21ม.ค.นี้จ่อปลด'เจ้าคุณเสนาะ'อีก2ตำแหน่ง | คมชัดลึก

               16ม.ค.2558 ความคืบหน้ากรณี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีคำสั่งปลดพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) หรือเจ้าคุณเสนาะ ออกจากตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) อีกทั้ง พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมส. ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ยังมีคำสั่งเจ้าคณะกรุงเทพฯ พักงานพระพรหมสุธี จากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พร้อมทั้งแต่งตั้งพระพรหมสิทธิ(ธงชัย สุขญาโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ขึ้นเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ทั้งนี้สาเหตุของการออกทั้ง 2 คำสั่งดังกล่าว มาจากการที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจพบความผิดปกติของงบประมาณการจัดงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และอดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  จำนวน67 ล้านบาท ซึ่งงบฯดังกล่าวพระพรหมสุธี ในขณะที่ยังเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ มีอำนาจเบิกจ่ายได้แต่เพียงผู้เดียวนั้น

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณคณะ 1 กุฏิของพระพรหมสุธี ปิดเงียบ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้ากุฏิ 1นาย พร้อมทั้งมีญาติโยมที่ศรัทธามารอกราบสักการะให้กำลังใจ โดยจากการสอบถามทราบว่า พระพรหมสุธี ยังอยู่ในกุฏิ ไม่มีกิจนิมนต์ไปไหน แต่เมื่อคืนวันที่ 15 ม.ค. กลับเข้าวัดมาตอนประมาณ 22.00น.
                
               อย่างไรก็ตาม ในการประชุมมส.วันที่ 21 ม.ค.นี้ จะมีการนำคำสั่งพักงานเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เข้าหารือในที่ประชุม หากมส.มีมติให้ปลดพระพรหมสุธี จากเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จะส่งผลไปยังตำแหน่งทางการปกครองอีก 2 ตำแหน่งที่พระพรหมสุธี ดำรงตำแหน่งอยู่ คือ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ และเจ้าคณะภาค 12 เนื่องจากในการปกครองคณะสงฆ์หากพระสงฆ์ไม่ได้ดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการตั้งแต่ระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงขึ้นไป จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการปกครองสงฆ์อื่นๆได้
                
               ด้านพระพรหมดิลก กล่าวว่า คำสั่งพักงานพระพรหมสุธีนั้น เพื่อให้ทางสตง.สามารถดำเนินการตรวจสอบได้สะดวก หากผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีความผิดก็สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ
ข้อ 56 ประกอบด้วย โดยระบุว่า พระสังฆาธิการรูปใดต้องอธิกรณ์ หรือถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา และอยู่ในระหว่างพิจารณาวินิจฉัย หรือมีกรณีต้องหากว่าละเมิดจริยาอย่างร้ายแรง และอยู่ในระหว่างสอบสวน ถ้าผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดเห็นว่า จะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างพิจารณาหรือสอบสวน จะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ จะสั่งให้พักจากตำแหน่งหน้าที่ก็ได้ การให้พักจากตำแหน่งหน้าที่นั้น ให้พักตลอดเวลาที่พิจารณาหรือสอบสวน เมื่อพิจารณาหรือสอบสวนเสร็จแล้ว
    
               ถ้าปรากฏว่าพระสังฆาธิการที่ถูกสั่งให้พักนั้นไม่มีความผิด และไม่มีมลทินความผิดเลย ผู้บังคับบัญชาผู้สั่งให้พักต้องสั่งให้พระสังฆาธิการรูปนั้นกลับดำรงตำแหน่งเดิม เมื่อได้สั่งพักจากตำแหน่งหน้าที่นั้น หรือสั่งให้กลับดำรงตำแหน่งเดิมแล้ว ให้รายงานโดยลำดับจนถึงผู้มีอำนาจแต่งตั้งและจึงให้กรมการศาสนาทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันสั่ง แต่ถ้าปรากฏว่าถึงแม้การพิจารณาหรือสอบสวนจะไม่ได้ความสัตย์ว่าได้กระทำผิด แต่มีมลทินหรือมัวหมอง ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งพิจารณา ถ้าเห็นว่าจะให้กลับเข้ารับหน้าที่อีก อาจเสียหายแก่การคณะสงฆ์ ก็สั่งปลดจากตำแหน่งหน้าที่ได้



พศ.แจงปลด'เจ้าคุณเสนาะ'เรื่องการปกครอง
          

               นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า การถอดพระพรหมสุธี เจ้าอาวาสวัดสระเกศมหาวิหาร ออกจากตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม ก็เพื่อความเหมาะสม และเพื่อให้ท่านมีเวลาตรวจสอบหาพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ สตง. และอีกตำแหน่งหนึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาส ถือเป็นพระสังฆธิการ เมื่อมีปัญหาร้องเรียน เจ้าคณะกรุงเทพฯ ก็สามารถสั่งพักการปฎิบัตหน้าที่ได้ จึงได้แต่งตั้งให้พระพรหมสิทธิ รักษาการเจ้าอาวาส เพื่อบริหารจัดการวัดอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องปกติในการบริหารงาน ส่วนเจ้าคณะภาค 12 ท่านยังคงปฎิบัติหน้าที่ต่อไป ตราบเท่าที่ยังไม่มีคำสั่งจากมหาเถรสมาคม ในส่วนของสำนักพุทธฯ ในฐานะที่มีหน้าที่คอยรับสนองงานคณะสงฆ์ ไม่สามารถเข้าไปจัดการเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องการปกครองภายในคณะสงฆ์ คงต้องให้คณะสงฆ์สั่งการเท่านั้น


พระพรหมสิทธิตั้งก.ก.แก้ปัญหางบฯ67ล้าน
     
                           
                ขณะที่พระพรหมสิทธิ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้ให้สัมภาษณ์ภายในกุฏิ คณะ12 ว่า การบริหารวัดในช่วงที่ตนได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ให้มาเป็นรักษาการเจ้าอาวาสนั้น จะยึดตามหลักการบริหารของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ให้พระ เณร ทุกรูปอยู่ด้วยกันแบบพี่ น้อง สามารถอยู่ร่วมกันภายในวัดได้  ส่วนกรณีงบฯ 67 ล้านบาท ที่เป็นปัญหาอยู่นั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด ประกอบด้วยผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯทั้งหมด เพื่อชี้แจงต่อสตง. ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ตนจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ในส่วนของพระพรหมสุธี ก็สามารถอยู่ร่วมกันภายในวัดได้ ตนไม่ได้มีปัญหาอะไร สามารถคุยกันได้ ขณะที่บรรยากาศภายในวัดไม่ถือว่าแตกแยก ยังคงมีความเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ จะเห็นได้จากการที่ตนไปรับคำสั่งเจ้าคณะกรุงเทพฯ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ก็มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯทุกรูปไปร่วมในพิธีด้วย