พระเครื่อง

มุดถ้ำพิสูจน์!ตัดเหล็กไหลไสยศาสตร์ตำรับพระอาจารย์สมพร สมวโร

มุดถ้ำพิสูจน์!ตัดเหล็กไหลไสยศาสตร์ตำรับพระอาจารย์สมพร สมวโร

15 ธ.ค. 2557

มุดถ้ำพิสูจน์! ตัดเหล็กไหลไสยศาสตร์ตำรับ'พระอาจารย์สมพร สมวโร' : เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพ ประเสริฐ เทพศรี

               การล่าเหล็กไหลอันเป็นตำนานกล่าวขานไม่รู้จบ ก่อนที่จะเป็นนวนิยายขายดีต้องยกให้การล่าเหล็กไหลชองทันตแพทย์วิชิต ตริชอบ เมื่อ ๓๐ ปีก่อน โดยได้มีการตั้งทีมล่าเหล็กไหลแบบนักวิชาการ มีการประชุมหาข้อมูลทุกแง่ทุกมุม โดยใช้เงินไปหลักล้านบาท

               ทั้งนี้ มีคนเคยถามทันตแพทย์วิชิตว่า “เหล็กไหลมีจริงหรือเปล่า” คำตอบก็คือ “ผมได้เห็นเหล็กไหลจริงๆ ดังที่ได้เล่าไว้ในหนังสือเรื่อง เหล็กไหลทั้ง ๔ เล่มนั่นแหละ แต่ไม่กล้ายืนยันว่า เหล็กไหลที่แท้จริงมีอยู่ในโลกนี้จริงๆ หรือไม่ มันยังอึมครึมลึกลับอยู่”
 
               ในที่สุดตำนานการล่าเหล็กไหลของทันตแพทย์วิชิต กลายเป็นเรื่องราวของเหล็กไหลในแง่การผจญภัย และพิธีกรรมตัดเหล็กไหลผ่านทางนักเขียนของ “พนมเทียน” ในหน้าหนังสือพิมพ์เดลินิวส์” ทำให้คนอ่านทั่วประเทศติดกันงอมแงมทีเดียว

               หลังจากนั้นเป็นต้นมายังมีการล่าเหล็กไหลกันอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการเผยแพร่พิธีกรรมตัดเหล็กไหลผ่าน "ยูทูบ" (มีคนชมกว่า ๒ แสนวิว) ของพระอาจารย์สมพร สมวโร (พระอาจารย์ใหญ่) แห่งสำนักป่าพระธรรมญาณมุนี ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยเมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ พระอาจารย์สมพร ได้ประกอบพิธีการเชิญเหล็กไหลที่พูดได้ว่ายิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ได้เหล็กไหลหลากหลายชนิด ทั้งเหล็กไหลโกฏิปี เหล็กไหลทองปลาไหล เหล็กไหลสุริยันราชา มีหลากหลายรูปทรง ทั้งแคปซูล หยดน้ำ จาวตาล ทรงเขี้ยว เพื่อนำมาให้ญาติโยมนำไปบูชา ปัจจัยที่ได้นั้นก็นำไปสร้างพิพิธภัณฑ์เหล็กไหล

               อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ ๑-๓ ธันวาคมที่ผ่านมา "คม ชัด ลึก" และหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อีก ๒ ฉบับ ถูกเชิญให้พิสูจน์พิธีกรรมการตัดเหล็กไหลของพระอาจารย์สมพร ณ ถ้ำเขาเหมน ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ชนิดที่เรียกว่า "อำนวยความสะดวกการถ่ายทำทุกขั้นตอน โดยเฉพาะไฟส่องสว่าง จุดยืนถ่ายภาพ" ขณะเดียวกันพระอาจารย์สมพรก็จัดทีมงานถ่ายทำทุกขั้นตอนเช่นกัน

               พิธีกรรมตัดเหล็กไหลพระอาจารย์สมพรนั้น น่าจะเรียกว่า พิธีกรรมอัญเชิญเหล็กไหลมากกว่า มีการตั้งเครื่องสังเวยและบายศรี เช่นเดียวกับการบวงสรวงเทพในพิธีกรรมต่างๆ ขณะเดียวกันก็มีการจัดเตรียมผ้าขาวที่เขียนยันต์ไว้เพื่อรองรับการหล่นลงมาจากผนังถ้ำ พิธีกรรมเริ่มด้วยการสมาทานศีล สวดมนต์ จากนั้นก็มีการกล่าวคำอัญเชิญเหล็กไหล ผ่านไปชั่วโมงเศษๆ มีงวงสีดำโผล่ห้อยลงมาจากผนังถ้ำด้านบนคล้ายกับสิ่งมีชีวิต ๒ ครั้ง จากนั้นก็มีหินหลากสี หลายขนาดตกลงมาจากด้านบนผนังถ้ำอย่าอัศจรรย์ใจแก่ผู้ร่วมพิธีเกือบร้อยคน

               เมื่อพิธีกรรมเสร็จสิ้น พระอาจารย์สมพร ได้มอบเหล็กไหลให้นักข่าวที่ไปร่วมพิสูจน์ครั้งนี้เป็นที่ระลึกทุกคน แม้ว่านักข่าวจะมีข้อสงสัยและเรื่องคาใจอีกหลายประเด็น หลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า "ไม่ใช่ของจริง" แต่ก็ไม่มีใครคืนเหล็กไหลให้พระอาจารย์สมพรเลยสักคนเดียว ขณะเดียวยังกันขอตามไปตัดเหล็กอีก ๓ ครั้งตามที่พระอาจารย์สมพร ตั้งใจไว้ว่าจะตัดเหล็กไหลให้ได้ครบ ๔ สี เพื่อนำไปประดิษฐานยังเจดีย์ ๔ ทิศ ที่กำลังจะสร้างขึ้นในอนาตค เพื่อปกป้องคุ้มครองชาวไทยให้พ้นจากภัยพิบัติต่างๆ
 
               "องค์ความรู้ของการอัญเชิญเหล็กไหลนั้น อาตมาได้สะสมจากหลายสำนัก หลายอาจารย์ สามารถแสดงให้เห็นว่าการอัญเชิญเหล็กไหลสามารถทำได้จริง ขณะเดียวกันสามารถแสดงอานุภาพที่อยู่ในเหล็กไหลนั้นให้ปรากฏให้เห็นชัดได้จริง โดยเฉาะเรื่องอยู่ยงคงกระพัน ส่วยเมตตามหานิยมนั้นต้องไปประสบเอง เพราะเป็นสภาวะที่อาศัยเหตุปัจจัยที่หลากหลาย ที่สำคัญคือ ทุกครั้งที่มีพิธีกรรมอัญเชิญเหล็กไหลจะมีการถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเหล็กไหลนั้นมีอยู่จริง" นี่เป็นคำยืนยันของพระอาจารย์สมพร

               พร้อมกันนี้พระอาจารย์สมพร ยังบอกด้วยว่า เหล็กไหลเป็นภาวะธาตุโดยธรรมชาติที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย อยู่ที่คนจะแสวงหาเพื่ออะไร ยกตัวอย่าง เหล็กไหลวัชรธาตุ หรือเหล็กนิพพาน มีคติความเชื่อว่า วัชรธาตุนั้นชอบที่จะเข้าไปบั่นทอนอาสวกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้ที่อยู่รอบข้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ตัวให้สภาวะแห่งกิเลสนั้นค่อยๆ ดับลงไปทำให้ปัญญาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะทำให้จิตใจไม่คิดเกินใจไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำ ทำให้จิตไม่คิดเกินใจ หากนำไปใช้ในทางโลก เหล็กไหลวัชรธาตุ มีเมตตา คุ้มครอง โชคลาภ มีบารมีในทุกๆ ด้าน สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน


๑ ความเชื่อของคนเล่นหินกายสิทธิ์


               ดร.ไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้หนึ่งที่สะสมและแสวงหาหินธาตุกายสิทธิ์ต่างๆ ถึงขนาดนำหินมาสร้างเป็น "ถ้ำแก้วเนรมิตหินธาตุกายสิทธิ์" โดยล่าสุด ดร.ไพโรจน์ ยังได้พญาเหล็กไหลดำ (เป็นชื่อเรียกตามชาวบ้าน) หรือเรียกว่าโคตรเหล็กไหล น้ำหนักมากถึง ๖ ตัน ซึ่งถือว่าเป็นก้อนใหญ่ที่สุดในโลกรวมทั้งก้อนที่มีน้ำหนักกว่า ๕ ตันมาอีก ๓ ก้อน มาไว้ในครอบครอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ ดร.ไพโรจน์ ที่จะเดินทางร่วมกับคณะเพื่อพิสูจน์ความจริงและได้เห็นกับตาตัวเอง

               "ผมได้ยินเรื่องการตัดเหล็กมานาน ทั้งที่เป็นการเล่าการตัดเหล็กไหลปากต่อปากถึงกฤษดาอภินิหารต่างๆ เรื่องจากหนังสือทั้งที่เป็นนวนิยาย รวมทั้งหนังสือเกี่ยวกับเหล็กไหลโดยเฉพาะ แต่ไม่เคยเห็นด้วยตาตนเอง เดินทางจากรุงเทพฯเกือบ ๒,๐๐๐ กิโลเมตร ใช้เวลา ๓ วัน เพื่อได้ร่วมและได้เห็นพิธีกรรมอัญเชิญเหล็กไหลถือว่าคุ้มค่า อย่างน้อยก็ได้เห็นด้วยตาตนเองจริงๆ" นี่เป็นเหตุผลของ ดร.ไพโรจน์

               พร้อมกันนี้ ดร.ไพโรจน์ บอกด้วยว่า ความเชื่อเรื่องเหล็กไหล เรื่องหินกายสิทธิ์ คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหล แต่โดยส่วนตัวมีความเชื่อว่าเรื่องของหินกายสิทธิ์แต่ละชนิดมีพลังวิเศษอยู่ในตัว พลังการคุ้มครองก็ไม่ต้องพูดถึงถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเลยก็ว่าได้ ถ้าพูดถึงราคาก็ไม่แพง เทียบกับการคุ้มครองชีวิตผู้ครอบครองก็ถือว่าถูกมากๆ แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงพลังของแร่แต่ละชนิด จึงไม่เห็นคุณค่า มองเป็นเรื่องเหลวไหลและไร้สาระ


เหล็กไหลความเชื่อแห่งเออีซี



               "เหล็กไหล เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนื่งในความเชื่อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในมาเลเซียมีชื่อเรียกว่า บือซีรีเละ" นี่เป็นความเห็นของ อ.ราม วัชรประดิษฐ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์พุทธศิลป์ และเจ้าของ "www.aj-ram.com"

               พร้อมกันนี้ อ.ราม ยังบอกด้วยว่า ไม่เพียงเฉพาะคนไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อและความพยายามค้นหาเหล็กไหลธาตุศักดิ์สิทธิ์ ในประเทศลาวมีพระรูปหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องเหล็กไหล คือ หลวงพ่อดี วัดพระไต นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว อายุกว่า ๙๐ ปีเศษ แต่ยังแข็งแรงเหมือนคนอายุ ๖๐ แต่ท่านเชี่ยวชาญในเรื่องเหล็กไหลไพรดำ เล่นแร่แปรธาตุ โดยออกธุดงค์ไปทางภูเขาควาย เข้าไปถึงเขมรและญวน จนได้รับความรู้เป็นอย่างดี จึงย้อนกลับประเทศไทย ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาจากเหนือจรดใต้ของประเทศ ทำให้ท่านได้ประสบการณ์เรื่องของธาตุกายสิทธิ์และเหล็กไหลมากมาย

               ทั้งนี้ มีคติความเชื่อที่เชื่อกันจริงๆ ว่า ในการไปตัดเหล็กไหลนั้นกล่าวกันว่าคนธรรมดานั้นไม่สามารถตัดเหล็กไหลเองได้เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา พญานาค หรือยักษ์รักษาอยู่ และพร้อมจะเข้าทำร้ายผู้เข้าไปเอาได้ หากผู้นั้นไม่ใช่คนดีมีบุญหรือมีวิชาอาคมแกร่งกล้าพอ เหล็กไหลที่ได้นี้กล่าวกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากมักฝังไว้ตามตัวผู้ที่ครอบครองกล่าวกันว่าจะไม่มีอะไรที่ทำร้ายผู้ที่ครอบครองตัวเหล็กไหลได้ทั้งมีด ปืน หรือแม้กระทั่งระเบิด ดินปืนทุกชนิดไม่สามารถจุดติดได้ในอาณาเขตที่มีเหล็กไหลอยู่