พระหลวงพ่อทวดหลังเตารีดเนื้อโลหะผสมพิมพ์ใหญ่ซีปี ๒๕๐๕
พระหลวงพ่อทวดหลังเตารีดเนื้อโลหะผสม พิมพ์ใหญ่ ซี ปี ๒๕๐๕ : ปกิณกะพระเครื่อง โดยตาล ตันหยง
พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อโลหะผสม หลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ ปี ๒๕๐๕ ที่พบเห็นบ่อยๆ ในวงการพระเครื่องส่วนใหญ่มักจะเป็น พิมพ์ใหญ่ เอ อันเป็นพิมพ์ยอดนิยมที่มีการเช่าหาในราคาสูง บางองค์ถึงหลักล้านก็มี
ด้วยเหตุนี้นักสะสมพระสายนี้บางคนจึงมองไปที่ พิมพ์ใหญ่ บี และ พิมพ์ใหญ่ ซี เพื่อนำมาใช้ทดแทน เพราะมีราคาที่ถูกกว่ากัน แต่ก็ต้องว่ากันถึง ๑-๓ แสนขึ้นไปเหมือนกัน
พระหลวงพ่อทวด ๒ พิมพ์นี้ บางครั้งจะเรียกว่า พิมพ์เตารีดหัวมน คือช่างได้แต่งปลายยอดองค์พระให้มนโค้ง รับกับเศียรขององค์พระ...แต่บางองค์มีลักษณะปลายยอดองค์พระแหลม เหมือนเตารีด เอ ก็มี แต่มีน้อยมาก
พระหลวงพ่อทวด พิมพ์เตารีดบีและซี นี้ แม้ว่าปลายยอดองค์พระจะโค้งมนเหมือนกัน แต่รายละเอียดทางเค้าโครงใบหน้า รูปทรง ฟอร์มพระ จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งจำแนกได้ไม่ยากนัก
วันนี้จะกล่าวถึงเฉพาะ พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ ซี ปี ๒๕๐๕ ที่ได้นำภาพมาโชว์ในองค์ที่ ๑-๔ ซึ่งเป็นพิมพ์ที่มีจำนวนพระหมุนเวียนในวงการน้อยสุดพิมพ์หนึ่ง ในตระกูลพระหลวงพ่อทวด หลังเตารีดแบบหล่อโบราณ
วันนี้ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช ได้ให้ข้อมูลว่า...จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดเจนในพระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ ซี คือ มีใบหน้ากลมมนกว่า พิมพ์ใหญ่ เอ และบี มีสันจมูกดูใหญ่ แต่ไม่คมสันเช่น พิมพ์ใหญ่เอ และบี สภาพทั่วไปขององค์พระ หล่อออกมาไม่คมชัดลึกเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับ พิมพ์ใหญ่ เอ และบี อาทิ บริเวณบัวจะไม่มีสัณฐานเป็นลักษณะสามเหลี่ยมได้รูป และเส้นหน้าผากก็ไม่ติดคมชัดอย่าง พิมพ์ใหญ่เอ และบี ขณะเดียวกันที่ “เบ้าตา” จะดูตื้น และ “เบ้าตาซ้าย” จะดูเป็นวงกว้าง และอยู่ต่ำกว่า “เบ้าตาขวา” จุดสังเกตอีกจุดหนึ่งที่สำคัญ คือ ริ้วจีวรบริเวณหน้าอกขวาขององค์พระจะวาดเฉียงไปจรดซอกแขน และริ้วจีวรริ้วที่ ๒ นับจากล่างจะมีมุมองศาการวาดเฉียงมากกว่าริ้วจีวรอื่นๆ (ซึ่งเป็นเฉพาะพิมพ์นี้เท่านั้น) ซึ่งต่างกับ พิมพ์ใหญ่ เอ ที่ริ้วจีวรไม่จรดซอกแขน และเกือบทุกองค์จะมีร่องรอยการตกแต่ง “ก้านเดือย” ที่เห็นได้ชัดตรงใต้ฐานองค์พระ คล้ายพิมพ์ใหญ่ บี...โดยทั่วไป พระพิมพ์ใหญ่ ซี จะมีธรรมชาติของผิวลักษณะย่นเป็นคลื่นๆ และบางองค์มีผิวลักษณะคล้ายๆ ตาข่ายผ้า กล่าวได้ว่า พระพิมพ์นี้มีผิวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ยากพอสมควรต่อการทำปลอม โดยสามารถพิจารณาเฉพาะด้านหลังก็บอกได้เลยว่าเป็น พระแท้หรือเก๊ โดยไม่จำเป็นต้องดูด้านหน้าขององค์พระ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีพระฝีมือปลอมที่สามารถทำสภาพผิวที่ว่าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งรอยตัดช่อได้ดีมาก (เก๊แบบย้อนรอยวิธีหล่อโบราณ ไม่ใช่พระเก๊แบบฉีดเข้าแม่พิมพ์อย่างที่เคยทำกันในอดีต) ผู้ที่เห็นพระองค์จริงบ่อยๆ หรือภาพพระแท้ที่ดูง่าย ก็พอจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์สำหรับนักสะสมมือใหม่ได้ไม่ยากนัก
การสังเกต ความแท้เก๊ ก็เหมือนกับพระตระกูลหลังเตารีด พิมพ์อื่นๆ กล่าวคือ ดูความถูกต้องของทรงพิมพ์ ดูธรรมชาติของของเนื้อพระ คราบเบ้าและดินเบ้า เช่นเดียวกันกับดูร่องรอยการตกแต่งด้วยตะไบ ทั้งผิวด้านหลัง และขอบข้างองค์พระ
พระหลวงพ่อทวดทั้ง ๔ องค์ที่เห็นนี้ ธรรมชาติองค์พระเหมือนกับที่อธิบายข้างต้นทุกประการ...เป็นพระเก่าเก็บ ไม่ผ่านการใช้บูชามาก่อน องค์พระหล่อออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ จึงมีร่องรอยการตกแต่งน้อย บางองค์ด้านหลังมีก้อนเนื้อเกิน องค์พระล่ำและหนา มีสันจมูกที่คมสัน รวมทั้งยังมีคราบตะกรันเบ้าสีดำ เนื่องจากกระบวนการหล่อปกคลุมแทบทั่วทั้งองค์ และมีดินเบ้ากระจุกตามซอก เป็นการเสริมเสน่ห์องค์พระให้งดงามและดูง่ายยิ่งขึ้น
พระหลวงพ่อทวด ๓ องค์แรก เป็นพระองค์แชมป์จากงานประกวดใหญ่ ที่สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย รับรองมาแล้วหลายงาน พระหลวงพ่อทวด ทั้งหมดนี้เป็นพระของ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และเป็น
ผู้ให้ข้อมูลเชิงเทคนิคประกอบเนื้อหาบทความนี้ ซึ่งผู้เรียบเรียงต้องขอขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูง