
เหรียญโต๊ะหมู่หลวงพ่อขันตีอริยะแห่งพระสายป่าวัดป่าม่วงไข่
เหรียญโต๊ะหมู่หลวงพ่อขันตีอริยะแห่งพระสายป่า วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
ปัจจุบันนี้ยังมีพระป่าที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายสิบรูป และหนึ่งในจำนวนนี้ คือ หลวงพ่อขันตี ญาณวโร เจ้าอาวาสวัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๖ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะแม เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด ปัจจุบันสิริอายุ ๗๓ ปี พรรษาที่ ๕๒ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ ณ พัทธสีมา วัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
เมื่ออุปสมบทได้ ๑ ปี พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้ติดตามมาปฏิบัติจำพรรษาอยู่กับ “หลวงปู่คำดี ปภาโส” ที่วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ต่อมาได้ย้ายไปพำนักจำพรรษา และอุปัฏฐากดูแล “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ที่วัดป่าโคกมน เนื่องจากในขณะนั้นหลวงปู่ชอบป่วยเป็นอัมพาต
วัดป่าสันติธรรม หรือวัดป่าห้วยเดื่อ เป็นวัดที่หลวงพ่อขันตี ญาณวโร ได้เป็นผู้นำพาสร้างวัดป่าแห่งหนึ่งอยู่ที่บ้านห้วยเดื่อ อ.วังสะพุง จ.เลย และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส โดยท่านพำนักอยู่จำพรรษา ณ วัดป่าห้วยเดื่อ (วัดป่าสันติธรรม) เป็นเวลายาวนานถึง ๒๕ ปี
หลังจากนั้นหลวงพ่อขันตีไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองแซง ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวชอ จ.อุดรธานี ก่อนย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่ขาว อนาลโย คือวัดถ้ำกองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู สุดท้ายได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าม่วงไข่ จนถึงปัจจุบัน
ทุกวันนี้วัดป่าม่วงไข่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยตั้งอยู่บริเวณภูน้อย ติดกับหมู่บ้านม่วงไข่ ห่างจากถนนสายเลย-ด่านซ้ายที่หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ลึกเข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร แต่เดิมการเดินทางเข้าวัดป่าม่วงไข่ต้องเดินเท้าเข้าไป โดยเฉพาะหน้าฝนลำบากมาก แต่ปัจจุบันเส้นทางคมนาคมสะดวกสบาย การเดินทางสะดวกราบรื่น
พื้นที่โดยรอบบริเวณวัดป่าม่วงไข่ ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ ตั้งแต่ครั้งยุคของหลวงปู่ชอบเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงยุคหลวงพ่อขันตี ด้วยมีทิวทัศน์บรรยากาศที่สวยงามมาก นับว่าวัดป่าม่วงไข่ยังสามารถคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ เหลือไว้เป็นสมบัติทางธรรมชาติสืบต่อไป
ปัจจุบันวัดป่าม่วงไข่ได้มีการพัฒนาไปอย่างมากมาย ทั้งยังเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมอัฐบริขารของหลวงปู่ชอบไว้ด้วย ส่วนหนึ่งที่ควรจะต้องพัฒนาโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม ตรงบริเวณพิพิธภัณฑ์และศาลาการเปรียญที่ยังมีต้นไม้ใหญ่ไม่มากนัก ทำให้พื้นที่ดูโล่ง ดังนั้นวัดและชุมชนจะต้องร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาวัดแห่งนี้ด้วยการปลูกต้นไม้ให้ดูเป็นวัดที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมให้สมกับเป็นวัดเก่าแก่โดยแท้
สำหรับภาพพระองค์เป็น "เหรียญโต๊ะหมู่หลวงพ่อขันตี" สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๕ เนื้อทองคำ ในความครอบครองของนายศุภกนก์ธีร์ อนุศรี หรือที่รู้กันในนาม “เสี่ยโต่ง ขอนแก่น” นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน
เสี่ยโต่ง บอกว่า การสร้างพระเครื่องของพระป่าส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญเนื้อทองแดงและเนื้อผง ส่วนเนื้อที่ทำจากโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน นวโลหะ รวมทั้งเหรียญลงยาจะทำให้เช่าเฉพาะในหมู่คณะเท่านั้น โดยลูกศิษย์จะได้นำส่วนต่างของการให้เช่ามาทำแจกฟรี
คำสอนหนึ่งของหลวงพ่อขันตี ที่เสี่ยโต่ง ขอนแก่น ยึดปฏิบัติมาโดยตลอดคือ "ทุกขะโต ทุกขะถานัง หมายถึง ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว" ซึ่งเป็นคำสอนเรื่องการทำบุญ คือ "ให้สุขแก่ท่านสุขนั้นย่อมถึงตัว หรืออยากได้สุขต้องให้สุขก่อน"