พระเครื่อง

เหรียญรุ่นแรก'ครูบาอุ่น'วัดป่าแดงอ.สันกำแพงปี๒๕๑๗

เหรียญรุ่นแรก'ครูบาอุ่น'วัดป่าแดงอ.สันกำแพงปี๒๕๑๗

19 มิ.ย. 2557

เหรียญรุ่นแรก 'ครูบาอุ่น' วัดป่าแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ปี ๒๕๑๗ : สายตรง พระล้านนา โดยไก่ สวนดอก

               ครูบาอุ่น อรุโณ วัดป่าแดง บ้านป่าสักขวาง ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ท่านเป็นคนกรุงเก่าโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๔๖๖ ที่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ "คำ" โยมมารดาชื่อ "เติม" นามสกุล "กลิ่นเกษร" มีพี่น้อง ๓ คน

               ในวัยเยาว์โยมบิดามารดาได้ส่งท่านเรียนหนังสือจนจบชั้น ม.๒ เมื่อมีอายุครบเกณฑ์ทหารได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารบกในหน่วยปืนกลเล็ก (ป.ก.น.๑๑) ที่ อ.บางปะอิน อยู่ ๒ ปี

               หลังจากปลดประจำการแล้ว มีอายุ ๒๔ ปี (พ.ศ.๒๔๙๐) ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดปากคลอง ต.หัวไผ่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูพรหมสมาจารย์ วัดประดู่ (ตะบอง) ต.ปากกระทุ่ง อ.มหาราช เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ช้อย วัดปากคลอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาสมุทร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "อรุโณ"

               เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนนักธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรีและโท ตามลำดับ

               นอกจากนี้ ท่านยังสนใจในด้านพุทธาคมและกัมมัฏฐาน จึงได้ไปฝากตัวเรียนวิชากับครูบาอาจารย์หลายรูป ทั้งที่เป็นพระสงฆ์และฆราวาส อาทิ หลวงตาบุญ เรียนวิชาคงกระพันชาตรี, ครูโปร่ง เรียนด้านเมตตามหานิยม, หมอปาน เรียนวิชาแก้คุณไสยและปราบผี, พระอาจารย์พัด เรียนด้านคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด, ครูโล เรียนวิชาคงกระพัน, ครูรอด เรียนวิชาทำน้ำมนต์, พระอุปัชฌาย์เฟื่อง วัดหนองอึ่ง เรียนสูตรสนธิและกัมมัฏฐาน, หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง เรียนวิชาทำตะกรุด, หลวงพ่อโอภาสี เรียนวิชากสิณไฟ ฯลฯ

               ต่อมา เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหันสังข์ ต.น้ำสังข์ อ.บางปะอิน อยู่จำพรรษาในฐานะเจ้าอาวาสได้ ๙ พรรษา พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลอยู่อีก ๒ พรรษา พ.ศ.๒๕๑๗ ได้รับแต่งตั้งให้เป็น พระอุปัชฌาย์ รุ่นเดียวกับ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่  "พระครูอรุณวรกิจ"

               ในช่วงที่ "ครูบาอุ่น" อยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก เป็นพระอาจารย์ที่เข้มขลังในด้านเมตตามหานิยม เพราะการเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้มีชาวบ้านเข้าหาท่านไม่ขาดสาย ท่านเห็นว่าโอกาสที่จะปฏิบัติธรรมหาความวิเวกทำได้ยาก

               ในปี ๒๕๒๐ ท่านจึงออกจากวัดปากคลอง มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ เพื่อจะหาสถานที่สงบปฏิบัติธรรม โดยจุดมุ่งหมายของท่าน คือ จ.เชียงใหม่

               จนกระทั่งได้พบวัดที่มีความสงบ และเป็นวัดที่พุทธบริษัท พระสงฆ์ และชาวบ้านร่วมกันปฏิบัติกัมมัฏฐาน คือ "วัดป่าแดง" ตั้งอยู่ในหมู่บ้านป่าสักขวาง ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่ทางทิศเหนือของที่ว่าการอำเภอสันกำแพง ท่านได้เข้าพำนักที่วัดป่าแดง ตั้งแต่วันนั้น ในฐานะพระลูกวัด เสมือนหลวงตารูปหนึ่ง มีกุฏิหลังเล็กๆ อยู่ด้านหลังของวัด โดยไม่แพร่งพรายฐานะอันแท้จริงของท่านให้ใครทราบว่า ท่านเป็นพระครูสัญญาบัตรมาก่อน และมีชื่อเสียงโด่งดังจากภาคกลางมาแล้ว

               ต่อมา พระอธิการบุญมี เจ้าอาวาสรูปก่อนมรณภาพ คณะกรรมการวัดและศรัทธาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันขอให้ท่านรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมา

               ครูบาอุ่น มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๔ สิริรวมอายุได้ ๗๙ ปี พรรษา ๕๕

               ในวันมรณภาพได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ คือ ขณะที่ศิษยานุศิษย์และแพทย์ได้ช่วยกันตกแต่งสรีระของท่าน เพื่อทำความสะอาดร่างและครองผ้าจีวรใหม่ ปรากฏว่าที่ศีรษะของครูบามีรอยนูนเล็กๆ เริ่มจากท้ายทอย และเพิ่มมากขึ้นๆ ลักษณะเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเท่าๆ กัน โดยรอยนูนนั้นชัดเจนมาก อีกทั้งใบหูของท่านก็ยาวขึ้นด้วย เป็นที่ปลื้มปีติแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมาก

               ต่อมาวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๔๕ อันเป็นวันที่จะประกอบพิธีบรรจุสรีระของครูบาลงในหีบแก้ว เหตุการณ์เดิมก็บังเกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ร่างกายของท่านยังอ่อนนุ่มเหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ ไม่แข็งกระด้างเหมือนคนที่เสียชีวิตทั่วไป และไม่มีกลิ่นเหม็นอีกด้วย ทั้งๆ ที่มรณภาพมาแล้วถึง ๒๕ วัน เป็นที่ประจักษ์ของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์โดยทั่วกัน

               เหรียญรุ่นแรกของท่าน โดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพัน ราคาค่านิยมหลักพันกลางๆ ของปลอมยังไม่ปรากฏ