
พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่องค์ดาราตัวจริง'ต้อย'เศรษฐา ศิระฉายา
พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่องค์ดาราตัวจริง'ต้อย'เศรษฐา ศิระฉายา : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
นิทรรศการถอดรหัสธรรมที่จะจัดให้มีขึ้น ณ อาคารหอประชุมพุทธมณฑล ระหว่างวันที่ ๑-๕ พฤษภาคมนี้ เพราะในการจัดแสดงพระหลักสุดยอดความนิยม ชุดเบญจภาคี มีองค์ดาราระดับแชมป์ที่ผู้ครอบครองไม่ประสงค์ที่จะเผยแพร่สักเท่าใดนัก แต่ยินดีเผยแพร่ให้แก่นิทรรศการครั้งนี้ หนึ่งในจำนวนองค์ดาราที่ป๊อปปูลาร์ที่สุดต้องยกให้ "พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ กรุทุ่งเศรษฐี" ในความครอบครองของคุณเศรษฐา ศิระฉายา สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) พ.ศ.๒๕๕๔
แม้ว่าจะโด่งดังและมีงานจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่หากวันใดลืมแขวนพระเครื่องออกจากบ้าน เศรษฐา บอกว่า ขอเลือกพระมากกว่าเลือกงาน และจะไม่ยอมทิ้งพระเครื่องเด็ดขาด ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน เสียเวลามากเพียงใดก็จะต้องขับรถกลับมาเอาพระเครื่องที่บ้านทันที ที่เป็นเช่นนี้เพราะชีวิตขาดพระเครื่องไม่ได้ โดยจะแขวนพระเครื่องติดตัวสลับกันไปไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน เช่น พระนางพญา กรุโรงทอ หรือกรุวัดโพธิญาณ พระซุ้มนครโกษา ที่หาเช่ามาบูชาด้วยตัวเอง
"แขวนพระเครื่องแล้วทำให้มีความสบายใจ" นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เศรษฐาขาดพระเครื่องไม่ได้ พร้อมกันนี้เขาบอกด้วยว่า การแขวนพระเครื่องก็เหมือนว่าเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครอง ไม่ว่าเราจะเดินทางไปไหนมาไหน เรามีองค์ท่านติดตัว ก็ทำให้มีความสบายใจ การแขวนพระเครื่อง ก็ยังเป็นการเตือนสติให้เราไม่กระทำสิ่งใดที่ไปเบียดเบียนคนอื่น ดังนั้นการแขวนพระเครื่องไม่ใช่สิ่งที่สร้างความงมงาย แต่เป็นสิ่งที่คอยให้ทุกคนดำรงชีวิตอยู่อย่างมีสติ มีศรัทธาที่จะเชื่อในคุณงามความดีและทำในสิ่งที่ถูกต้อง"
ทั้งนี้เมื่อหลายปีก่อน นายอรรถภูมิ บุณยเกียรติ ผู้อำนวยการสถาบันโบราณศิลป์ หรือ "เสี่ยติ" ได้นัดกินข้าวกับพี่ "ต้อย" เศรษฐา ศิระฉายา ซึ่งเป็นนัดปกติที่เมื่อมีเวลาก็ได้มาพบกัน และวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ คุณเศรษฐาห้อยพระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่องค์นี้มาในเวลาใกล้เที่ยง พร้อมกับหยิบให้ ผอ.อรรรถภูมิ ส่องดูเป็นครั้งแรก หลังจากได้ดูพระ พูดคุยกันหลังมื้ออาหารตามปกติ ผอ.อรรถภูมิ ตัดสินใจสอบถามด้วยความเกรงใจแบบคนสนิทที่ใกล้ชิดกันว่า (ก่อนจะถามยกมือไหว้งามๆ หนึ่งครั้ง) “พี่ครับ วันนี้มันวันอาทิตย์ เห็นพระองค์นี้แล้วหากผมจะไปหาเงินห้าล้านมาถวายให้พี่จะดีมั้ยครับ ?”
ผอ.อรรถภูมิ เล่าต่อว่า ด้วยความเกรงใจพี่ต้อยเป็นอย่างยิ่ง แต่แข็งใจหาญกล้าถามไปเพราะความงดงามซาบซึ้งตรึงตาตรึงใจของพระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่องค์นี้ เสมือนต้องมนต์สะกดให้เคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับอำนาจคุณพระ จึงหาญกล้าถามไปเช่นนั้น ส่วนพี่ต้อยนั้นได้แต่ยิ้มบางๆ ที่มุมปากที่เม้มสนิท มิได้เอื้อนเอ่ยใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งสองจึงต้องหันไปคุยกันเรื่องอื่น
พระซุ้มกอ กรุทุ่งเศรษฐี พิมพ์ใหญ่องค์นี้ เป็นองค์ที่พี่ต้อยภาคภูมิใจเป็นกรณีพิเศษ เพราะได้รับมาจากเพื่อนศิลปินรุ่นพี่ ที่ก่อนจะมอบบอกกับคุณเศรษฐาว่า “พระดีต้องอยู่กับคนดี พี่ขอมอบให้คุณ” เป็นเรื่องแปลกมากครับ ทั้งๆ ที่เพื่อนศิลปินอาวุโสท่านนี้ก็มีบุตรชายและบุตรสาวซึ่งกำลังอยู่ในวัยเติบโต แต่ท่านกลับเอาพระที่รักหวงแหนมอบให้กับศิลปินรุ่นน้องอย่างคุณเศรษฐา ศิระฉายา
พระซุ้มกอองค์นี้เป็นประเภทเนื้อจัดจ้าน ซาบซึ้งงดงามด้วยว่านดอกมะขาม ความคมความงามขององค์พระนั้นยังจัดได้ว่าเป็นองค์ดาราได้อย่างสบาย จึงขอยืนยันด้วยความภาคภูมิใจว่า องค์นี้เหมาะสมกับเป็นพระซุ้มกอองค์ครูมากที่สุดองค์หนึ่ง