
อ.ประจำ อู่อรุณกับวจี'เล่นพระอย่าโลภและอย่าหลง'
อ.ประจำ อู่อรุณกับวจี'เล่นพระอย่าโลภและอย่าหลง' : พระเครื่องสรณคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"ถ้าพูดถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซา ในวงการพระเครื่องจะมามีผลกระทบกระเทือนตามมาทีหลัง แต่ไม่มากมาย ภาพรวมวงการพระเครื่องยังพอไปได้ ยังมีเงินทุนหมุนเวียนกันอย่างต่อเนื่อง รายได้ในวงการพระถือว่าดีอยู่ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าใครได้มากได้น้อย เพราะทุกคนไม่ค่อยออกตัวเท่าไร ขายได้ปล่อยได้จะเงียบไม่ยอมเอ่ยปากบอกใคร ปัจจุบันนิยมซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตกันมาก คนยังมีความนิยมเสาะหาพระเกจิอาจารย์ดังกันอยู่มาก ในส่วนตัวยังเล่นพระหลัก คือ พระชุดเบญจภาคี พระสมเด็จวัดระฆัง ถ้าไม่หักราคาอยู่ในหลักล้านทุกองค์ ส่วนองค์ที่แพงสุดๆ เคยได้ยินการมีตั้งราคาขายไว้ที่ ๘๐ -๑๐๐ ล้านบาท แต่ไม่มีการซื้อขายกันจริง"
นี่เป็นการวิเคราะห์สภาพธุรกิจพระเครื่องของ อ.ประจำ อู่อรุณ หนึ่งในผู้ชำนาญการและกรรมการตัดสินพระชุดเบญจภาคีของสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย และประธานที่ปรึกษาชมรมพระเครื่องพระบูชาพาต้าปิ่นเกล้า
ทั้งนี้ อ.ประจำ เปรียบเทียบความแตกต่างของการเล่นพระในอดีตกับปัจจุบันว่า มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ ในอดีตการเช่าพระมีความศรัทธานำหน้า ผลกำไรมาทีหลัง แต่ปัจจุบันเงินและผลกำไรมาก่อน ส่วนที่เช่าด้วยความศรัทธานั้นมีน้อยมากถึงขั้นไม่มีด้วยซ้ำ ทันทีที่หยิบพระขึ้นมาส่องจะเกิดความคิดว่าเช่าไว้เท่านี้จะปล่อยเช่าต่อได้เท่าไร ในขณะที่การสร้างพระใหม่ ผู้สร้างมักคิดไว้แต่ต้นว่าจะสร้างพระรุ่นนี้ออกมาขายจะได้กำไรหรือ ขาดทุนเท่าไร จะต้องใช้เงินโฆษณาเท่าไร ทำอย่างไรให้คนหลง ทำอย่างไรให้คนเชื่อ ตามที่ตัวเองต้องการ ส่วนที่สร้างด้วยความศรัทธานั้นเป็นข้ออ้างที่พูดขึ้นแล้วให้ดูดีเท่านั้น
เมื่อการเล่นพระที่มีเงินและผลกำไรมาก่อนความศรัทธานั้น ผลร้ายที่ตามมา คือ "พระปลอมในอดีตกลับกลายเป็นพระแท้ในปัจจุบัน" ซึ่งมีอยู่หลายสิบรุ่น มีทั้งเนื้อชิน เนื้อดิน เนื้องผง เหรียญ รวมทั้งเครื่องราง พระเหล่านี้จะเรียกว่าพระเก๊ไม่ถูกต้องเสียทั้งหมดน่าจะเรียกว่า "พระสร้างล้อพิมพ์พระแท้" ที่เป็นเช่นนี้เพราะผลประโยชน์และเงินนำหน้า ทำอย่างไรถึงจะได้เงิน แต่ต้องคิดด้วยว่า "พระที่โปรโมทและเล่นหากันว่าเป็นของแท้ แต่เมื่อไรที่ต้องขายออกไปจึงจะรู้ว่าทองแท้นั้นคืออะไร การซื้อพระผิดราคาไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ใหญ่กว่า การซื้อพระผิด คือ ซื้อพระเก๊ที่คนดีว่าเป็นพระแท้"
สิ่งหนึ่งที่อยากเตือน คือ การซื้อหนังสือพระที่ไม่มีมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันมีการทำหนังสือพระเก๊ทั้งเล่มเพื่อออกมาสร้างมาตรฐานพระเก๊ที่พวกตนเองเล่นอยู่ มีที่ไหนกันพิมพ์แบบนั้นและก็เป็นจริง ผู้รู้อีกหลายท่านก็เห็นตรงกัน จึงอยากให้ผู้อ่านหรือท่านที่รักจะสะสมพระเครื่องอย่าหลงเชื่อคนที่ไม่รู้ทำหนังสือออกขายโดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม หรือวัดไชโย อ่างทอง ด้วยแล้วต้องเดินให้ถูกทางไม่งั้นเสียเงินซื้อหนังสือหรือตำราหนาเกือบ ๕๐๐ หน้า โดยเปล่าประโยชน์เล่มละตั้งเกือบ ๒,๐๐๐ บาท จะกลายเป็นคนเล่นพระคนเดียวกลุ่มเดียวเก๊ตลอดกาล
พร้อมกันนี้ อ.ประจำ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า อย่าเล่นพระตามเซียน โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า "เซียนเขาเล่นกัน" ปัจจุบันนี้พระแท้หรือไม่แท้อยู่ที่เซียน เพราะคนเชื่อว่าเซียนเป็นผู้รู้จริง แต่มีเซียนพระจำนวนไม่น้อยเล่นพระผิดทางเพราะเห็นแก่เงิน ในอดีตเคยมีบทเรียนมาแล้ว เช่น พระสมเด็จวัดขุนอินทรประมูล พระกรุนางโรงทอ พระวัดตะไก หน้าครุฑ พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เมื่อข่าวแตกกรุใหม่ๆ คนตื่นแห่ซื้อกัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเล่นหากัน ตอนซื้อนั้นเป็นของแท้หมด แต่ความจริงจะปรากฏก็เมื่อต้องขายพระออกไป พระแท้ๆ กลับกลายเป็นพระปลอมไปได้ ผู้สะสมพระเครื่องเคยโดนมากนักต่อนักแล้ว การเล่นพระจะต้องมีสติ อย่าเชื่อตาเซียน แม้กระทั่งเซียนอย่างผม ซึ่งมีประสบการณ์ตัดสินพระชุดเบญจภาคีมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๒ หรือกว่า ๔๐ ปี การซื้อพระหลักแสนขึ้นไป ยิ่งเป็นหลักล้าน ต้องมีความรอบคอบเป็นพิเศษ อย่าเชื่อเซียนคนใดคนหนึ่ง เพราะเซียนยังมีกิเลส อยากขายพระได้กำไรมากๆ ความจริงของพระขุนแผนเคลือบ วัดอัมพวัน จะปรากฏเมื่อขายพระออกไป



