ยันต์จระเข้โทนหลวงปู่ทองตำรับ'หลวงพ่อสนิทวัดลำบัวลอย

               การสร้างวัตถุมงคลเป็นรูปสัตว์จากวัตถุอาถรรพณ์ของพระเกจิอาจารย์ดังๆ ในอดีตนั้น มีคติความเชื่อว่า สัตว์มีพลังอำนาจในตัวของมัน เช่น เสือ ราชสีห์ ลิง กระทิง ฯลฯ โดยเฉพาะรูปเสือ ซึ่งได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบันมีอยู่หลายรูป เช่น หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส (วัดบางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม หลวงพ่อมี วัดพระทรง จ.เพชรบุรี หลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาส ยานนาวา กทม. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ฯลฯ

               ส่วนการสร้างเครื่องรางประเภทจระเข้โทนนั้น เกิดขึ้นจากความเชื่อแต่โบราณที่ว่า เมื่อครั้งก่อนพุทธกาลสมัยที่พระพุทธเจ้ายังเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติ ๕๐๐ ชาตินั้น มีอยู่ชาติหนึ่งพระองค์เสวยชาติเป็นพญากุมภา เป็นเจ้าแห่งสัตว์น้ำทั้งหลาย มีบริวารเป็นจระเข้อีก ๕๐๐ ตัว เรียกได้ว่า ใครๆ ต่างก็เกรงกลัวบารมีของพญากุมภาเป็นอันมาก 

               จากความเชื่อนี้ทำให้ครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ ครูไสยศาสตร์จึงเอาคุณลักษณะนี้มาทำเป็นรูปลักษณ์เครื่องราง ลายสักที่เป็นรูปจระเข้ เอาอุปเท่ห์ของพญากุมภีร์มาเป็นคุณคือ มีอำนาจ มีบริวาร ทั้งยังคงกระพันต่อภัยร้ายและอาวุธทั้งปวงด้วย

               การสร้างเครื่องรางประเภทจระเข้โทน ต้องยกให้ พระครูเวทย์วินิฐ หรือ หลวงพ่อ สนิท วัดลำบัวลอย เป็นหนึ่งในนั้น โดยการสร้างจระเข้โทนนั้น ท่านศึกษาเล่าเรียนมาจากหลวงลุงเส็ง มีศักดิ์เป็นลุงจริงๆ ของท่าน ตัวหลวงลุงเส็งนี้ได้ศึกษาวิชามาจากที่ใดไม่ได้กล่าวถึง (เข้าใจว่ามาจากทางเขมร) 

               มีคติความเชื่อว่า การบูชาจระเข้โทนสามารถป้องกันคุ้มครองให้บังเกิดความแคล้วคลาดจากภยันอันตรายต่างๆ เป็นที่หวั่นเกรงของภูติผีปีศาจ เวลาเดินทางไปในที่แห่งใดไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำสรรพสัตว์ทั้งหลายจะยำเกรง ศัตรูหมู่มารจะเกรงขาม สามารถป้องกันเสนียดจัญไร ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ

               สำหรับ "จระเข้โทนรุ่นแรกเนื้อตะกรุด ที่จัดสร้างโดย หลวงปู่ทอง ปัญญาวโร เจ้าอาวาสวัดหินแร่เก่า ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ท่านสร้างตามตำรับหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย เพื่อนำรายได้สร้างโบสถ์หลังที่ ๓ วัดหินแร่เก่า"

               จระเข้โทนรุ่นแรกเนื้อตะกรุด ใต้ท้องจารยันต์ ๒ บท คือ ๑.ยันต์หัวใจพระรัตนตรัย ที่ว่า “อิ สวา สุ” ซึ่งย่อมาจาก พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ก็ใช้ยันต์ตัวนี้ในการบริกรรมเสกวัตถุมงคล โดยบริกรรมควงกัน ๓ บท คือ “อิ สวา สุ สุ สวา อิ สวา สุ อิ” กลายเป็นพระคาถาคุ้มกันภัย 

               อิ ย่อมาจาก บทพระพุทธคุณ ๕๖ คือ อิติปิโส...

               สวา ย่อมาจาก บทพระธรรมคุณ ๓๘ คือ สวาขาโต...

               สุ ย่อมาจาก บทพระสังฆคุณ ๑๔ คือ สุปะฏิปัณโน...

               และ ๒.หัวใจธาตุสี่ ที่ว่า “นะ มะ พะ ทะ” หมายถึง น้ำ ดิน ไฟ ลม ยันต์นี้ใช้ลงในกรณีเขียนรูปสัตว์หรือสิ่งชีวิตทุกชนิด มีพุทธคุณทางด้านโชคลาภ

               สำหรับผู่ที่สนใจรายเอียดเกี่ยวกับประวัติหลวงพ่อทอง รวมทั้งการจัดสร้างจระเข้โทนรุ่นแรก สามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ "www.facebook.com/nut.thaipra"