พระเครื่อง

หลวงพ่อสุวัฒน์ศิษย์ผู้เผยแผ่ธรรมแนวหลวงปู่สังวาลย์

หลวงพ่อสุวัฒน์ศิษย์ผู้เผยแผ่ธรรมแนวหลวงปู่สังวาลย์

09 ม.ค. 2558

หลวงพ่อสุวัฒน์ สุวฑฺฒโนศิษย์ผู้เผยแผ่ธรรมแนว "หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก" เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

                วัดหนองไผ่ เป็นวัดเก่าแก่ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๖ ซึ่งสมัยนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสระบ้านช่อง มีเนื้อที่ประมาณ ๖ ไร่เศษ ห่างจากที่ตั้งของวัดปัจจุบัน ๑ กิโลเมตร ติดถนนระหว่างถนนเส้นสามชุก กับ ถนนหนองหญ้าไซ เนื่องจากสถานที่ไม่เหมาะสมที่จะขยายเป็นวัดได้ จึงย้ายมาสร้างใหม่ใกล้หนองน้ำขนาดใหญ่มีต้นไผ่ขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นแหล่งสำหรับคนและสัตว์อาศัยดื่มกิน

                ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๖๙ จึงได้รับหนังสือตราตั้งเป็น “วัดหนองไผ่” ตั้งอยู่หมู่ ๑ ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เดิมเป็นที่พักสงฆ์ มีเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ซึ่งผู้ที่บริจาคสถานที่สร้างคือ นายร้อยสง-นางจั่น ศรีสำแดง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ ใน พ.ศ ๒๔๙๙ นางดำ ได้ถวายที่ดินเพิ่ม ๔๐ ไร่ ได้ขุดคูล้อมเกาะ ๒๐ ไร่ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ และได้ปลูกไม้ยืนต้นบริเวณรอบเกาะ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ญาติโยมได้ร่วมใจกันบริจาคทรัพย์ซื้อที่ดินเพิ่ม ๒๒ ไร่เศษ ในปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๓ มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐๐ กว่าไร่)

                อย่างไรก็ตาม ในราวปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เจ้าสำนักสงฆ์ ได้ยกให้หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก รับใช้เป็นสถานที่สอนปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งสภาพสำนักสงฆ์ ในขณะนั้นมีสภาพเสื่อมโทรมมาก แต่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก ได้ไปสร้างหมู่คณะสงฆ์ที่เขาสารพัดดี จ.ชัยนาท โดยให้มีพระรักษาการแทนที่วัดหนองไผ่ ได้แก่ พระทอง ระหว่าง พ.ศ.๒๕๐๖-๒๕๐๗ พระเอม ระหว่าง พ.ศ.๒๕๐๘-๒๕๐๙ พระจำรัส ระหว่าง พ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๑๒ พระพลัด ระหว่าง พ.ศ.๒๕๑๓-๒๕๑๕ พระจ้อย ระหว่าง พ.ศ.๒๕๑๖-๒๕๑๗ พระมัน ระหว่าง พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๑๙ พระสามารถ ระหว่าง พ.ศ.๒๕๒๐-๒๕๒๒ พระบุญส่ง ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๒๓-๒๕๒๔ พระคันชิต ระหว่าง พ.ศ.๒๕๒๕-๒๕๒๖

                พ.ศ.๒๕๒๗ หลวงพ่อสุวัฒน์ สุวฑฺฒโน ได้เข้ามาภาวนาปฏิบัติกรรมฐานและศึกษาธรรมะต่อ กับหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก (ขณะนั้นหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก ได้อยู่ที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม เนื่องจากวัดทุ่งสามัคคีธรรมอยู่ห่างจากวัดหนองไผ่เพียง ๕ กิโลเมตร) ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก ได้มีศิษย์มากมาย

                หลวงพ่อสุวัฒน์เริ่มเผยแผ่ แนวทางการปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ให้แก่สาธุชนผู้มีจิตศรัทธา ใน พ.ศ.๒๕๔๘ ได้แสดงธรรมทางสถานีวิทยุสังฆทานธรรม ตลอดไตรมาส (๓ เดือน) และในปลายปี ๒๕๔๙ นี้เอง หลวงพ่อสุวัฒน์ จึงได้โปรดญาติโยมโดยการสอนแนวทางปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ๔ เป็นคอร์สแรกเมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ.๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน

                เมื่อครั้งที่เป็นเจ้าวัดหนองไผ่ใหม่ๆ หลวงพ่อสุวัฒน์ บอกว่า ขณะนั้นไม่มีพระจำพรรษาอยู่เลย บวชแล้วก็สึกออกไปหมด ปี ๒๕๒๗ พรรษาที่ ๖ ได้รับนิมนต์ให้มาอยู่เป็นเจ้าอาวาส ใจจริงไม่อยากเป็น อยากอยู่ในที่อิสระปลอดจากผู้คน เป็นป่าเขา จะได้มีเวลาปฏิบัติทั้งวันทั้งคืนไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้ยุ่งยาก ไม่อยากเกี่ยวข้องกับทางโลก เห็นมีแต่เรื่องทุกข์ วุ่นวายมากเรื่องราวสารพัด เสียเวลาในการปฏิบัติจิตภาวนา แต่จำเป็นต้องอยู่ อยู่โดยไม่ขอแสดงตนว่าเป็นเจ้าอาวาส ไม่ร่วมสังฆกรรมใด เช่น ประชุมอำเภอ จังหวัด ประชุมเจ้าอาวาสไม่ไป มีใครมานิมนต์ก็บอกไปว่าไม่ใช่เจ้าอาวาส 

                "อาตมาเป็นพระมาอยู่เพื่อภาวนาเท่านั้น เรามุ่งภาวนาอย่างเดียว ไม่ก่อสร้างอะไร จิตของนักปฏิบัติจะไม่คำนึงถึงสิ่งก่อสร้าง อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย ผู้คน ญาติโยม กิจนิมนต์ ลาภ ยศสรรเสริญอะไรนี่เป็นเรื่องกิเลสทางโลกอันมีแต่ทุกข์ร้อนทั้งนั้น นักภาวนาจิตสงบเข้าถึงสมาธิมีสุข คุ้มค่ากว่าสิ่งภายนอกหลายร้อยหลายพันเท่า" หลวงพ่อสุวัฒน์ กล่าว

ฟังธรรมให้เข้าถึงธรรม

                หลวงพ่อสุวัฒน์  บอกว่า การฟังธรรมครั้งพุทธกาลกับการฟังในปัจจุบัน ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ขึ้นอยู่กับผู้แสดงธรรมกับผู้สดับตรับฟัง ผู้แสดงธรรมต้องเป็นบุคคลที่รู้ธรรมเห็นธรรมแล้ว มีธรรมอยู่ภายในจิตแล้ว พร้อมทั้งศีล สมาธิ ปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมของพระพุทธเจ้าไม่สงสัยแม้นิดเดียว จึงแสดงธรรมไปด้วยความแน่ใจมั่นใจไม่เคลือบแคลงสงสัย เพราะธรรมกับจิตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่มีกิเลสเข้าไปแอบแฝงอยู่เลย คำที่แสดงล้วนเป็นธรรม เป็นศีลของจริงทั้งหมดขาดจากวิกิจฉาความสงสัย สีลัพพตปรามาสการลูบคลำ ตลอดจนอคติลำเอียง ผู้ฟังก็ฟังด้วยความมั่นใจในธรรมานุภาพที่มีพลังมากกว่า อสัทธรรมที่มักจะแอบแฝงไปด้วยกิเลสและความไม่นอนแน่ใจในตัวเอง ตลอดจนการเทศน์สอนผู้อื่นก็มักจะเป็นไปด้วยสัญญาความจำ ไม่แยกแยะโดยพิสดารได้ ผู้ฟังย่อมไม่ประทับใจไม่สมเหตุสมผล กลายเป็นความสงสัยทั้งผู้เทศน์และผู้ฟังไปด้วยกัน

                โลกสมมุติเป็นอย่างนี้ธรรมดาของชีวิตมนุษย์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ส่วนเรื่องธรรมเป็นเรื่องเฉพาะกิจ ผู้ใดฝักใฝ่อยู่ในธรรมก็จะพยายามแสวงหา เพื่อธรรมนั้นจะเกิดจะมีขึ้น เจริญขึ้นภายในจิตใจของตนเมื่อมีโอกาส

                ครั้งหนึ่งที่วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี มีการประชุมเพื่อที่จะหานิมนต์พระที่เหมาะสม สามารถแสดงธรรมอันละเอียดลึกซึ้งเป็นธรรมแท้ คือ ธรรมที่ถอดถอนกิเลสได้จริง ไม่ใช่ธรรมเมาอันเป็นโลกีย์วิสัย ลวงโลกให้โลกที่ยังงี่เง่าเต่าตุ่นหลงไหลกันต่อไปอย่างไม่มีวันลืมหูลืมตาได้ ทั้งผู้เทศน์ก็โง่เง่าผู้ฟังก็โง่เง่า แล้วก็จะจบลงไปด้วยกันอย่างไม่สงสัย ขณะนั้นจิตของเราเข้าอยู่ในภูมิธรรมใดภูมิธรรมหนึ่งแล้วจึงพอฟังธรรมของครูบาอาจารย์ที่แสดงออกได้เข้าใจ เรียกว่าฉลาดในการฟังธรรมแล้ว ที่ว่าเป็นธรรมะหรือธรรมเมา ธรรมะคือคำสอนที่ทำให้ออกจากทุกข์ได้จริงและต้องเกิดจากผู้ปฏิบัติดีจริง ทำจริงไม่หลอกตัวเองและหลอกผู้อื่นด้วย อำนาจ กิเลส ตัณหา มารยา เจ้าเล่ห์เจ้ากล

                การแสดงธรรมถ้าแสดงออกแบบอุปกิเลสทั้ง ๑๖ ข้อ ก็ไม่ชื่อว่าเป็นธรรมหรือแสดงธรรมออกมาแบบวิปัสสนูกิเลส ก็ไม่ชื่อว่าเป็นธรรม ล้วนเป็นธรรมเมาทั้งสิ้น ข้อนี้ขอท่านสาธุชนจงฟังด้วยดีมีปัญญาโดยแท้ การที่จะฟังธรรมแล้วรู้ว่า อย่างไหนเป็นธรรมแท้ อย่างไหนเป็นธรรมเทียม ผู้นั้นต้องปฏิบัติจริง รู้จริงเห็นจริง พ้นจากกิเลสได้จริง นั่นแล จึงจะมีปัญญาในการได้ยินได้ฟังได้เห็น ธรรมย่อมเหนืออธรรม ผู้ใดพูดเป็นอสัทธรรม พระผู้มีธรรมย่อมจะทราบได้ทันที นั่น ปัญญาเกิดจากการฟัง โสตะบุญญปัญญาแยกแยะสิ่งที่เป็นธรรมและไม่ใช่ธรรมได้โดยอัตโนมัติ เรียกว่าใช้ปัญญาแบบอัตโนมัติ อุปมาคนที่คลุกคลีอยู่กับเพชรพลอย จะชำนาญในการดูเพชรพลอย แค่มองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ธรรมของอสัตบุรุษย่อมปนเปื้อนไปด้วยกิเลสโลกีย์วิสัย ส่วนธรรมของสัตบุรุษย่อมไม่ปนเปื้อนไปด้วยกิเลสโลกีย์วิสัย ฉันนั้น

                เหตุผลในการจัดพระแสดงธรรม ต้องพยายามสรรหาพระปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเพื่ออกจากทุกข์สมควรแก่การกราบไหว้ เป็นเนื้อนาบุญของคนชาวโลกที่เรียกว่า สุปฏิปันโน โดยแท้

ร่วมบุญสร้างโบสถ์

                ตั้งแต่มีกาสร้างวัดมา วัดหนองไผ่ ยังไม่มีโบสถ์เพื่อประกอบพิธีสังฆกรรมตามพระวินัย ใน พ.ศ.๒๕๕๘ นี้ หลวงพ่อสุวัฒน์ จึงมีโครงการจัดสร้างโบสถ์ โดยภายในจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน

                อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ร่วมบุญ หลวงพ่อสุวัฒน์ จัดสร้าง พระพิมพ์สมเด็จเนื้อเหล็กน้ำพี้ รุ่น พ้นบ่วงมาร ทั้งนี้ หลวงพ่อสุวัฒน์ ได้ผสมมวลสารและกดพิมพ์ด้วยตัวเองทุกองค์

                ทุกๆ วันศุกร์-วันอาทิตย์ ของทุกๆ เดือน หลวงพ่อสุวัฒน์ ได้จัดให้มีการปฏิบัติธรรมนักบวชเนกขัมมะ โดยจะมีรถรับส่งฟรีที่สะพานพระราม ๕ นนทบุรี ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพระ นักบวชเนกขัมมะได้ที่วัดหนองไผ่ ติดต่อขึ้นรถปฏิบัติธรรม โทร.๐-๒๔๔๖-๖๓๐๒ ติดต่อเช่าวัตถุมงคลร่วมสร้างโบสถ์ โทร.๐๘-๗๕๑๗-๖๗๕๑  และ ๐๘-๕๔๔๔-๙๔๗๓ หรือที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสามชุก สุพรรณบุรี เลขที่บัญชี ๔๐๔-๔๖๐๖๒๒-๘