
จาก...ไกด์นำเที่ยว...สู่...เซียนพระตัวจริงจิมมี่ ลานโพธิ์
จาก...ไกด์นำเที่ยว...สู่...เซียนพระตัวจริง จิมมี่ ลานโพธิ์ผู้ชื่นชอบวงการพระเครื่อง : เส้นทางนักพระเครื่อง โดยตาล ตันหยง
จิมมี่ ลานโพธิ์ (ประภร วัฒนานุกูล) นักพระเครื่องคนรุ่นใหม่ไฟแรง ผ่านชีวิตมาแล้วหลายอาชีพ ในที่สุดก็หลงใหลในอาชีพซื้อขายพระเครื่องจนได้ดีทางนี้ มีความรู้ความชำนาญในการดูพระได้หลากหลาย เป็นนักเขียนเซียนพระในเวลาเดียวกัน ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในชีวิตในระดับหนึ่งที่น่าภูมิใจ
จิมมี่เล่าย้อนอดีตของตัวเองว่า “พื้นเพเดิมของครอบครัวเป็นชาวตลาดพลู ฝั่งธนบุรี หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมต้นแล้ว คุณพ่อได้นำไปฝากทำงานกับกับเพื่อนที่เปิดบริษัททัวร์ รับหน้าที่ทำงานทั่วไปอยู่ ๒ ปี เจ้าของบริษัทได้ให้ติดรถตามไกด์ทัวร์ เพื่อคอยดูแลชาวต่างชาติ และฝึกงานเป็นผู้ช่วยไกด์นำเที่ยว เพราะมีชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น ต่อมาได้ทำหน้าที่รับชาวต่างชาติพาเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตอนนั้นภาษาอังกฤษผมพูดได้มากแล้ว แต่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วย ก็เริ่มศึกษาจากไกด์รุ่นพี่บ้าง จากตำราบ้าง จนมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์บ้านเราพอสมควร พาทัวร์ครั้งแรกรับชาวต่างชาติ ๒ คน เป็นสามีภรรยากัน เที่ยวเมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ ครั้งนั้นตื่นเต้นมาก แต่สามารถพาชาวต่างชาติเที่ยวและพาส่งกลับที่พักได้ด้วยดี”
จิมมี่ ทำงานด้านทัวร์อยู่ ๖ ปี ต่อมาพรรคพวกชวนไปทำงานบริษัทคอมพิวเตอร์ เพราะเห็นว่าพูดภาษาอังกฤษได้ จึงลองทำดู ทำอยู่ได้ ๕ ปี รัฐบาลประกาศค่าเงินบาทลอยตัว ทางบริษัทต้องพบกับสภาวะขาดทุนจึงต้องปิดตัวลง
จิมมี่จึงหันไปประกอบอาชีพใหม่ คือ ขายรองเท้าสุภาพสตรี โดยสั่งตัดรองเท้าจากโรงงานย่านเจริญนคร แล้วนำไปขายแถวห้าแยกลาดพร้าว ตรงห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ทำอยู่ ๓-๔ ปี ก็เลิก
เพราะช่วงนั้นมีความสนใจเรื่องพระเครื่องอยู่บ้าง ตอนที่ทำงานบริษัทคอมพิวเตอร์ได้พระเครื่องจากเพื่อนมา ๒ องค์ คือ พระคง กับ พระเปิม ได้นำพระ ๒ องค์นี้ไปให้คุณอรรถภูมิ ดูที่สำนักงาน “คู่มือศึกษาและสะสม” อาคารพระรามหกแมนชั่น คุณอรรถภูมิดูแท้ พร้อมกับขอเช่าจึงให้เช่าไป
“ตรงจุดนี้ทำให้ผมคิดว่า การซื้อขายพระเครื่องน่าจะเป็นอาชีพที่ทำเงินได้ดีกว่า จึงเริ่มเสาะหาพระเครื่องตามบ้านเพื่อนบ้าง บ้านญาติบ้าง แล้วก็ไปได้พระองค์หนึ่งที่ชอบ
มากๆ คือ พระลีลาถ้ำหีบ จ.สุโขทัย มีศิลปะที่งดงามอ่อนช้อยมาก จังหวะนั้นเองนิตยสารพระเครื่อง ‘ลานโพธิ์’ ได้นำพระพิมพ์นี้มาลงหน้าปก จึงซื้อมาอ่าน เพื่อจะดูข้อมูล แต่ปรากฏว่ามีข้อมูลนิดเดียว จึงนำองค์พระลีลาถ้ำหีบไปที่สำนักงาน ‘ลานโพธิ์’ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้พบอาจารย์บุญเสริม ศรีภิรมย์ ซึ่งได้มาเปิดการสัมมนาย่อยๆ พูดคุยเชิงวิชาการเกี่ยวกับพระเครื่อง ทุกวันเสาร์วันอาทิตย์ อาจารย์บุญเสริม ดูพระแล้วได้เล่าประวัติความเป็นมาให้รู้จนเป็นที่พอใจ พร้อมกับขอเช่า พระลีลาถ้ำหีบองค์นั้น จึงแบ่งให้ไป เพราะอยากจะเข้ากลุ่มของนิตยสาร ‘ลานโพธิ์’ หลังจากนั้นก็เข้าไปที่นิตยสาร ‘ลานโพธิ์’ ทุกๆ วันเสาร์ เข้าไปเรียนรู้อยู่ ๓-๔ เดือน จนเป็นที่คุ้นเคยกับคุณพิมพา คุณแม่ของคุณปริญญา ซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสาร ‘ลานโพธิ์’ และอาจารย์สุธน ศรีหิรัญ (บรรณาธิการ) ท่านได้ชักชวนให้ผมเข้ามาร่วมงาน โดยเริ่มจากการหาโฆษณาพระเครื่อง ทดลองทำดู เดือนแรกหาโฆษณาไม่ได้เลย จึงเริ่มเข้าวัดต่างๆ ปรากฏว่าสามารถหาโฆษณาจากวัดได้ ทำให้มีรายได้พอสมควร จึงหันมาทำงานกับนิตยสาร ‘ลานโพธิ์’ อย่างจริงจัง จนทางบรรณาธิการได้เปิดหน้าให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับพระเรื่อง หาโฆษณา และทำข่าวไปด้วย ซื้อขายพระไปด้วย ขณะเดียวกันก็ส่งพระเข้าประกวด ด้วยเหตุผลว่าถ้าเป็นพระแท้ และได้รับรางวัลที่ ๑ จะขายออกไปได้ราคาที่สูงกว่าพระทั่วๆ ไป การส่งพระเข้างานประกวด ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เราหูตาสว่าง พระที่เราส่งไปนั้น บางครั้งเราก็ดูไม่เป็น จะได้รู้ว่า พระนั้นแท้หรือไม่ ข้อดี คือ ถ้าพระที่เราส่งนั้นเป็น พระแท้ และติดรางวัลออกมา จะสามารถนำพระองค์นั้นเป็น ‘พระองค์ครู’ ได้เลย แต่ต้องหมั่นดูบ่อยๆ ผมเชื่อว่าจะทำให้เราจำพระได้แม่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ทรง เนื้อพระ และจุดสำคัญต่างๆ ขององค์พระนั้นๆ” จิมมี่กล่าวถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา
จิมมี่กล่าวอีกว่า “สมัยที่ผมเข้ามาสู่วงการพระใหม่ๆ ผมแขวน ‘พระวัดระฆังหลังฆ้อน’ องค์เดียว เป็นพระที่ได้มาจากป้า เป็นพระที่ลุงมอบให้ป้าตอนอายุ ๒๒ ปี โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบพระกรุ โดยเฉพาะพระกรุ จ.สุโขทัย ชอบที่ศิลปะกับอายุของพระเครื่อง ส่วนพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ที่เก็บสะสม คือ พระหลวงปู่โต๊ะ, ท่านเจ้าคุณนรฯ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงพ่อทบ วัดชนแดน, หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร และพระเกจิอาจารย์สาย จ.นนทบุรี ฯลฯ”
ปัจจุบัน จิมมี่ เปิดร้านพระเครื่องและรับถ่ายรูปพระเครื่อง อยู่ที่ห้างโลตัสปิ่นเกล้า ชั้น ๕ ชื่อร้าน “โสฬสมหามงคล” และร้านเปิดใหม่ที่ศูนย์พระเครื่อง “ท่ามหาราช” (ใกล้ท่าพระจันทร์) โทร.๐๘-๑๖๑๓-๔๗๒๑ ขอต้อนรับเพื่อนพ้องน้องพี่ ผู้สนใจการสะสมพระเครื่องทุกท่าน ด้วยความยินดีเสมอ