
ทึ่ง!คนคุกนานาชาติสนใจเรียนภาษาบาลีตรึม
ทึ่ง!คนคุกนานาชาติสนใจเรียนภาษาบาลีตรึม มส.หนุนเปิดสอบสำหรับฆราวาสทั่วไทย : สำราญ สมพงษ์รายงาน
ภาษาบาลีถือว่ามีความสำคัญสำหรับชาวพุทธเถรวาทมากเพราะเป็นภาษาที่บันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่เรียนภาษาบาลีเท่ากับเป็นการสืบสอนพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่โลกแก้ปัญหาสังคมตราบนานเท่านาน
สำหรับประเทศไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทเป็นหลัก สำนักเรียนตามวัดต่างๆก็เปิดการเรียนการสอน 1 ปีมีการสอบวัดผล 1 ครั้ง โดยมหาเถรสมาคมมอบหมายให้แม่กองบาลีสนามหลวงทำหน้าที่ทั่วประเทศสำหรับพระภิกษุและสามเณร ส่วนฆราวาสนั้น มส.มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ทำหน้าที่แต่ก็ยังมีจำนวนน้อยอยู่
สำหรับสำนักเรียนภาษาบาลีที่ฆราวาสเข้าไปเรียนเป็นจำนวนมากคือที่มหาบาลีวิชชาลัย วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยเปิดเรียนทั้งในชั้นเรียนและผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากนั้นยังได้ประสานกับทางกรมราชทัณฑ์เปิดสอนในคุกดำเนินการมาหลายปีแล้ว ล่าสุดมีการเปิดห้องเรียนบาลี มหาบาลีวิชชาลัย ณ ทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ถือเป็น "ห้องเรียนบาลีหญิงนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทย"
อาจารย์สอนและผู้มีหน้าที่ในการบริหารห้องเรียนมหาบาลีวิชชาลัย ได้รายงานผลการดำเนินงานผ่านทางเฟซบุ๊กนาม "Dhrinyadecha Libha" ความว่า เพราะในผู้ต้องขังหญิงที่เรียนหลักสูตรภาษาบาลีเบื้องต้นของมหาบาลีวิชชาลัยมีจำนวน 41 คน มีทั้งชาวไทย พม่า ลาว เวียดนาม ภูฎาน และปากีสถาน ซึ่งเราสอนด้วยภาษาไทย นักศึกษาลาว พม่า เวียดนาม ปากีสถาน นั้นไม่มีปัญหา เพราะพูด อ่าน เขียนภาษาไทยได้คล่องแคล่วและชัดเจนกว่าคนไทยหลายคน แต่นักศึกษาภูฏาน อาจต้องให้เวลาและความพยายามมากหน่อย คิดว่าใจสู้พอและมีศรัทธาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ปากีสถาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีปดั้งเดิมนั้น ปัจจุบันก็ยังมีชาวพุทธอยู่ แม้ว่าจำนวนจะไม่มาก แต่เขาก็มั่นคงและหวงแหนพระศาสนาอย่างน่าชื่นชม ได้รู้ความจริงนี้ เมื่อมีนักศึกษาบาลีคนหนึ่งบอกว่าเป็นชาวพุทธจากปากีสถานมาเรียนบาลีที่ทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาวด้วย ก็เลยแนะนำว่า เรียนให้รู้จริงแล้วกลับไปแปลเป็นภาษาอูรดู ช่วยสอนภาษาบาลีเป็นอูรดูให้ชาวปากีสถานต่อไป หากหน่วยงานทางพุทธฯ หรือพระสงฆ์ไทยเราจะศึกษาหาลู่ทางไปตั้งวัดขึ้นในประเทศนี้ ก็น่าจะดีไม่น้อย เพราะประชากรเขามีตั้ง 180 กว่าล้านคน และดินแดนนี้เป็นส่วนหนึ่งของชมพูทวีปมาก่อน ก็ถือว่าเป็นดินแดนของพระพุทธเจ้ามาก่อนเช่นกัน
ไม่มีข้อสังสัยในเรื่องศักยภาพทางสติปัญญา เพราะแต่ละคนนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและดีมากด้วยสำหรับบางคน ซึ่งต้องขอบคุณทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาวและกรมราชทัณฑ์ที่เปิดโอกาสให้เข้าไปจัดการเรียนการสอนภาษาบาลีในเรือนจำในครั้งนี้ เมื่อเทียบกับเรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งเป็นนักศึกษาชาย นักศึกษาบาลี ณ ทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาว อาจจะไปได้เร็วกว่า เพราะผู้เรียนส่วนมากอายุยังน้อย ส่วนเรื่องความศรัทธา ความอดทน ความพยายามและใจสู้ในการเรียนแล้ว ไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด
มหาบาลีวิชชาลัย พยายามทำให้คนไทยทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย ทุกสถานที่ได้เรียนภาษาบาลี เพราะเราเชื่อว่า การที่ชาวพุทธรู้ภาษาบาลีดีคือความเข้มแข็งของพุทธศาสนาในประเทศไทย
ทั้งนี้ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายระยะยาวคือ คนไทยเรียนภาษาบาลีปีละ 2 ล้านคนในปี พ.ศ.2600 ถ้ามีผู้ช่วยเหลือสนับสนุน และมีพระสงฆ์ผู้มีศรัทธา พระสงฆ์ที่มีวิสัยทัศน์ พระสงฆ์ที่มีความเข้าใจความเป็นไปของโลก ความเป็นไปของพระศาสนา ความเป็นไปของสังคม พระสงฆ์ที่รู้ว่าอะไรสำคัญกับพระศาสนามาร่วมด้วยช่วยกัน หลักไมล์นี้อาจย่นย่อสั้นลงเป็นจริงได้ภายใน 10 หรือ 20 ปีข้างหน้านี้ก็เป็นได้
ขณะที่กำลังเรียนกำลังสอนบาลีอยู่ชั้น 2 ของอาคารเรียน ณ ทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาวนั้น ด้านล่างสุดของอาคาร ก็มีพี่น้องโต๊ะอิหม่ามคณะใหญ่มาทำกิจกรรมให้ผู้ต้องขังผู้ศรัทธาในองค์พระอัลเลาะฮ์ได้ใกล้ชิดกับศาสนธรรมของเขา ซึ่งเมื่อมองดูที่จำนวนก็รู้สึกได้ว่าแตกต่างกันกับเรา เพราะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมของเขากว่า 400 คน และเขาทำกิจกรรมแบบนี้ทุกอาทิตย์ ทำมาหลายปีแล้ว
และอนุศาสนาจารย์ประจำทัณฑสถานหญิงกลางลาดยาวเล่าให้ฟังว่า วันรุ่งขึ้นพรุ่งนี้ก็จะมีคณะบาทหลวงคณะใหญ่มาทำกิจกรรมนำคนเข้าหาพระเยซูเจ้าอีก และอดตลึงไม่ได้เช่นกัน เพราะมีผู้ศรัทธาเข้าร่วมกิจกรรมของเขากว่า 600 คน เขาทำทุกอาทิตย์เช่นกัน และทำมาหลายปีแล้วด้วย
คนเรียนบาลีกับเรา 41 คน จึงถือว่า น้อยมาก เมื่อเทียบกับเขา แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น
ขณะที่เสียงเรียนบาลีกับเสียงกิจกรรมด้านล่างประชันกันไปทั่วบริเวณนั้น แวบหนึ่งของความคิดก็ปรากฎขึ้นทางมโนทวาร "หมดเวลาสำหรับพระสงฆ์ไทยในการแข่งกันสร้างวัดแล้ว ประเภทแข่งกันปั้นรูปเคารพต่าง ๆ ...และบอกว่า ....ที่สุดในโลกนั้น" ตกยุคตกเทรนด์ไปแล้ว พระสงฆ์ไทยต้องมาแข่งกันนำพุทธธรรมเข้าสู่พุทธศาสนิกเป็นเป้าหมายสำคัญแล้ว ทั่วประเทศมีเรือนจำแทบทุกจังหวัด ถ้าพระสงฆ์จะช่วยกันเปิดห้องเรียนบาลี ห้องเรียนอภิธรรม ห้องปฏิบัติวิปัสสนาขึ้นในเรือนจำทุกเรือนจำ นี่จะไม่ดีกว่าหรือ
นับว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องการความตื่นตัวกันขนานใหญ่สำหรับหมู่พระสงฆ์ไทย ผู้เป็นแถวหน้าอันดับหนึ่งแห่งพุทธบริษัท "อะไรที่สำคัญและควรทำเพื่อความมั่นคงยั่งยืนแห่งพระสัทธรรมพระพุทธศาสนา อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่และไม่ควรทำ แต่กลับไปทำกัน" คงไม่ต้องให้ใครไปบอกแล้ว
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่ายินดีที่พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เปิดเผยในงาน “พุทธบูรณาการเพื่อการพัฒนาจิตใจและสังคม” เป็นการประชุมวิชาการระดับชาติของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ( มจร )ครั้งที่ 1 (MCU Congress I) นี้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมาความว่า การประชุม มส.ที่ผ่านมามีมติเปิดการเรียนการภาษาบาลีสำหรับฆราวาสทั่วไป โดยให้มีศักย์และสิทธิเช่นเดียวกันพระภิกษุสามเณร ภายใต้การดำเนินการของแม่กองบาลีสมานหลวง อย่างไรก็ตามการเรียนภาษาบาลีนั้นไม่คงมุ่งเน้นการแปลหรือการท่องจำควรจะเน้นที่ความเข้าใจตามหลักภาษาเป็นหลัก เพราะจะได้กลั่่นเอาหลักธรรมมาใช้แก้ปัญหาสังคมได้ไม่ใช่สวดแต่ไม่รู้ความหมายหรือรู้ความหมายแต่ไม่เข้าใน
ขณะที่พระพรหมเมธี (จำนง ธัมมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวผ่านเดลินิวส์ว่า จากการประชุมมส. เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบโอนจัดการเรียนการสอนหลักสูตรบาลีศึกษา สำหรับผู้ไม่ใช่พระภิกษุ สามเณร จาก มมร. ให้มาอยู่ในกำกับดูแลของสำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง เนื่องจากสำนักงานแม่กองบาลีฯ ดูแลการเรียนการสอนของพระภิกษุสงฆ์อยู่แล้ว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับหลักสูตรบาลีศึกษาของผู้ไม่ใช่พระภิกษุสามเณร เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนบาลีทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาส ให้มีความสอดคล้องเอื้อประโยชน์แก่กัน เพื่อที่ส่งผลให้พุทธศาสนิกชนหันมาสนใจเรียนบาลีมากยิ่งขึ้น
“สำหรับหลักสูตรบาลีศึกษา จะมีตั้งแต่ระดับประโยค1-2 จนถึงประโยค 9 เหมือนกับของพระสงฆ์สามเณร โดยผู้ที่จบบาลีศึกษา 9 ประโยค จะมีตัวย่อว่า บ.ศ.9 ขณะที่พระภิกษุสามเณรจะใช้ว่า เปรียญธรรม หรือตัวย่อว่า ป.ธ. ซึ่งที่ผ่านมา มมร.เป็นฝ่ายดำเนินการจัดสอบมาโดยตลอด แต่สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) กรรมการ มส. รักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต และแม่กองธรรมสนามหลวง ได้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุม เพราะเห็นว่า การที่ให้สำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวงดูแลจะมีความเหมาะสม เพราะมีหน้าที่ดูแลเรื่องการเรียนการสอนบาลีโดยตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในอนาคต อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 กรกฎาคนนี้ ที่ประชุม มส. จะมีการรับรองมติดังกล่าว เพื่อให้เกิดการดำเนินงานในทางปฏิบัติต่อไป” โฆษก มส. กล่าว
ด้านแม่ชีกฤษณา รักษาโฉม ป.ธ.9 อาจารย์สอนภาษาบาลีที่มหาธาตุวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ผอ.หลักสูตรบัณฑิตวิทยาลัย มจร กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับมติของมส.ดังกล่าวเพราะจะเป็นการเปิดกว้างและส่งเสริมให้ฆราวาสเรียนภาษาบาลีมากขึ้น เพื่อที่จะได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรงไม่ใช่อ่านจากตำราของอาจารย์ต่างๆแล้วนำถ่ายทอดบุคคลอื่นซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ สำหรับบัณฑิตวิทยาลัย มจร ก็มีการเรียนการสอนภาษาบาลีเช่นกันแต่เป็นการเสริมหลักสูตรต่างๆ