พระเครื่อง

หลวงปู่ทวด๑ฉ-๙ฉค่าและคุณแห่งโค้ด'พระองค์เจ้าเฉลิมพล'

หลวงปู่ทวด๑ฉ-๙ฉค่าและคุณแห่งโค้ด'พระองค์เจ้าเฉลิมพล'

25 ส.ค. 2557

หลวงปู่ทวด๑ฉ-๙ฉค่าและคุณแห่งโค้ด'พระองค์เจ้าเฉลิมพล' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

               พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ซึ่งสร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ (พระอาจารย์ทิม ธมมธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ ถือเป็นพระประเภทนิรันตรายที่มีประสบการณ์ชัดเจน มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเป็นเลิศ ผู้ที่นับถือต่างพบเห็นประสบการณ์มากมาย จนมีคำพูดว่า “แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง" และโด่งดังสูงล้ำด้วยค่านิยม ชนิดไล่หลังพระสมเด็จวัดระฆังเลยทีเดียว ทุกวันนี้กลับกลายเป็นค่านิยมที่มีการแสวงหากันทั่วประเทศ
 
               พระอาจารย์ทิม ได้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่ทวดจากนิมิต รูปพระภิกษุชราองค์ดำ ที่มีวัยประมาณ ๙๐ ปีตามนิมิต มีรูปกายสันทัด ผิวคล้ำ หน้าเข้มคมแบบคนพื้นถิ่นทางใต้ แฝงไปด้วยตบะเดชะและอำนาจ และความเมตตา จึงเป็นที่มีของการแกะแม่พิมพ์ด้วยครั่ง เพื่อนำมาพิมพ์พระที่สร้างขึ้นจากเนื้อว่าน ๑๐๘ ชนิด ผสมด้วยดินกากยายักษ์ โรยหลังด้วยแร่ ภายใต้การอนุเคราะห์ของคหบดีชาวปัตตานี คือ คุณอนันต์ คณานุรักษ์ ซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์วัดช้างให้เรื่อยมา

               ส่วนความเกี่ยวพันกับตำนานการสร้างพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพล ฑิฆัมพร หรือพระองค์ชายกลาง คือ เนื่องจากท่านทรงคบหาสนิทสนมเป็นมิตรกับคหบดีใหญ่ปักษ์ใต้ คือ คุณอนันต์ คณานุรักษ์ และได้รับมอบพระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พ.ศ.๒๔๙๗ จากคุณอนันต์มาหนึ่งองค์โดยทรงบูชาติดตัวประจำ

               ครั้งหนึ่งรถยนต์ที่พระองค์ชายกลางประทับเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ แต่พระองค์ไม่มีอันตรายแม้แต่รอยขีดข่วน ทำให้ท่านเกิดความศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างให้อย่างสูง และเมื่อวัดโดยพระอาจารย์ทิม และคุณอนันต์ จะจัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด พ.ศ.๒๕๐๕ ท่านจึงปวารณาตัวขอเป็นผู้อุปถัมภ์ในการจัดสร้าง และได้นำชนวนโลหะอันศักดิ์สิทธิ์มาเทหล่อเป็นเนื้อโลหะต่างๆ ที่กรุงเทพมหานคร กลายเป็นพระรุ่น พ.ศ.๒๕๐๕ ที่ลือลั่นมาจนถึงปัจจุบัน
 
               ในการจัดสร้างพระครั้งนั้น เนื่องด้วยเสด็จพระองค์ชายกลางเป็นผู้อุปถัมภ์ จึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี และท่านได้จัดสร้าง "พระกริ่ง" อันงดงามด้วยพุทธลักษณะขึ้นในครั้งนั้นด้วย เมื่อหล่อพระกริ่งได้โปรดให้ช่างแกะแม่พิมพ์ขึ้นและเททองปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พร้อมกันกับพระเครื่องหลวงปู่ทวด พ.ศ.๒๕๐๕

               ครั้นเสร็จจากพิธีเสด็จท่านได้ถวายพระกริ่งซึ่งสำเร็จขึ้นมีพุทธลักษณะงดงามให้วัดช้างให้จำนวน ๓๐๐ องค์ ซึ่งเรียกกันต่อมาว่า "พระกริ่งใหญ่หลวงปู่ทวด" หรือ "พระกริ่งวัดช้างให้" ส่วนที่เหลือทรงนำมาถวายให้วัดตาก้อง ด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรนั้น ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และปลุกเสกอีกวาระโดยเกจิอาจารย์สายนครปฐม ผู้คนเรียกกันว่า "พระกริ่งเฉลิมพล" ซึ่งทั้งสองประเภทได้รับความนิยมแสวงหาจากนักสะสมอย่างยิ่ง และต่อมาผู้คนก็พลอยเรียกพระกริ่งของวัดช้างให้ว่าพระกริ่งเฉลิมพลไปด้วย

               พระองค์ชายกลาง ทรงเป็นเจ้านายที่ทรงพระปรีชารอบรู้และฝักใฝ่พระทัยในศิลปะและวรรณคดี ได้ทรงเกื้อกูลและอุปถัมภ์ทั้งศิลปะและศิลปินตลอดมา เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๖ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล (พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งเป็นพระอนุชาร่วมพระครรภ์กับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) มีพระเชษฐาและพระอนุชา คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๔ พระชันษา ๗๘ พรรษา


๒ ปีแห่งการแสวงหา

               "ผมใช้เวลากว่า ๒ ปี และใช้เงินไปหลายสิบล้านบาท ในการแสวงหาพระหลวงปู่ทวดทองคำ ปี ๐๕ ที่ตอกโค้ด ฉ และลายเซ็นพระองค์เจ้าเฉลิมพล ในที่สุดผมก็มี หลวงปู่ทวด เตารีด ทองคำ ครบตั้งแต่ ๑ ฉ ถึง ๙ ฉ " นี่เป็นความพยายามของนายสุขธรรม ปานศรี หรือที่คนในวงการรถยนต์รู้จักในชื่อ “เฮียกุ่ย” ผู้จัดการใหญ่ บริษัท แม็กกา อาร์.ดี. (กรุ๊ป) จำกัด นักสะสมพระหลวงพ่อทวดชุดทองคำมานานกว่า ๑๐ ปี และเจ้าของ "WWW.SOONPRARATCHADA.COM"

               เฮียกุ่ย บอกว่า ได้พระหลวงปู่ทวด ๓ ฉ ๒ ลายเซ็น เนื้อทองคำ องค์แรก โดยแบ่งมาจากนายอุดม กวัสสราภรณ์ ที่คนในวงการนิยมเรียกว่า "เสี่ยดม" อดีตปูชนียบุคคลของวงการพระเครื่อง จากนั้นก็พยายามสืบหาเรื่อยมาและก็ได้พระจากทายาทของนายอนันต์ และ คุณจำเริญ โดยองค์ล่าสุดที่ได้เข้ามาเก็บในรัง คือ หลวงปู่ทวดทองคำ เตารีด ๘ ฉ ๘ ลายเซ็นพระองค์เจ้าเฉลิมพล

               เมื่อถามถึงการตั้งมูลค่าพระพระหลวงปู่ทวดทองคำ ปี ๐๕ โค้ด ๑ ฉ ถึง ๙ ฉ เฮียกุ่ย บอกว่า เป็นเรื่องยากที่คนคนเดียวจะแสงหาพระชุดนี้มาครอบครองครบชุด เพราะลำพัง โค้ด ฉ ตัวเดียวก็ขึ้นชื่อว่าหายากสุดๆ แล้ว แต่หากมีใครอยากได้ครอบครองต้องใช้เงินอย่างน้อย ๓๐๐ ล้านบาท


ค่าและคุณแห่งโค้ด

               "โค้ดทำให้พระมีราคาแพงที่สำคัญ คือ ปลอมแปลงยากขึ้น" นี่เป็นความเห็นของ "พ.อ.อ.โกวิทย์ แย้มวงษ์" หรือ "จ่าโกวิทย์" ประธานชมรมนักข่าวและช่างภาพพระเครื่อง ผู้อำนวยการนิตยสารพระเครื่องอภินิหาร คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย รองประธานชมรมนักข่าวและช่างภาพพระเครื่อง

               จ่าโกวิทย์ บอกว่า พระที่สร้างก่อน พ.ศ.๒๕๐๐ ส่วนใหญ่จะไม่มีโค้ด การตอกโค้ดน่าจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายหลัง พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นต้นมา เพื่อที่จะให้รู้ว่าวัตถุมงคลรุ่นนั้นมาจากไหน ใครเป็นผู้สร้าง ในอดีตจะนิยมตอกชุดกรรมการ เพราะต้องการบ่งบอกว่ามอบให้ใครเป็นคนพิเศษ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ การตอกโค้ด ฉ และเฉลิมพล ลงบนพระหลวงปู่ทวด พ.ศ. ๒๕๐๕ ทำให้มีราคาสูงและได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมมาก

               ประโยชน์ของการตอกโค้ด คือ ๑.ป้องกันการปลอมแปลง และการสร้างเสริมของโรงงาน เพราะวัตถุมงคลที่มีโค้ดนอกจากปลอมตัววัตถุมงคลแล้ว ต้องปลอมโค้ดซึ่งเป็นเรื่องที่อยากกว่า เนื่องโค้ดส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผู้จัดสร้าง วัตถุมงคลที่มาราคาแพงทุกชนิดต้องมีการปลอมโค้ด ที่ขึ้นชื่อว่าแพงสุดๆ ต้องยกให้พระและโค้ดชินราชอินโดจีน ๒.ในส่วนของราคานั้นจะสูงขึ้นตามจำนวนโค้ดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา เช่น กรณีของหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ โค้ดศาลาที่ตอกใต้ฐานพระกริ่งก้นเงิน ราคาสูงกว่าไม่มีโค้ดหลายเท่า

               "ที่ผ่านมาผมเคยสร้างอยู ๒ รุ่น คือ ๑.ขุนแผน รุ่น อภินิหาร เพื่อแจกให้สมาชิกจะพิมพ์โค้ดคำว่า "อภินิหาร ๑ ตัว" ส่วนโค้ด ๒ ตัว และ ๓ ตัว สร้างไว้สำหรับแจกสมาชิกพิเศษ และผู้ใกล้ชิด และ ๒.วัตถุมงคลรุ่นชมรมนักข่าวพระเครื่อง ได้มีการตอกโค้ดทั่วๆ ๑ โค้ด และ ๒ โค้ด เพื่อที่จะแยกความแตกต่างของเนื้อพระ รวมทั้งมีการตอก ๓-๔ โค้ด เพื่อมอบให้สมาชิกของชมรม" จ่าโกวิทย์กล่าว