พระเครื่อง

‘หลวงปู่ทิม อิสริโก’วัดละหารไร่ผู้งดงามด้วยศีลาจารวัตร

‘หลวงปู่ทิม อิสริโก’วัดละหารไร่ผู้งดงามด้วยศีลาจารวัตร

26 เม.ย. 2558

‘หลวงปู่ทิม อิสริโก’วัดละหารไร่ พระอริยสงฆ์ผู้งดงามด้วยศีลาจารวัตร : บุญนำพา

‘หลวงปู่ทิม อิสริโก’วัดละหารไร่ผู้งดงามด้วยศีลาจารวัตร

              หลวงปู่ทิม อิสริโก นามเดิมชื่อ "ทิม งามศรี" เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๔๒๒ ที่บ้านหัวทุ่งตาบุตร หมู่ ๒ ต.ละหาร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นบุตรคนที่ ๒ ของนายแจ้-นางอินทร์ งามศรี

              มารดาของท่านเป็นน้องสาวของหลวงปู่สังข์ พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมอย่างยิ่งในสมัยนั้น และเป็นผู้สร้าง “วัดละหารไร่” ต่อมา หลวงปู่สังข์ ได้ย้ายไปอยู่ที่ “วัดเก๋งจีน” และได้สร้างพระเนื้อตะกั่วขึ้นที่วัดนี้

              เท่ากับว่า หลวงปู่ทิม เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่สังข์ และท่านก็ได้อาศัยตำราวิชาอาคม ที่หลวงปู่สังข์ ได้ทิ้งไว้ที่วัดละหารไร่ทั้งหมด ในการสร้างวัตถุมงคลต่างๆ จนโด่งดังทั่วเมืองไทย

              เมื่ออายุ ๑๙ ปี หลวงปู่ทิม ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นทหารประจำการอยู่ในกรุงเทพฯ นาน ๔ ปีเศษ เมื่อปลดประจำการแล้ว ท่านได้อุปสมบท เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๔๔๙ ณ พัทธสีมา วัดละหารไร่ โดยมี พระครูขาว วัดทับมา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เกตุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สิงห์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “อิสริโก”

              หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านได้อยู่กับพระอาจารย์สิงห์ ช่วงนั้นท่านได้ศึกษาตำราต่างๆ ของหลวงปู่สังข์ ที่ได้รับไว้ด้วยความตั้งใจอย่างจริงจัง

              เมื่ออยู่ครบพรรษาแล้ว ท่านได้ขออนุญาตอาจารย์ออกเดินธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆ เป็นเวลานานถึง ๓ ปี จึงได้เดินทางกลับมาอยู่ที่วัดนามะตูม เป็นเวลา ๒ พรรษา ได้เล่าเรียนวิชาอาคมกับพระเกจิอาจารย์หลายท่าน รวมทั้งอาจารย์ฆราวาส อาทิ อ.เริ่ม อ.รอด และ อ.สาย และตำราของหลวงปู่สังข์

              ต่อมาท่านได้กลับมาอยู่ที่ “วัดละหารไร่” (หรือวัดไร่วารี) และได้รับนิมนต์จากชาวบ้านให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๕๐ เป็นต้นมา ท่านได้ก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด รวมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิ และถาวรวัตถุต่างๆ ให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง

              พ.ศ.๒๔๘๓ หลวงปู่ทิมได้จัดสร้างโรงเรียน เพื่อสอนลูกหลานของชาวบ้านให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง

              พ.ศ.๒๔๙๗ คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร ต่อมา พ.ศ.๒๕๐๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูภาวนาภิรัติ”

              ในครั้งนั้น หลวงปู่มิได้มีความสนใจใยดีกับเรื่องของยศตำแหน่งที่คณะสงฆ์ได้มอบให้ ท่านจึงไม่ได้เดินทางไปรับพัดยศที่จังหวัด จนกระทั่งชาวบ้านรู้ข่าว จึงพร้อมใจจัดขบวนแห่ไปรับพัดยศและตราตั้ง มาถวายให้กับท่านถึงวัด ท่านจึงต้องจำยอมรับอย่างเสียมิได้

              วัตถุมงคลของ หลวงปู่ทิม มีการสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพระผง พระปิดตา พระกริ่ง เหรียญ รูปเหมือน ตะกรุด ผ้ายันต์ ฯลฯ

              แต่ละอย่างแต่ละรุ่น ล้วนได้รับความศรัทธาสนใจจากลูกศิษย์ลูกหา ชาวบ้าน และนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศ เนื่องจากมีประสบการณ์ในทุกด้าน โด่งดังไปทั่วทุกวงการ จนมีการสร้าง “ของปลอม” ออกมามากมาย

              อีกทั้งยังมีการนำรูปแบบพิมพ์ทรงองค์พระและชื่อพระเครื่องของท่าน ไปสร้างเลียนแบบโดยพระเกจิอาจารย์อื่นๆ มากมาย

              พระเครื่องของ หลวงปู่ทิม ที่โด่งดังสุดๆ อาทิ พระขุนแผนผงพรายกุมาร, พระกริ่งชินบัญชร, เหรียญเจริญพรบน, เหรียญเจริญพรล่าง, พระนาคปรกใบมะขาม (ปรกจ้อย) ฯลฯ

              หลวงปู่ทิม นับเป็นพระอริยสงฆ์ที่น่าเคารพบูชากราบไหว้อย่างยิ่ง ท่านมีปฏิปทาอันน่าศรัทธาเลื่อมใส เป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่งดงามด้วยศีลาจารวัตร รักสันโดษ สมถะ มักน้อย ไม่ยินดียินร้ายในรูป รส กลิ่น เสียง ใดๆ

              กิจวัตรส่วนตัวของท่าน คือ ฉันเช้าประมาณ ๗ โมงเช้า โดยฉันข้าวมื้อเดียว พร้อมกับ ผัก ถั่ว น้ำพริกกับเกลือป่น ส่วน เนื้อ หมู เป็ด ไก่ หรืออาหารคาวทุกชนิด รวมทั้งน้ำปลา ท่านจะไม่ยอมฉัน ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า ๔๗ ปี

              หลวงปู่ทิม ได้มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๘ สิริรวมอายุได้ ๙๖ ปี พรรษา ๖๙ โดยได้รับพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๒๖

              ถึงแม้ว่า หลวงปู่ทิม จะละสังขารจากไปแล้ว ๔๐ ปี แต่คุณงามความดีของหลวงปู่ก็ยังอยู่ในความทรงจำของศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนผู้มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสในหลวงปู่ตลอดไป...ชั่วกาลนาน

              พระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี ๒๕๑๗ (ต้นกำเนิดของคำว่า "พระกริ่งชินบัญชร" ที่ได้รับความนิยมกันมาก จนมีพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ นำชื่อนี้ไปสร้างตามแบบอย่างหลายสำนัก)...พระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม ประกอบพิธีเททองหล่อแบบโบราณ ที่ลานวัดละหารไร่ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ โดย หลวงปู่ทิม เป็นผู้เททองด้วยตัวท่านเอง พุทธลักษณะของพระกริ่งชินบัญชร ถอดแบบจาก พระกริ่งใหญ่ ของเมืองจีน โดยประยุกต์ให้งดงามยิ่งขึ้น สร้างด้วย เนื้อทองคำ จำนวน ๑๓ องค์ ทุกองค์ตอกเลขไทยตั้งแต่ ๑-๑๓ ไว้ที่ใต้ฐานซึ่งปิดด้วยแผ่นทองคำ พร้อมกับโค้ดรูป “ศาลา” ด้านหลังองค์พระตอกโค้ดตัวขอม “นะ” ทุกองค์พระกริ่งเนื้อทองคำ มีการเช่าหาแพงที่สุด คือ องค์ละกว่า ๕ ล้านบาทขึ้นไป…นอกจากนี้ยังมีการสร้าง พระกริ่งชินบัญชร เนื้อนวโลหะ ใต้ฐานปิดด้วยแผ่นเงิน ตอกโค้ดรูป “ศาลา” และโค้ดตัว “นะ” ที่ด้านหลัง มีทั้งตอกหมายเลขและไม่ได้ตอกหมายเลข...เช่าหากันที่หลักแสนปลายถึงหลักล้านต้น และ พระกริ่งชินบัญชร เนื้อนวโลหะ ใต้ฐานปิดด้วยแผ่นทองแดง สร้าง ๒,๕๙๕ องค์ ตอกหมายเลขทุกองค์ เช่าหากันที่หลักแสนกลางขึ้นไป...พระกริ่งรุ่นนี้ หลวงปู่ทิม เททองหล่อ
              ที่ลานวัดละหารไร่ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมบริจาคเงินบูรณะเสนาสนะวัดละหารไร่ พุทธลักษณะ เป็นพระกริ่งที่ถอดแบบมาจาก พระกริ่งใหญ่ของจีน ที่มีความงดงามมาก หลวงปู่ทิม ปลุกเสก ๗ วัน ๗ คืน (ข้อมูลจาก “คมเลนส์ส่องพระ” วันเสาร์ที่ ๑๖ มี.ค.๕๖ และ วันเสาร์ที่ ๑๒ ก.ค.๒๕๕๗)