
ขุนแผนครองเมืองผงพรายต้องอาถรรพณ์ชื่อรุ่นต้องแข่งกัน'เฮี้ยน'
ขุนแผนครองเมืองยุคคสช.ผงพรายต้องอาถรรพณ์ ชื่อรุ่นต้องแข่งกัน'เฮี้ยน' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
พระขุนแผน คือ พระเครื่องที่มีพิมพ์เป็นลักษณะห้าเหลี่ยม โดยมีรูปขุนแผนเป็นบุคคลสำคัญในตำนานนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว บางทีอาจจะเป็นขุนแผนในรูปของพระพุทธ หรือเทวดา ก็แล้วแต่จะสรรค์สร้างตามความหมายและเจตจำนงของผู้สร้างพระพิมพ์นี้ ต้นแบบของพระพิมพ์ขุนแผนที่เด่นชัดเห็นจะเป็นพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี ภายหลังได้มีการสร้างพระเครื่องพิมพ์นี้ขึ้นอีกเป็นจำนวนมากจากหลากหลายพระเกจิอาจารย์ จึงนิยมเรียกกันติดปากว่าพระขุนแผน
พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระขุนแผนที่ได้รับความนิยมสุดๆ คือ พระครูภาวนาภิรัต หรือหลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ จ.ระยอง พระขุนแผนชุดผงพรายกุมาร สร้างจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ คือ “ผงพรายกุมารมหาภูติ” แต่นิยมเรียกกันเพียงสั้นๆ ว่า “ผงพรายกุมาร” พิมพ์ทรงของพระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม เป็นพระนั่งขัดสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ใต้ฐานมีกุมารทอง และมีนางกวักอยู่สองข้างซ้ายขวาขององค์พระ ด้านหลังจะมียันต์ประจำตัวของหลวงปู่ทิมที่เรียกกันว่า “ยันต์ห้า” หรือยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีนะโมพุทธายะ ที่ด้านหลังทุกองค์ ยกเว้นบางองค์จะมีทำเป็นหลังแบบด้วย ส่วนพิมพ์ทรงจะแยกเป็น ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก
ทั้งนี้ มีคติความเชื่อที่พิสูจน์กันจากประสบการณ์ของผู้ที่บูชาว่า หากบูชาขุนแผน หรือพระขุนแผนแล้วจะทำให้เกิดผลทางด้านเมตตามหานิยม คือเป็นที่รักที่เอ็นดูของผู้ที่ได้พบเห็น เป็นมหาเสน่ห์ คือเป็นที่ชวนชมชวนมองของคนที่ได้พบเจอโดยเฉพาะเพศตรงข้าม หรือแม้แต่ทางด้านโภคทรัพย์โชคลาภ
ในช่วงรอยต่อระหว่างปลายปี ๒๕๕๗ ต่อเนื่องมาต้นปี ๒๕๕๘ ได้เกิดกระแสความนิยมพระขุนแผนชนิดที่เรียกว่า "ไม่มีใครคาดคิดว่าพระขุนแผนจะมีกระแสฟีเวอร์" อย่างกรณีของพระขุนแผนผงพรายกุมาร รุ่นเทพรัญจวน สัตะมหาภูติ หลวงพ่อสวัสดิ์ ภูมิสาโร แห่งวัดป่าแสนอุดม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้ประกอบพิธีปลุกเสกวาระสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ได้สร้างปรากฏการณ์ในการเปิดให้จองขุนแผนนำฤกษ์ หมดภายในเวลาเพียง ๕ นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีพระขุนแผนของวัดใน จ.อุบลราชธานี ได้สร้างปรากฏการณ์คนแห่จองมาแล้ว โดยเฉพาะพระขุนแผนผงพรายกุมาร มนต์มหาจินดามณี พระครูสถิตปุญญานุวัฒน์ หรือ “หลวงปู่เขียน ปุญญกาโม” เป็นพระเกจิชื่อดังแห่งวัดดอนส้มป่อย ต.นาเลิง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
นอกจากนี้แล้วพระขุนแผนในสายผงพรายกัญญา ที่จัดสร้างโดยญาคูจุณฑ์ หรือพระอาจารย์จุณฑ์ แห่งเสนาสนะวัตรป่าเจ้าสัว จ.อุบลราชธานี ล้วนได้รับความนิยมไม่แพ้กัน พระขุนแผนพรายทองคำ ลูกอม แห่งพุทธยานเทพสถิต จ.ชัยภูมิ พระขุนแผนพรายชมจันทร์ ลูกอม แห่งวัดบางแพรก จ.นนทบุรี รวมทั้ง "พระขุนพลายแก้ว" ที่จัดสร้างโดยพระครูไพศาลธรรมวงศ์ (สมศักดิ์ กตวฑฺฒโน) หรือ "พระครูโอ๋" เป็นเจ้าอาวาสวัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ชนิดที่เรียกว่า "หลังปลุกเสกขายหมดภายใน ๓ วันเท่านั้น"
“คม ชัด ลึก” ได้รวบรวมข้อมูลการจัดสร้าง “พระพิมพ์ขุนแผน” ทั้งที่ลงโฆษณาและไม่ได้ลงโฆษณาในนิตยสารพระเครื่องพบว่า “ช่วง ๒ เดือนแรกของ พ.ศ.๒๕๕๘ วัดต่างๆ โดยเฉพาะวัดที่เคยสร้างพระพิมพ์ขุนแผน สร้างออกมากว่า ๑๐๐ รุ่น และน่าจะเพิ่มเป็น ๒๐๐ รุ่น ภายในเดือนเมษายน”
“ประมาณเดือนเมษายน ไม่เกินเดือนพฤษภาคม กระแสความนิยมพระขุนแผนจะเริ่มลดลง จะไม่ฟีเวอร์เท่ากับองค์พ่อจตุคามรามเทพ จำนวนการสร้างแต่ละรุ่นจะไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ องค์ มูลค่าของโครงการส่วนใหญ่จะไม่เกิน ๑๐ ล้านบาท” นี่เป็นความเห็นของนายสุวัฒน์ บุญรอด หรือเจ้าของฉายา “กบ จตุคาม” เจ้าของรายการโทรทัศน์ "ตามเซียนส่องพระ"
พร้อมกันนี้ “กบ จตุคาม” ยังบอกด้วยว่า กระแสความนิยมและความดังของพระขุนแผนต้องยกความดีให้พระขุนแผนผงพรายกัญญา จัดสร้างโดยญาคูจุณฑ์ หรือ พระอาจารย์จุณฑ์ ในขณะที่พระขุนแผนในสายของหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดระหารไร่ จ.ระยอง ที่ อ.ชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์พุทธาคมของหลวงปู่ทิม และประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก มอบมวลสารให้ หรือไปเป็นเจ้าพิธีเปิดฟ้า เปิดดิน เปิดบาดาล อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามภพลงมาสู่มณฑลพิธี ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมเช่นกัน
“ด้วยเหตุที่พระขุนแผนเป็นเนื้อผง ซึ่งต้นทุนการจัดสร้างอยู่ที่องค์ละไม่เกิน ๕ บาท การที่จะเพิ่มราคาได้นั้นต้องฝังตะกรุดทองคำ ตะกรุดเงิน รวมทั้งมีวัตถุมงคลขนาดเล็กมาฝังไว้ด้านหลัง ที่นิยมมากคือนางกวัก และ กุมาร จะเป็นเนื้ออะไรสุดแล้วแต่ผู้สร้างจะฝังทับลงไป” “กบ จตุคาม” กล่าว
ชื่อรุ่นต้องแข่งกัน“เฮี้ยน”
ในการตั้งชื่อรุ่นของพระขุนแผน “กบ จตุคาม” บอกว่า จะเป็นไปลักษณะเดียวกับจตุคาม คือ จตุคาม จะมีชื่อรุ่นที่แข่งกันรวย แข่งกันว่ารุ่นไหนจะมีชื่อเหนือกว่ากัน ในขณะที่ชื่อรุ่นของพระขุนแผนจะตั้งชื่อในลักษณะแข่งกันเฮี้ยน แต่มีข้อจำกัดที่ว่า ชื่อเฮี้ยนๆ นั้นมีอยู่ไม่กี่ชื่อ รวมทั้งใช้ชื่อรุ่นของผู้หญิงที่มีชื่อพื้นๆ ชื่อที่ออกจะเป็นบ้านนอก รวมทั้งชื่อที่ออกแนวโบราณๆ
นอกจากชื่อรุ่นแล้วสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญคือ โค้ดและหมายเลข แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ ๓-๕ บาทต่อองค์ แต่ทำให้ผู้เช่ามีความมั่นใจในจำนวนการจัดสร้าง ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบระหว่างมีโค้ดอย่างเดียว กับมีทั้งโค้ดทั้งหมายเลข ราคาจะต่างกันเป็นเท่าตัว ขณะเดียวกันเลขสวยก็จะมีราคาสูงกว่าเลขปกติทั่วไป เช่น ๑, ๙, ๑๑, ๑๑๑, ๘๘๘ หรือ ๙๙๙ เป็นต้น
“กระแสความนิยมพระขุนแผนจะไม่เหมือนจตุคามฯ เพราะเป็นการสร้างโดยวัด ปลุกเสกโดยพระเกจิ ไม่ต้องไปเสกที่นครศรีธรรมราช แบบก็ไม่ยุ่งยาก โรงงานไหนก็ออกแบบได้ วัดที่เคยสร้างพระขุนแผนย่อมได้เปรียบ โดยเฉพาะวัดที่มีเกจิดังมีลูกศิษย์มากๆ จะประสบความสำเร็จในการจัดสร้าง” กบ จตุคาม กล่าว
ผงพรายตำรับ“หลวงพ่อสวัสดิ์”
หลวงพ่อสวัสดิ์ เป็นศิษย์สายตรงได้ร่ำเรียนวิชาอาคม พระเวทเกี่ยวกับพรายมาจากท่าน อ.เปล่ง บุญยืน ผู้เป็นฆราวาสเรื่องเวทย์เรื่องวิชาสายพรายอันโด่งดังในแถบเขมรและอีสาน
พระขุนแผนผงพรายกุมาร รุ่น “เทพรัญจวน” (สัตตะมหาภูติ) พรายผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดตน มีนามดังต่อไปนี้ ๑.พรายแม่น้ำฝน (พรายตายทั้งกลม อาจารย์เปล่ง บุญยืน มอบให้หลวงปู่สวัสดิ์ ตั้งแต่ท่านยังมีชีวิต) ๒.พรายแม่มะลิ ๓.พรายแม่สุมาลี ๔.พรายแม่กัลยาวรรณ
๕.พรายแม่พิศวาส ๖.พรายแม่ขวัญจิรา และ ๗.พรายพ่อหาญ (พรายตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร อาจารย์เปล่ง บุญยืน มอบให้หลวงปู่สวัสดิ์ ตั้งแต่ท่านยังมีชีวิต และพรายพ่อหาญนี้เป็นหัวหน้าของผงพราย ๕๘ ตน อาจารย์เปล่งด้วย)
พรายทั้ง ๗ ตน หลวงพ่อสวัสดิ์บอกว่า เป็นพรายที่ไม่ได้บังคับหรือสะกดมา แต่เป็นพรายที่มาร่วมสร้างบารมี สร้างบุญกุศลร่วมกัน ทั้งนี้จะทำพิธีขอจากดวงวิญญาณโดยในลักษณะแอบทำไม่ให้ญาติรับรู้ ในการเก็บผงพรายต้องเก็บจากเถ้ากระดูกที่ยังไม่ผ่านพิธีบังสุกุล
“ผงพรายต้องเก็บจากศพที่ตายโดยผิดธรรมชาติ ที่สำคัญคือ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงเสมอไป อย่างกรณีของพรายศักดิ์ดาเป็นนายสิบตำรวจท่านหนึ่งที่ถูกผู้ร้ายยิงตาย ซึ่งมีเรื่องเล่าว่าหลังถูกยิงตายดวงวิญญาณไม่ได้ไปไหน ยังเวียนวนบริเวณที่ตายจึงไปจุดธูปขอให้มาเป็นผงพราย” หลวงพ่อสวัสดิ์กล่าว