ยันต์พระเจ้า๕พระองค์หลังเหรียญพุทธซ้อนหลวงปู่พรหลวงพ่อแคล้ว | คมชัดลึก

               การจัดสร้างวัตถุมงคลในยุคปัจจุบันของพระราชวิสุทธิมงคล หรือหลวงพ่อแคล้ว สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดดอนเมือง พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ และที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตดอนเมือง ท่านจัดสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๕ จนถึงปัจจุบัน

               อย่างไรก็ตามในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี แห่งการตั้งวัด คณะกรรมการ โดย ร.อ.ปรีชา อ่อนละม้าย (ปธ.๖) อนุศาสนาจารย์โรงเรียนฐานบินกำแพงแสน อ.กำแพงแสน และไวยาวัจกร วัดดอนเมือง ได้ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล เหรียญพุทธซ้อนหลวงปู่พร-หลวงพ่อแคล้ว ประกอบด้วย

               เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ เนื้อทองแดง ส่วนพระขุนแผนมาหาเสน่ห์ รุ่น "เจริญพร อายุยืน" ประกอบด้วย เนื้อทองแดง และเนื้องผง เพื่อนำรายได้สร้างหอปฏิบัติธรรม รวมทั้งนำรายได้ส่งเสริมการศึกษาพระภิกษุ สามเณร ทั้งแผนธรรม-บาลี และมอบเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในเขตดอนเมือง ทั้งนี้จะจัดพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ โดยในวันดังกล่าวจะมีการแจกพระฟรีแก่ผู้ร่วมงานทุกท่านด้วย

               ยันต์ด้านหลัง "เหรียญพุทธซ้อนหลวงปู่พร-หลวงพ่อแคล้ว" เป็นยันต์ตัวเดียวกับ "เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อพร พุทธสโร รุ่นแรก" โดยมียันต์ดังนี้

               ตัวบนสุดเป็น “นะ” เขียนอยู่ในวงกลม การเขียนลักษณะนี้ ใช้ในทางมหาอุด ซึ่งเป็นหนึ่งใน “นะ ๑๐๘”

               แถวกลาง คือ ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” โดยเรียงลำดับจากตัวในสุด (ตัวกลาง) คือ “นะ” เขียนซ้อนกันให้สวยงาม ไม่ใช่ยันต์พุดซ้อน (ตัวพุท เขียนซ้อนกัน ๓ ตัว)

               การเขียนยันต์ซ้อนกันทำได้ทุกตัว ในคาถา นะ ๑๐๘ รวมทั้งคาถาอื่นๆ ก็สามารถเขียนซ้อนได้เช่นกัน ส่วนให้จะเป็นคาถาที่มี ๓- ๕ ตัว เช่น คาถาหัวใจพระตรัยปิฎก ที่ว่า “มะ อะ อุ” คาถาหัวใจพระฉิม ที่ว่า “นะ ชา ลี ติ” คาถาหัวใจพระสังคะหะ ที่ว่า “จิ เจ รุ นิ” เป็นต้น 

               อย่างไรก็ตามในการเขียนยันต์ซ้อนกัน ส่วนใหญ่จะเพิ่ม อุณาโลมไว้บริเวณเหนือยันต์ที่เขียนซ้อน เป็นการเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันความสวยงามก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเป็นคาถาที่มี ๖ ตัวไม่นิยมมาเขียนซ้อนกัน เพราะไม่สวยงาม

               แถวล่างสุด “พุท โธ” เป็นพระนามพระพุทธเจ้าแปลว่า “ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน” ซึ่งน่าจะเป็น “โอวาทตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า” เป็นคาเรียกคน เช่น

               คาถาที่ว่า “พุทโธ โอวาทัง วาจามิ” ใช้ทางเมตตามหานิยม เรียกคนให้มาหา ซึ่งเป็นคาถาที่พระมหาบุญเหลือ วีระชาติ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเชิงคีรี อ.สวี ช.ชุมพร ใช้บริกรรมทุกครั้งก่อเทศน์ ปรากฏว่ามีญาติโยมมาฟังเทศน์เต็มศาลาทุกครั้ง

               ในขณะที่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร จะใช้คาถาที่ว่า “พุทโธ เมตตา มานิมา มะมะ” ใช้ทางเมตตามหานิยม เรียกคนให้มาหา

               การใช้คำว่า “พุท โธ” นั้น จะเป็นไปลักษณะเดียวกับการตั้ง “นะโม ๓ จบ” ก่อนตามด้วยคาถาบทอื่นๆ เช่น

               พุทโธ เมตตาคุณนัง อะระหังเมตตา เป็นคาถาเมตตามหานิยมโดยเฉพาะ

               พุทโธ พหรมา จะมหาเทวา อภิลาภา ภวันตุเม เป็นคาถาเรียกลาภโดยเฉพาะ

               พุทโธ มานิมามา มนุษสานัง ปิยงมะ เป็นคาเรียกคนโดยเฉพาะ

นะโมพุทธายะพุทธคุณครอบจักรวาล

               อย่างไรก็ตามมีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยอาจจะตั้งคำถามว่า "ในพุทธศาสนามีพระเจ้าด้วยหรือ?" ซึ่งแท้จริงแล้วคำว่า "พระเจ้า" เป็นคำใช้เรียก "พระพุทธเจ้า" และพระภิกษุสงฆ์มาแต่โบราณ เช่น พระเจ้าพระสงฆ์ พระเจ้า ๕ พระองค์ ในภัทรกัปมีพระพุทธเจ้าโปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์

               ส่วนที่มาของพระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ และระหว่างเขียนตัวย่อนามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์บริกรรมดังนี้

               นะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากุกกุสันโธ องค์แรกในภัทรกัปนี้ เขียนแทนธาตุน้ำ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “นะ กาโรโหติสัมพโว พระกุกกุสันโธ จงมาบังเกิดเป็นตัว นะ”

               โม เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าโคนาคม องค์ต่อมาใช้เขียนแทนธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “โม กาโรโหติสัมพโว พระโคนาคม จงมาบังเกิดเป็นตัว โม”

               พุท เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากัสสปะ องค์ถัดมาใช้เขียนแทนธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “พุท กาโรโหติสัมพโร กัสสปะเถระ จงมาบังเกิดเป็นตัวพุท”

               ธา เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทนธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “ธากาโรโหติสัมพโว พระสมณโคดม (บางครั้งใช้พระศรีศากยมุณี ในอดีตจะใช้ว่า พระศิริศากยมุณี) จงมาบังเกิดเป็นตัว ธา”

               ยะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “ยะ กาโรโหติสัมพโว พระศรีอริยเมตไตรย (บางครั้งใช้พระศรีอริยเมตเตยโย) จงมาบังเกิดเป็นตัว ยะ”

               พุทธคุณของยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ มีอุปเท่ห์และเชื่อสืบต่อกันมาถึงปัจจุบันว่า "ครอบจักรวาลใช้ดีทุกด้าน" เท่าที่มีการบันทึกจำกันได้ก็ในสมัยพระร่วงเจ้า ที่ขอมดำดินมาเพื่อจะทำร้ายพระร่วง ขณะนั้นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่ ขอมดำดินก็โผล่ขึ้นมาถามหาพระร่วง พระร่วงเจ้าก็เลยใช้วาจาสิทธิ์สาปพวกขอมจนกลายเป็นหิน เป็นเวลาร่วมพันปี เพิ่งจะมีการทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณของขอมให้ไปเกิดใหม่

เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงพ่อพร

               พระอาจารย์พร พุทฺธสาโร (เจริญดี) ที่หลายๆ คนคุ้นกันในนาม "หลวงปู่พร" หรือ "หลวงพ่อพร" อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดดอนเมือง ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ.๒๔๕๖-๒๔๘๔ เดิมทีท่านเป็นชาวปากเกร็ด จ.นนทบุรี เกิดเมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๑๒ เป็นบุตรของนายแจ้ง และนางสุ่น เจริญดี ใน พ.ศ.๒๔๔๔ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดหน้าโบสถ์ จ.นนทบุรี จนถึง พ.ศ.๒๔๕๖ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดดอนเมือง เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ

               ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์และสร้างเสนาสนะต่างๆ ให้วัดดอนเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสอย่างกว้างขวาง ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๔ สิริอายุ ๗๒ ปี พรรษาที่ ๔๐

               หลวงพ่อพรจัดสร้างวัตถุมงคลไว้หลายประเภท ปัจจุบันล้วนได้รับความนิยมในแวดวงนักนิยมสะสมเหรียญคณาจารย์ เช่น พระพิมพ์สมเด็จ มีทั้งพิมพ์ ๓ ชั้น ๕ ชั้น และ ๗ ชั้น รวมทั้งพระพิมพ์เล็บมือ มีอายุการสร้างในราวปี ๒๔๕๘ เป็นพระเนื้อผงแก่น้ำมัน ออกสีเขียวอมเหลือง เมื่อสร้างเสร็จได้นำเข้าบรรจุไว้ใต้ฐานพระประธานในพระอุโบสถ ได้เคยนำออกมาจ่ายแจกช่วงสงครามอินโดจีน และสงครามโลกครั้งที่ ๒ รวมถึงเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘ ด้วย

               เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรกหลวงพ่อพร พุทธสโรนี้ กล่าวกันว่าเป็นรุ่นเดียวที่สร้างขึ้นเพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคปัจจัยสร้างโบสถ์ เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๖๕ เป็นเหรียญหลักของย่านหลักสี่-ดอนเมือง ที่คนท้องถิ่นหวงแหนยิ่งนัก เพราะสร้างจำนวนน้อย แถมมีประสบการณ์ดีทั้งด้านแคล้วคลาดและเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย โชคลาภเป็นเยี่ยม

               ทุกวันนี้ "วัดดอนเมือง" จะมีผู้คนแวะเวียนมากราบไหว้ขอพร "หลวงพ่อแคล้ว" เมื่อมากราบไหว้แล้วก็มักจะแคล้วคลาดปลอดภัยตามชื่อของท่าน โดยกุฏิของท่านเปิดต้อนรับญาติโยมอยู่ตลอดเวลา ส่วนผู้ที่จะมาถือศีลปฏิบัติธรรม รวมทั้งฟังธรรม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดดอนเมือง ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่วัดดอนเมือง โทร.๐๘-๙๑๖๕-๗๒๘๒ และ ๐๘-๔๓๘๕-๙๖๗๗