พระเครื่อง

หมอดูช่วยชาติ
กับ...ธุรกิจค้าคำทำนายที่โตสวนกระแส

หมอดูช่วยชาติ กับ...ธุรกิจค้าคำทำนายที่โตสวนกระแส

02 ก.ค. 2552

"ช่วยชาติ" เป็นความพยายามของหลายๆ หน่วยงานที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษกิจของประเทศและของโลก ทั้งเช็คช่วยชาติ โครงการฝึกอาชีพช่วยชาติ ร่วมทั้งขึ้นรถเมล์และลดไฟฟรีเพื่อช่วยลดภาระค่าของชีพ และโครงการหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าโครงการที่ดำเนินงานภายใต้โค

  "วิชาโหราศาสตร์ หรือ ที่เรียกว่าหมอดูนั้นเป็นหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่ทำได้โดยไม่มีวันเกษียณ ทำได้จนหมดลมหายใจ ยิ่งแก่ยิ่งได้รับค่าตัวที่แพงขึ้น ที่สำคัญคืออาชีพนี้ไม่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิของประเทศ เศรษฐกิจดีคนก็ดูหมอ เศรษฐกิจไม่ดีคนก็ยิ่งดูหมอกันใหญ่ปัจจุบัน คำพยากรณ์รายวัน นั้นก็อยู่ที่คลิกเดียวในโทรศัพท์มือถือ โหราศาสตร์ที่ว่าเหลวไหลและลึกลับกลายมาเป็นเรื่องความรู้พื้น ๆ ในกลุ่มวันรุ่นมักจะอยากรู้ว่านิสัยเพื่อหนุ่มเพื่อนสาวเกิดเดือนนั้นเดือนนี้มีลักษณะอย่างไรอยากรู้ว่าจะมีคู่รักเป็นคนราศี ราศีไหนเหมาะจนเป็นคู่ครองของตน เท่ากับที่รู้ว่าเป็นหวัดหรือเป็นไข้เกิดจากอะไร และต้องรักษาอย่างไร ทัศนะคติในการใช้โหราศาสตร์เปลี่ยนไป(เปี๊ยนไป)เข้าประเด็น ก็คือในสังคมปัจจุบันการดูหมอเป็นเรื่องจำเป็นในการดำเนินชีวิต ประกอบกิจ การงาน และเป็นเรื่องที่ต้องรู้ประจำวัน มากกว่าเรื่องพยากรณ์อากาศ ผู้นำหลายอาชีพทั้งของไทยและต่างประเทศนั้นชาญฉลาดในการใช้ ใช้เป็น และไม่งมงาย " นี่คือคำยืนยันของอ.พัฒนา  พัฒนศิริ ผู้อำนวยการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ และครูโหรที่เป็นมือหนึ่งในการวางดวงฤกษ์ 

 ด้วยเหตุผลดังกล่าวสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ จึงการเปิดอบรมวิชาความรู้ในวิชาโหราศาสตร์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งที่สร้างความรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้าใจในหลักวิชาทางโหราศาสตร์มากขึ้น เพื่อให้เกิดการผลิต “บัณฑิตโหร” ที่ผ่านการเรียนการสอน การอบรมทั้งวิชาความรู้ จริยธรรม และมโนธรรม อย่างแท้จริงเพราะฉะนั้น ทางสถาบันพยากรณ์ศาสตร์จึงได้เปิดอบรมความรู้วิชาโหราศาสตร์ในระดับพื้น- ฐาน  และการพยากรณ์แบบมืออาชีพ แบบฟันธง อำนวยการสอนโดยทีมคณาจารย์ของสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ อ.ปริญญา นิ่มประยูร รองผู้อำนวยการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ และ อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ โหรฟันธง เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ เพื่อจะได้เป็นการเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยในสายวิชาชีพโหราศาสตร์ไทย ให้ประชาชนได้มีอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคลายทุกข์ให้แก่ตนเอง และคนรอบตัว และยังได้มีวิชาชีพติดตัวที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ในกาลต่อไป

 "ปกติแล้วทางสถาบันจะเปิดสอนหลักสูตรโหราศาสตร์ในระดับพื้นฐาน ๒๕,๐๐๐ บาท และหลักสูตรขั่นวิชาชีพ ๑๕,๐๐๐ บาท รวมแล้วใครจะเป็นหมดดูที่มีใบประกอบวิชาชีพต้องจ่ายอย่างน้อย ๔๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเมื่อเรียนจบไปแล้ววิชาชีพนี้จะติดตัวแล้วทำได้ตลอดชีวิต ส่วนรายได้นั้นขึ้นอยู่กับความชำนาญ อย่างกับโหรฟันธงใครจะไปเชื่อว่ามีรายได้เดือนละหลักล้านบาท" อ.พัฒนากล่าว

   ในขณะที่ อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ เลขาธิการของสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ และเจ้าของฉายา “โหรฟันธง” บอกว่า โครงการหมอดูช่วยชาติจะเปิดสอนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าสถานที่ และเอกสารประกอบการเรียน ยกเว้นตำราอื่นๆ ที่นักเรียนเลือกซื้อด้วยความสมัครใจ โดยจะเปิดรับประชาชนทั่วไป ๕๐๐ ท่าน และพระภิกษุสงฆ์อีก ๒๐๐ รูป ระหว่างตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ใช้เวลาเรียน ๘ ครั้ง (๒ เดือน) เรียนเฉาะวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น.-๑๗.๐๐ น. ณ ศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยา ถ.สามเสน กทม. ทั้งนี้ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเรื่องโหราศาสตร์ไทย เมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้วจะมีการทดสอบเพื่อรับมอบวุฒิบัตรจากสถาบัน

 สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเรียนโหราศาสตร์ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่  สามารถสมัครเรียนโหราศาสตร์ในห้องเรียนจริง และสมัครเรียนโหราศาสตร์ออนไลน์ผ่านบนเว็บไซต์ www.thefuntong.com <http://www.thefuntong.com> โดยสามารถ อ่านระเบียบการเรียนและดาวน์โหลดเอกสารใบสมัครเรียน เพื่อให้ท่านกรอกเอกสารใบสมัครและส่งใบสมัครมาที่  [email protected] หรือส่งทางไปรษณีย์ หรือมาส่งด้วยตัวเองสาบันพยากรณ์ศาสตร์ หมู่บ้านกลางเมือง เลขที่  ๑๑๑๑/๑๙ ลาดพร้าว แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. โทรฯ ๆ๐-๙๓๘-๒๑๑๕-๖ และ ๐-๒๕๑๒-๒๖๑๖

โตสวนกระแส
   "ธุรกิจหมอดูจะยังคงเติบโตอยู่ในเกณฑ์ต่ำ แม้ว่าความกดดันทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความกังวลในเรื่องความไม่แน่นอนของรายได้และความมั่นคงของหน้าที่การงาน แต่คาดว่าบรรดาลูกค้าหมอดูปรับพฤติกรรม โดยบางส่วนหันไปพึ่งบริการหมอดูที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ลดความถี่หรือลดค่าใช้จ่ายต่อครั้งในการไปใช้บริการหมอดู " นี่เป็นส่วนหนึ่งของการคาดการณ์ธุรกิจหมอดูของบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ในปี ๒๕๕๒

 ทั้งนี้บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจ “คนกรุงเทพฯกับการใช้บริการหมอดู”  ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๑ ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ในการใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการใช้บริการ คาดว่าในปี ๒๕๕๑ ธุรกิจหมอดูและธุรกิจต่อเนื่องนั้นก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจถึง ๒,๕๕๐ ล้านบาท เมื่อเทียบกับในปี ๒๕๕๐ แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๐ โดยแยกเป็นธุรกิจหมอดูโดยเฉพาะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในปี ๒๕๕๑  ประมาณ ๑,๘๕๐ ล้านบาท เมื่อเทียบกับเม็ดเงินสะพัดในปี ๒๕๕๐ แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๗

 อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจ “คนกรุงเทพฯกับการใช้บริการหมอดู”  ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๐  ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณจากจำนวนคนที่ใช้บริการหมอดู ความถี่ในการใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการใช้บริการ คาดว่าในปี ๒๕๕๐  ธุรกิจหมอดูและธุรกิจต่อเนื่องนั้นก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจถึง ๒,๕๐๐ ล้านบาท เมื่อเทียบกับในปี ๒๕๔๙ แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๒ โดยแยกเป็นธุรกิจหมอดูโดยเฉพาะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในปี ๒๕๕๐  ประมาณ ๑,๘๐๐ ล้านบาท เมื่อเทียบกับเม็ดเงินสะพัดในปี ๒๕๔๙ แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕.๙ นอกจากนี้ธุรกิจหมอดูยังก่อให้เกิด เช่น ธุรกิจทำบุญ/สะเดาะเคราะห์ ธุรกิจหนังสือพยากรณ์ดวงชะตา รวมไปถึงธุรกิจสื่อสารประเภทอินเทอร์เน็ตและออร์ดิโอเท็กซ์ที่ให้บริการดูหมอ  เป็นต้น โดยคำนวณได้ว่าในปี ๒๕๕๐ ธุรกิจหมอดูทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจต่อเนื่องถึง ๗๐๐  ล้านบาทใกล้เคียงกับในปี ๒๕๔๙ 

เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"