ครบรอบวันมรณภาพ๓๔ปี'หลวงพ่อวงษ์' | คมชัดลึก

               พระพิพิธพัฒนาทร (หลวงพ่อสมชาย ฉันทสโร) เจ้าอาวาสวัดปริวาสฯ กล่าวว่า ในทุกวันนี้ วัดปริวาสฯ ได้รับการพัฒนาเสนาสนะต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง จนมีความสะอาดเรียบร้อยสมบูรณ์และสวยงามในทุกด้าน กลายที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง ด้วยความสงบ ร่มรื่น และมีอุโบสถปูนปั้นประดับเบญจรงค์ที่สวยงามติดอันดับ รวมทั้งเป็น "เขตอภัยทาน วังปลาเฉลิมพระเกียรติ" ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ทำให้มีผู้คนเข้ามาปล่อยปลา ให้อาหารปลา และชมความสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดเวลาทุกวัน

               เพื่อรองรับการพัฒนาที่เป็นระเบียบของคณะสงฆ์ และผู้คนที่เข้ามาทำบุญ, เจริญธรรมศรัทธาในวัดปริวาสฯ ที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดจึงได้จัดสร้าง "ศาลาเจ้าคุณฯ" ขึ้นใหม่แทนหลังเดิม เป็นอาคารยกพื้นเสริมโครงเหล็ก หลังคาโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทเย็นสบาย เมื่อสร้างเสร็จจะได้เนื้อที่ในการทำกิจกรรมต่างๆ ของพระสงฆ์เพิ่มขึ้นประมาณ ๑,๐๐๐ ตารางเมตร
       
               หลวงพ่อสมชาย จึงขอแจ้งข่าวบุญกุศลมายังศิษยานุศิษย์ และผู้ศรัทธา ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีวัดปริวาสฯ ปี ๒๕๕๗ และร่วมเป็นเจ้าภาพสมทบปัจจัยทุนสร้าง "ศาลาเจ้าคุณฯ" พร้อมกับงานทำบุญ "ครบรอบวันมรณภาพ ๓๔ ปี หลวงพ่อวงษ์"  อดีตเจ้าอาวาสวัดปริวาสฯ ในวันเสาร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐-๑๒.๐๐ น. ณ วัดปริวาสราชสงคราม
       
               อานิสงส์ของการทอดผ้าป่าสามัคคีสร้าง "ศาลาเจ้าคุณฯ" นั้น เป็นการสงเคราะห์พระสงฆ์ให้ได้รับสะดวกด้วยปัจจัยสี่ หรือสิ่งที่จำเป็นในการครองสมณเพศ เป็นการช่วยเหลือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพราะเมื่อพระสงฆ์ได้รับความสะดวกตามสมควร ก็จะได้เป็นกำลังสำคัญในการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ทำให้ได้ชื่อว่า เป็นการถวายทานแด่ท่านผู้ทรงศีล ซึ่งนับเป็นการบูชาท่านผู้ทรงศีล บูชาท่านผู้ควรบูชา และเป็นทานที่มีคุณค่าสูง เป็นการอบรมจิตใจของผู้บริจาคให้มีการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม คือ พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักทางจิตใจของประชาชนในชาติสืบไป รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความมีสามัคคีธรรมของหมู่คณะอีกด้วย

               สำหรับ หลวงพ่อวงษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดปริวาสฯ นับเป็นพระเกจิอาจารย์สำคัญท่านหนึ่งในแถบบางโพงพาง และยานนาวา เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกล เป็นพระสงฆ์ผู้มีวิทยาคม ทั้งทางด้านการรักษาอาการป่วยไข้ และสร้างวัตถุมงคลประเภทเครื่องราง “เสือ" รุ่น ๑ ถึง รุ่น ๖ จนเป็นที่รู้จักและนิยมกันทั่วประเทศ

               หลวงพ่อวงษ์ เกิดเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๔๔๕ อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๖๘ โดยมี พระครูวินยานุบูรณาจารย์ (เชย) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้วได้ศึกษาธรรม ณ สำนักเรียนวัดทองธรรมชาติ วัดจักรวรรดิราชาวาส และวัดมหาธาตุฯ ได้นักธรรมตรี และวิชาการเรียนบาลีมูลกัจจายน์

               หลวงพ่อวงษ์เป็นผู้ชำนาญทั้งภาษาขอม บาลี และขอมไทย ต่อมาท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๒

               หลวงพ่อวงษ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ใฝ่รู้ ชอบเดินทางธุดงค์ ศึกษาวิชาต่างๆ โดยได้รับวิชาการสูญฝีด้วยปูนหมาก และสมุนไพรต่างๆ จากพระครูปลัดไม้ อดีตเจ้าอาวาสวัดปริวาสฯ ศึกษาการเล่นแร่แปรธาตุ การต้มปรอท การเขียนผงลบผง (ปถมัง และอิทธิเจ) การอาบน้ำมนต์ และวิปัสสนากรรมฐาน จาก "ปู่เนียน สังข์เนตร" ฆราวาสลือชื่อที่อาศรมบางวัว, ศึกษาวิชาจาก "พระครูรัตนรังษี" (หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่) อีกทั้งศึกษาวิชาจาก หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส (บางเหี้ย) ทางนิมิต ซึ่งต่อมาหลวงปู่วงษ์ได้นำเอาวิชาที่ได้เรียนมาสร้าง "เสือโลหะ" ทั้งหล่อและปั๊ม รุ่น ๑ ถึงรุ่น ๖ จนปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสมเครื่องรางอย่างกว้างขวาง

               หลวงพ่อวงษ์มรณภาพเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๒๓ สิริอายุ ๗๘ ปี พรรษา ๕๕
       
               ท่านที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ และร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคี วัดปริวาสฯ ครั้งนี้ ได้รับล็อกเกตหลวงพ่อสมชาย ขนาดจัมโบ้ และขนาดเล็ก, พยัคฆราช เสาร์ ๕ พิมพ์เล็ก เนื้อชิน และเนื้อทองผสม ฯลฯ ติดต่อสอบถามได้ที่ พระปลัดบุญเรือง ปุญญวโร วัดปริวาสราชสงคราม ถนนพระราม ๓ ซอย ๓๐ กทม. โทร.๐๘-๑๑๗๓-๗๓๑๒, ๐๘-๕๑๓๖-๔๔๖๗