
ประกวดพระท้องถิ่นมาตรฐานในแบบฉบับ'เปี๊ยก ปากน้ำ'
ประกวดพระท้องถิ่นมาตรฐานในแบบฉบับ'เปี๊ยก ปากน้ำ' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"การจัดงานการประกวดอนุรักษ์พระบูชาพระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์" เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการขอจองวันจัดงานการประกวดนั้น ใครหรือหน่วยงานใดก็จัดได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตสมาคม แต่การแจ้งมายังสมาคมจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้จัดงานเอง คือ การจัดงานจะไม่ซ้ำซ้อน หรือจัดงานชนกัน ทั้งนี้ หากงานใดขึ้นชื่อว่าสมาคมให้ความเห็นชอบและให้การสนับสนุน งานประกวดนั้นๆ ถือว่าเป็นงานที่มีคุณภาพ เพราะมีกรรมการของสมาคมไปช่วยตัดสิน
แต่สำหรับ นายเติมศักดิ์ ปิยะมณีพร หรือ เปี๊ยก ปากน้ำ ประธานชมรมอนุรักษ์พุทธศิลปะไทยคนแรก ที่คร่ำหวอดในวงการพระเครื่องกว่า ๓๐ ปี กลับไม่คิดอย่างนั้น ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ การประกวดพระท้องถิ่น ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ ตลาดเคมาร์เก็ต ถ.เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ ไปตรงกับงานประกวดพระของ จ.ลำปาง ของนายธีรเดช จังตระกูล หรือที่รู้จักกันในนาม "ต้น ลำปาง" ประธานชมรมผู้นิยมพระเครื่องเมืองลำปาง ที่สมาคมพระเครื่องให้การรับรอง
“ผมไม่ได้จัดงานชนกับเขา แต่เขาสิจัดงานตรงกับผม เพราะผมจองวันก่อนเพราะเห็นว่าวันว่างไม่มีใครจองไม่มีใครจัดงาน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ผมจึงทำหนังสือถึงไอ้ยัพ นายกสามาคมผู้นิยมพระเครื่งพระบูชาไทยเพื่อนซี้เพื่อแจ้งให้ทราบเฉยๆ ว่าเพื่อนจะจัดงานประกวดพระ เพื่อความสบายใจของเพื่อนเดี๋ยวมาว่ากันได้ภายหลังว่ามีงานแล้วไม่บอกเพื่อน” นี่เป็นคำยืนยันจากปาก เปี๊ยก ปากน้ำ
พร้อมกันนี้ เปี๊ยก ปากน้ำ ยังบอกด้วยว่า ด้วยเหตุที่สมาคมพระเครื่องเป็นสมาคมที่ใหญ่ ถ้ามีการจัดงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก็จะเลื่อนงานออกไป เพราะขืนแข่งกันจัดก็จะขาดทุนกันทั้งสองงาน แต่การจัดงานครั้งนี้เป็นคนละภูมิภาค และเป็นงานระดับท้องถิ่น คนเล่นพระคนละกลุ่มจึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะกรรมการตัดสินพระเป็นคนละกลุ่มอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงมาตรฐานของกรรมการตัดสินพระ เปี๊ยก ปากน้ำ บอกว่า เซียนพระรุ่นเก่าที่มีความสามารถได้ห่างหายไปจากงานประกวดหลายท่าน อาจจะด้วยเพราะไม่มีเวลา หรือสุขภาพไม่อำนวย หรือไม่มีใครนึกถึง โดยงานนี้ผมได้เชิญเซียนพระรุ่นเก๋า ฝีมือชั้นครูมาร่วมตัดสินด้วยหลายท่าน กรรมการส่วนมากจากเซียนพระระดับตำนานนอกสายตาสมาคม อีกส่วนหนึ่งมาจากกรรมการที่ผิดหวังในระบบการทำงานของสมาคมพระเครื่อง เช่น นายมงคล พรหมโชติ นายธีรยุทธ จงบุญญานุภาพ นายนำชัย ดิวิ นายสมนึก ศรีผ่องใส หรือที่วงการพระรู้จักกันดีในนาม โกยี สุโขทัย เซียนพระอาวุโส ผู้อยู่ในวงการพระมานานกว่า ๓๐ ปี รวมทั้ง จ.ส.ต.ทวี วงษ์สิทธิ์ หรือ "จ่าทวี" เจ้าของนิตยสารมรดกพระเครื่อง เป็นต้น
“ผมมีโอกาสไปร่วมงานประกวดพระอยู่บ่อยครั้ง เห็นว่างานประกวดพระในทุกวันนี้ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมาก พระเครื่องยอดนิยมและทั่วไปหลายรายการไม่ได้รับการบรรจุอยู่ในรายการประกวดเหมือนดังแต่ก่อน อีกทั้งปัจจุบันการเล่นหาก็กว้างขวางขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก พระที่เคยถูกมองว่าเป็นพระท้องถิ่น พระย่อย ปัจจุบันกลับได้รับความนิยมในวงกว้าง ผมจึงได้จัดงานประกวดพระขึ้น” เปี๊ยก ปากน้ำ กล่าว
งานประกวดพระของเปี๊ยก ปากน้ำ ครั้งนี้ มีรายการประกวด ๕๑ โต๊ะ ๑,๘๐๘ รายการ รางวัลชนะเลิศแต่ละรายการ ได้แก่ พระหลวงปู่ทวด รุ่น “สมเด็จเมืองใต้” ปี ๒๕๕๒ พิมพ์หลังเตารีด เนื้อทองผสม รางวัลที่ ๒-๔ คือ พระหลวงปู่ทวด รุ่น “สมเด็จเมืองใต้” นอกจากนี้แล้วความพิเศษที่แตกต่างจากงานประกวดพระที่ไม่เคยมีงานไหนทำมาก่อน ทั้งคนส่งพระ แผงพระ กรรมการ รวมทั้งคนอื่นที่ไปร่วมงาน รับประธานอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม ฟรีตลอดงาน ตั้งแต่เช้าถึงบ่าย โดยทีงานได้ไปเหมาร้านอาหารกว่า ๑๐ แห่ง มาเปิดร้านให้บริการ
สมาคมพระเครื่องเมืองไทย
เปี๊ยก ปากน้ำ บอกว่า การจัดงานประกวดพระเครื่อง ได้ประโยชน์ถ้วนหน้าทุกภาคส่วน ตั้งแต่แผงพระไปถึงกรรมการตัดสินพระ ส่วนจะเป็นในรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับว่าเป็นส่วนไหนของงาน เช่น บางคนได้รับผลประโยชน์จากการทำหนังสือ ทำโบรชัวร์ ทำบัตร ถ่ายรูป ตั้งโต๊ะพระ ขายอาหาร ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อยกมาตรการเล่นพระของสมาชิกขณะนี้ได้มีการยื่นของตั้ง “สมาคมพระเครื่องเมืองไทย” แล้ว การจัดงานครั้งนี้จุดประสงค์ส่วนหนึ่ง คือ เพื่อคัดสรรกรรมการตัดสินพระที่จะมาทำงานให้สมาคม โดยในช่วงแรกๆ จะรับตำแหน่งนายกสมาคมก่อน จากนั้นก็จะจัดรูปแบบการทำงานให้เป็นเช่นเดียวกับสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย โดยงานแรกของสมาคมพระเครื่องเมืองไทย คือ ออกใบรับรองพระเครื่อง หรือใบเซอร์ เช่นเดียวกับสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย แต่ขอประกาศในที่นี้เลยว่าจะไม่ออกให้พระขุนแผน กรุวัดอัมพวัน จ.นนทบุรี เด็ดขาด
"ผมไม่รู้ว่าเพื่อนยัพจะคิดอย่างไรเมื่อผมตั้งสมาคมพระเครื่องเมืองไทยขึ้นมา ทั้งนี้ ต้องยอมรับกันว่าเส้นทางเดินคนไม่เหมือนกัน อย่างน้อยให้เซียนพระที่ไม่มีทางเดินได้เดินทางด้วยความสบายใจ ได้มีที่ยืนในวงการะพระเครื่องเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันที่สมาคมพระเครื่อง ๕ สมาคมแล้ว" เปี๊ยก ปากน้ำ กล่าว
สำหรับประสบการณ์ในเส้นทางพระเครื่องของ เปี๊ยก ปากน้ำ นั้น คร่ำหวอดในวงการพระเครื่องเกือบ ๔๐ ปี เคยเป็นอดีตประธานชมรมอนุรักษ์พุทธศิลปะไทยคนแรก รวมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมพระเครื่อง ร่วมกับ พยัพ คำพันธุ์ ที่นอกจากเป็นเจ้าของนิตยสารพระเครื่อง "นักเลงพระ" และ "มรดกฅนไทย" รวมทั้งจัดรายการวิทยุที่สถานีวิทยุ ๐๑ ดอนเมือง คลื่น ๑,๒๓๓ เอเอ็ม ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๒๑.๐๐-๒๒.๐๐ น. เป็นรายการให้ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง ซึ่งได้จัดติดต่อกันเป็นเวลา ๑๔ ปีแล้ว
สนามพระศรัทธาบารมี
สนามพระศรัทธาบารมี ดำเนินการโดยนายสุชาติ เดชขุน ประธานชมรมพระเครื่องศรัทธาบารมี หรือที่รู้จักกันในนาม “ไก่ บางเมือง” เปิดดำเนินการมากว่า ๑ ปีแล้ว ขณะนี้เป็นที่รู้จักของคน จ.สมุทรปราการและจังหวัดใกล้เคียง ว่าเป็นศูนย์พระที่มีมาตรฐานแห่งหนึ่งของวงการพระเครื่อง
“ไก่ บางเมือง” บอกว่า สนามพระศรัทธาบารมีเปิดมาเป็นปีที่ ๒ มีตู้พระ ๔๕ ตู้ ห้องวีไอพี ๑๔ ห้อง และโต๊ะพระอีก ๒๕๐ โต๊ะ ที่จอดรถกว่า ๒๐๐ คัน โดยเปิดบริการทุกวัน มีนัดพิเศษทุกวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ เริ่มปล่อยกันตั้งแต่ ๐๖.๐๐ น. เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อดึงให้แผงจรมาเปิดร้านจึงได้บริการอาหารเครื่องดื่มฟรี มีจับสลากแจกรางวัลเป็นแหวนทอง เครื่องใช้ไฟฟ้า และพระเครื่องยอดนิยมทุกนัด
ในการจัดงานประกวดพระครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักสนามพระแห่งนี้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้ผู้สนใจพระเครื่องใน จ.สมุทรปราการ ก็จะเปิดสอนวิธีการดูให้ฟรีทุกๆ วันเสาร์ โดยการส่องจากองค์ ทำให้ดูพระเป็นเร็วยิ่งขึ้น แค่สมัครเป็นสมาชิกของชมรมพระเครื่องศรัทธาบารมีเท่านั้น