมา หาเช่าบูชาไม่ได้แล้ว เพราะถูกนักสะสมเช่าบูชาไปเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวจนหมด ดังนั้นจึงเหลือเพียงรุ่นใหม่ๆ ที่มีพิธีปลุกเสกดี และเป็นที่นิยมไม่กี่รุ่น อาทิ รุ่นเจริญพร ปี 36, รุ่นย้อนยุคปี 17, ย้อนยุคปี 19 และรุ่นรับเสด็จ ซึ่งมีราคาหลักพันถึงหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตามวัตถุมงคลของหลวงพ่อคูณ มีสร้างกว่า 2,000 รุ่น หากผู้ที่เคารพศรัทธา ก็ยังมีให้เช่าบูชาไว้เป็นสิริมงคลจำนวนมาก ทางสมาชิกชมรมพระเครื่องเมืองโคราช ก็ได้มีการหารือกันเตรียมจัดงานประกวดพระเครื่องหลวงพ่อคูณขึ้น เพื่อให้ผู้สนใจสะสมได้มาศึกษา และได้ชมพระเครื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณ รุ่นดังๆ ที่หาชมได้ยาก โดยเบื้องต้นคาดว่าจะจัดกันที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า สาขาจอมสุรางยาตร์ ส่วนวันจัดงานนั้น ยังอยู่ระหว่างหารือกัน แต่คาดว่าจะภายใน 1 – 2 เดือนนี้