พระบูชาหลวงพ่อทวดวัดช้างให้เนื้อปูนผสมน้ำว่านสร้างน้อยหายาก
พระบูชาหลวงพ่อทวดวัดช้างให้เนื้อปูนผสมน้ำว่าน สร้างน้อยหายาก : ปกิณกะพระเครื่อง ตาล ตันหยง
ชั่วโมงนี้ พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นที่ทัน พระอาจารย์ทิม ปลุกเสก ทุกรุ่นทุกพิมพ์ จัดเป็นพระยอดนิยมของวงการไปแล้ว และมีค่านิยมเช่าบูชาพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีติดต่อกัน จนใกล้จะเป็น “พระในตำนาน” ในอีกไม่ช้า
ที่เขียนเช่นนี้ก็เพราะว่า พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ที่ว่านี้เป็น “พระมหาชน” อันดับ ๑ ของเมืองไทยไปแล้ว และเป็นพระเครื่องหนึ่งเดียวที่ผู้นิยมพระเครื่องไทยต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และจีน ต้องการแสวงหามากที่สุด
เหมือนเช่นเคย คอลัมน์นี้วันนี้ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ข้อมูลเชิงเทคนิคที่คิดว่าพอเป็นประโยชน์สำหรับนักสะสม พระสายหลวงพ่อทวด ได้ไม่มากก็น้อย
ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช กล่าวว่า...เป็นที่ทราบกันดีว่า ในบรรดาพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ทั้งหมดที่ทันพระอาจารย์ทิมปลุกเสกนั้น กลุ่มพระหลวงพ่อทวด ประเภทพระบูชา ดูเหมือนว่ามีข้อมูลเชิงประจักษ์ ที่มีการนำเสนอและตีพิมพ์เผยแพร่อย่างเป็นทางการน้อยมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มพระเนื้อว่าน พระหล่อโบราณ พระปั๊ม และเหรียญ ไม่ว่าประวัติการสร้าง วัสดุที่ใช้ทำ รุ่นที่สร้าง และจำนวนที่สร้าง
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว พระบูชาหลวงพ่อทวด มีการจัดสร้างแทบทุกปี ในสมัยที่พระอาจารย์ทิมยังไม่มรณภาพ สาเหตุที่มีข้อมูลน้อยนี้ อาจเนื่องมาจากพระบูชามีจำนวนสร้างน้อยมาก เมื่อเทียบกับพระชุดหลวงพ่อทวดกลุ่มอื่นๆ ทำให้กระแสหมุนเวียนการเช่าหาไม่เด่นชัด และครึกโครมเหมือนพระชุดอื่นๆ
อีกประการหนึ่งอาจจะเนื่องจากพระบูชาเป็นพระที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ไม่สามารถนำไปห้อยคอ หรือเหน็บแขวนอย่างพระชุดเนื้อว่าน พระหล่อโบราณ พระปั๊ม และเหรียญ ทำให้กิตติศัพท์ด้านพุทธคุณ เรื่องความแคล้วคลาด ซึ่งเป็นจุดเด่นของพระหลวงพ่อทวด ไม่ปรากฏเด่นชัด อีกทั้งพระบูชาหลวงพ่อทวดมักจะเป็นพระประจำบ้าน ที่บรรพบุรุษมอบให้ลูกหลานต่อๆ กันมา ผู้ครอบครองจึงมักจะศรัทธาเลื่อมใสและหวงแหนอย่างยิ่ง เพราะเป็นพระมรดกของครอบครัว ไม่มีคนหนึ่งคนใดในครอบครัวที่เป็นเจ้าของ เพราะมักจะมีเพียงแค่องค์เดียวในหนึ่งครอบครัว ทำให้การหมุนเวียนเปลี่ยนมือเช่าหาน้อยมาก และเป็นไปได้ยาก ว่าไปแล้วพระบูชาหลวงพ่อทวดนั้น การพิจารณาด้านรูปทรงหน้าตาองค์ท่านแล้วจะเหมือนกับนิมิตของ พระอาจารย์ทิม และคุณอนันต์ คณานุรักษ์ มากที่สุด กล่าวได้ว่า พระบูชาหลวงพ่อทวด เปรียบเสมือนตัวแทนของท่านเอง อย่างเด่นชัดที่สุด จนเกิดความรู้สึกว่าใครได้เห็นพระบูชาหลวงพ่อทวด แล้วเสมือนว่าได้พบกับองค์จริงของหลวงพ่อทวด สมัยที่ท่านยังดำรงสมณศักดิ์เป็นพระเถรจารย์เลยทีเดียว
วันนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียด พร้อมกับภาพ พระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อปูนผสมว่าน ก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนพระบูชาประเภทอื่นจะนำเสนอในโอกาสต่อไป
พระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อปูนผสมว่าน ที่นำมาเสนอนี้ เป็นพระองค์สวยงามคมชัด จัดเป็น พระองค์ครู สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาพระบูชาประเภทนี้โดยเฉพาะ
กล่าวสำหรับ พระบูชา หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ แบ่งออกเป็น ๓ ประเภทใหญ่ๆ คือ พระบูชาประเภทเนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ (มีรุ่นเดียว), พระบูชาประเภทเนื้อปูนผสมน้ำว่าน และพระบูชาประเภทเนื้อโลหะ
การริเริ่มสร้างพระบูชาประเภทเนื้อปูนผสมน้ำว่าน นั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากพระบูชาเนื้อว่านมีกรรมวิธีการสร้างที่ยุ่งยาก และทำได้น้อยองค์ เพราะปั้นด้วยมือคราวละ ๑ องค์ ประกอบกับต้องใช้มวลเนื้อว่านมากในแต่ละองค์
ต่อมาภายหลังทางวัดได้ปรับเปลี่ยนกรรมวิธีการผลิตใหม่ เป็นแบบกระบวนการหล่อโดยใช้แม่พิมพ์ ซึ่งสามารถสร้างได้คราวละหลายๆ องค์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระบูชาโดยใช้ แม่พิมพ์ ซึ่งเนื้อพระมีทั้งประเภทเนื้อปูนผสมน้ำว่าน และเนื้อโลหะ
พระอาจารย์ทิม ได้สร้างพระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อปูนผสมน้ำว่านติดต่อกันหลายปี ตั้งแต่ปี ๒๕๐๐ จนถึงปี ๒๕๐๘ (แต่ไม่ปรากฏรุ่นปี ๒๕๐๑) โดยเฉพาะของรุ่นปี ๒๕๐๐ จะมี ๓ ขนาดหน้าตักคือ ๗ นิ้ว, ๓ นิ้ว และ ๑.๕ นิ้ว โดยมีรูปเค้าโครงองค์พระผิดแผกไปกับปีอื่นๆ ที่สร้างขึ้นในภายหลัง แต่เค้าโครงองค์พระจะคล้ายๆ กับ พระบูชา เนื้อว่าน รุ่นปี ๒๔๙๗ สำหรับรุ่นปี ๒๕๐๒ ถึงปี ๒๕๐๘ จะเน้นสร้างขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ยกเว้นรุ่นปี ๒๕๐๒ จะเป็นหน้าตักขนาด ๓ นิ้ว โดยทั่วไป พระเนื้อปูนผสมน้ำว่าน จะมีทั้งแบบฐานสี่เหลี่ยม, หกเหลี่ยม และแบบฐานโค้ง (สำหรับพระเนื้อโลหะสร้างตั้งแต่ปี ๒๕๐๒-๒๕๑๒ จวบจนกระทั่งพระอาจารย์ทิม มรณภาพ)
พระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อปูนผสมน้ำว่าน จัดเป็นพระบูชาที่หาดูสภาพสมบูรณ์และแท้ได้ยากเช่นกัน
โดยปกติ พระบูชาเนื้อปูนผสมน้ำว่านที่เป็น พระแท้ จะมีน้ำหนักเบามือ ในขณะ พระปลอม จะมีน้ำหนักมาก เพราะส่วนใหญ่ทำจากวัสดุปูนเพียงอย่างเดียว
การพิจารณาแท้เก๊ ให้ดูจากธรรมชาติผิวองค์พระโดยรวม ที่ดูเก่าตามกาลเวลา และบริเวณฐานด้านใต้องค์พระ จะเห็นรอยหลุดร่อนของ “รัก” ที่ทา ทำให้เห็นเนื้อปูนที่มีลักษณะธรรมชาติ บางองค์ที่วางบนหิ้งบูชา ก็สามารถเห็น “คราบเขม่า” อันเกิดจากฝุ่นขี้ธูปเกาะรอบๆ องค์พระ และที่บริเวณใบหน้าของท่าน จะสังเกตเห็น “เส้นหน้าผาก” และร่องรอยผิวเหี่ยวย่นตามศิลปะของผู้สร้าง
เช่นกันที่บริเวณหน้าอก และโดยรอบองค์พระจะมีการลงรักและปิดทองเพื่อเพิ่มความสวยงามขององค์พระยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้บูชาจะปิดทองเพิ่มเติมบริเวณจีวรของท่าน
ในส่วนของตัวอักษร และตัวอักขระ ที่บริเวณฐานจะมีทั้งแบบสลักนูนและลึก ซึ่งแต่ละรุ่นปีจะมีเอกลักษณ์ไม่ตายตัวนัก เพราะผู้ทำอาจทำกันหลายคน
จุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง คือ ธรรมชาติเนื้อปูนตรงใต้ฐาน ก็ควรสังเกตให้ดี
ลักษณะทางกายภาพทั้งหมด ที่กล่าวมานี้ใช้สำหรับการพิจารณาเก๊แท้ได้เช่นกัน
ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช แนะนำว่า ผู้ที่สนใจศึกษาและดูภาพประกอบเพิ่มเติม พระบูชาชนิดนี้ ในแต่ละปีที่สร้าง ได้จากหนังสือ “พระองค์ครู-หลวงพ่อทวด” เล่ม ๑ จัดทำโดย ชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง
พระบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อปูนผสมน้ำว่าน ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ที่ลงโชว์พร้อมกันทั้ง ๔ องค์นี้ ประกอบด้วย องค์ที่ ๑ รุ่นปี ๒๕๐๓, องค์ที่ ๒ รุ่นปี ๒๕๐๔ ฐานสี่เหลี่ยม, องค์ที่ ๓ รุ่นปี ๒๕๐๕ ฐานโค้ง และ องค์ที่ ๔ รุ่นปี ๒๕๐๘ ฐานโค้ง
ทั้งหมดนี้เป็นพระองค์สวยสภาพแชมป์ บางองค์เคยติดรางวัลที่ ๑ งานประกวดพระ ที่สมาคมผู้นิยมพระเครื่องรับรองมาแล้ว
พระบูชาทั้ง ๔ องค์นี้ มีมิติองค์พระที่สวยคมชัดทุกสัดส่วน สภาพผิวองค์พระมีการลงรักทาทองแบบเดิมๆ แทบไม่มีการหลุดร่อน และมีร่องรอยเขม่าควันธูปจากการบูชา ซึ่งเป็นธรรมชาติของพระบูชาที่เป็น “พระแท้ดูง่าย”
พระบูชาเนื้อปูนผสมน้ำว่าน ทั้ง ๔ องค์นี้เป็นของ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นผู้ให้ข้อมูลประกอบคอลัมน์นี้...จึงขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย