พระเครื่อง

สร้าง'พระใหญ่'ศรัทธา-ความโลภใต้เงาบุญ

สร้าง'พระใหญ่'ศรัทธา-ความโลภใต้เงาบุญ

15 ก.ค. 2557

สร้าง'พระใหญ่'ศรัทธา-ความโลภใต้เงาบุญ : ชยานนท์ ปราณีต

                 หลังมีข่าวจากโลกโซเชียลแพร่สะพัดถึงการเรี่ยไรเงินบริจาคจากประชาชนผู้มีจิตศัทธา เพื่อสร้าง "พระใหญ่ชัยภูมิ" ความสูงกว่า 199 เมตร หน้าตักกว้างกว่า 99 เมตร รอบฐานกว่า 27 ไร่ ในเนื้อที่ 300 ไร่ มูลค่ากว่า 3.2 แสนล้านบาท ด้วยจำนวนเงินมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ต้องนำกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ หมู่ 13 บ้านโนนมะเกลือ ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ เพื่อขอเข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างที่เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ.2553 กระทั่งในที่สุดได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างไปชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่า จะไม่มีความโปร่งใส

                จากการตรวจสอบของ "คม ชัด ลึก" พบว่า การสร้างพระใหญ่กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในต่างจังหวัด อาทิ พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือหลวงพ่อโต พระใหญ่มีขนาดหน้าตักกว้าง 62 เมตร ขนาดความสูง 93 เมตร ภายในวัดม่วง ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ยอดรับเงินบริจาคในการก่อสร้างจำนวน 106 ล้านบาท ซึ่งพระใหญ่หลวงพ่อโตเป็นที่ศรัทธาของชาวพุทธทั่วประเทศ

                พระครูสุภัทรเขตสุนทร เจ้าอาวาสวัดม่วง กล่าวว่า การสร้างพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ เกิดขึ้นจากพระอาจารย์เกษม อาจารสุโภ ได้มาปักกลดธุงดงค์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552  และเห็นว่า บริเวณนี้เคยเป็นวัดร้าง จึงน่าปฏิบัติธรรม โดยวัดร้างแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายปี พ.ศ. 2230 ณ แขวงเมืองวิเศษชาญ ซึ่งเคยเป็นเมืองหน้าด่านมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ต่อมาในปี พ.ศ.2310 กรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงพม่าได้เผาผลาญบ้านเมือง วัดวาอาราม และพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก สิ่งที่หลงเหลืออยู่ คือ ซากปรักหักพังของวัดวาอาราม และพระพุทธรูปที่อยู่บนเนินมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก

                เล่าขานกันว่า ระหว่าง พระอาจารย์เกษมปฏิบัติธรรมได้ปรากฏนิมิตเห็นองค์หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง มาบอกว่าให้ท่านช่วยก่อสร้างวัดม่วงขึ้นมาใหม่  ซึ่งต่อมาพระอาจารย์เกษมได้ปั้นองค์พระครอบศิลาขาว และศิลาแดงไว้ โดยเรียกนามว่า หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง จากนั้นจึงได้เริ่มบูรณะวัดมาจนถึงปัจจุบันนี้

                ต่อมาปี 2534 พระอาจารย์เกษมได้ตั้งจิตอธิษฐาน ร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ สมทบทุนสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงศ์จักรี มีพระนามว่า พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ มีหน้าตักกว้าง 62 เมตร สูง 93 เมตร มูลค่าในการก่อสร้าง 106 ล้านบาท โดยก่อสร้างสำเร็จในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 16 ปี 

                “การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ได้ประโยชน์หลายด้าน นอกจากเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เหมือนกับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่บรรพบุรุษสร้างไว้อย่างที่เห็นในปัจจุบันแล้ว ยังสามารถดึงศรัทธาคนมาไหว้พระ ขอพร ปฏิบัติธรรม และทำบุญ โดยเงินที่ได้จากความศรัทธาทางวัดจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำนุบำรุง และสร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ มากมาย” เจ้าอาวาสวัดม่วง กล่าว
 
                การสร้างพระใหญ่แม้จะเป็นที่นิยม แต่ในอีกมุมมองยังมีความเห็นต่างในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ให้ความคิดเห็นว่า ปัจจุบันการสร้างองค์พระขนาดใหญ่เป็นที่นิยมกันมาก จึงเชื่อว่าการสร้างพระที่มีงบประมาณที่สูงมากจะต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบและดูรายละเอียดในการก่อสร้างอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฐานตั้งต้องรู้ว่าขนาดกี่เมตร สูงกี่เมตร ต้องคูณออกมาเป็นตัวเลขที่ชัดเจน เพื่อสามารถตรวจสอบได้

                "คนไทยส่วนใหญ่ชอบทำบุญ ยิ่งเห็นว่า จะสร้างพระ ใครก็อยากจะทำบุญ เมื่อศรัทธาเกิดประชาชนอยากจะมีส่วนร่วม เพราะคิดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของบุญที่จะได้ไปอยู่ในองค์พระที่สร้าง แต่การสร้างอาจจะมีปัญหายุ่งยากเกิดขึ้นได้ หากมีความโลภ โกรธ หลง เข้ามาข้องเกี่ยว ดังนั้นการสร้างพระขนาดใหญ่ อาตมาไม่เห็นด้วย เพราะถือว่า เป็นการนำพระออกมาตากแดด ตากลม ตากฝน ไม่นานจะสึกหรอ ได้รับความเสียหาย หากวัดใดต้องการสร้างควรสร้างแบบมีศาลาคลุมป้องกันแดด อย่างเช่นวัดโนนกุ่ม หรือวัดหลวงพ่อโต ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อทองเหลืองรมดำ หลวงพ่อโตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ที่ก่อตั้งวัดโนนกุ่ม คือ “สรพงศ์ ชาตรี” ดาราภาพยนตร์ชื่อดังในประเทศไทย โดยผู้ที่มาวัดนี้นอกจากจะได้สักการะขอพรจาก หลวงพ่อโตแล้ว ยังได้สัมผัสกับสิ่งก่อสร้างภายในวัด และสวนหย่อมที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม"

                ด้านการขออนุญาตในการก่อสร้างพระใหญ่ในลักษณะเรี่ยไรบุญจากผู้มีจิตศรัทธานั้น นพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงว่า การสร้างองค์พระใหญ่ หรือการเรี่ยไรบุญจะต้องแจ้งต่อคณะกรรมการเถรสมาคมให้รับทราบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีขบวนการเข้าไปหาผลประโยชน์จากการเรียกรับเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ทั้งนี้หากพบการเรี่ยไรบุญที่ไม่โปร่งใสสามารถแจ้งมาที่สำนักพุทธศาสนาเพื่อตรวจสอบได้ทันที ส่วนวัดใดต้องการสร้างพระใหญ่ เพื่อเป็นการเกื้อหนุนพระพุทธศาสนาสามารถกระทำได้ แต่ต้องเปิดเผยการรับบริจาคอย่างชัดเจน
                                                                                                                                                                                 
................

(หมายเหตุ :สร้าง'พระใหญ่'ศรัทธา-ความโลภใต้เงาบุญ : ชยานนท์  ปราณีตรายงาน)