
โจ้ พระราม๔พุทธคุณไม่ได้อยู่ที่'พระถูกหรือแพง'
โจ้ พระราม๔พุทธคุณไม่ได้อยู่ที่'พระถูกหรือแพง' : พระเครื่องคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ท่านเป็นพระเกจิที่ดังที่สุดของอุตรดิตถ์ในช่วงปี ๒๕๓๐ อายุยาวถึง ๑๐๗ ปี มรณภาพเมื่อปี ๒๕๔๘ เนื่องจากมีผู้ได้ประสบการณ์จากวัตถุมงคลของท่านมากมาย พระเครื่องของท่านที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันมาก เช่น สมเด็จรุ่นแผ่นดินไหว เหรียญรุ่นแรก รูปหล่อเหล็กน้ำพี้ พระกริ่ง เป็นต้น
เรื่องพุทธาคม หลวงปู่ทองดำ ท่านก็เป็นพระที่ไม่เป็นรองใครในสมัยนั้น เพราะท่านได้เคยอยู่รับใช้หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน สมัยเป็นเด็ก นอกจากนี้ยังได้เรียนวิชาเพิ่มเติมกับพระเกจิยุคเก่าๆ อีกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อฮวบ อุตรดิตถ์ หลวงพ่อทิม วัดกลาง หลวงพ่อกล่อม วัดบางกะพี้ เป็นต้น หลวงปู่ทองดำท่านมีปฏิปทาเรียบง่าย มีเมตตาสูงและเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน กุฏิท่านไม่มีอะไร นอกจากอัฐบริขารที่จำเป็นในการประพฤติและปฏิบัติธรรม ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถววัดท่าน จะต้องไปกราบสักการะหลวงพ่อทองดำ เป็นประจำ หลวงพ่อคูณ ยกย่องเรื่องพลังจิตของหลวงปู่ทองดำมาก
"พระหลวงปู่ทองดำใช้ดีทุกรุ่น พระเนื้อผงของท่านอยู่ในหลักร้อยเท่านั้น" นี่คือพลังศรัทธาของ "โจ้ พระราม ๔" เป็นฉายาในวงการพระเครื่องของนาย "นายกฤษฏิณ์ฏฐ์ จำนงประสาทพร" ซึ่งเปิดร้านรับเช่าพระเครื่องอยู่ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น ๓ และมณเฑียร โดยรับประกันแท้ ๑๐๐% หากไม่แท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน พร้อมเงื่อนไขที่ว่า "ขายคืนภายใน ๑ เดือน หัก ๑๕% หลัง ๑ เดือนหัก ๒๐% หลัง ๓ เดือน รับเช่าคืนตามสภาพสภาวะตลาดขณะนั้น"
"ผมสนใจพระเครื่องมาตั้งแต่อายุ ๑๘ ปี เริ่มจากส่องพระของพ่อที่บ้านก่อน ท่านสะสมพระเครื่องไว้มากพอสมควร ขณะเดียวกันโดยส่วนตัวแล้วชอบอ่านหนังสือพระ และเปิดเป็นแพงขายพระอยู่หน้าบ้าน ย่านพระราม ๔ ก่อนที่จะมาเปิดร้านอยู่ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น ๓ และ มณเฑียร" นี่คือจุดเริ่มต้นของการเล่นพระของ "โจ้ พระราม ๔"
ในการหาพระเข้าร้านนั้น "โจ้ พระราม ๔" บอกว่า ก่อนหน้านี้การเดินหาพระจากตลาดนัดพระเครื่องหากเรามีความรู้จริงและดูพระได้หลายหน้ามีโอกาสที่จะได้พระดีสูงมาก ซึ่งมีอยู่หลายครั้งได้พระดีราคาไม่แพงจากแผงพระทั่วไป แต่ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องยากเพราะคนมีความรู้เรื่องพระมากยิ่งขึ้น ช่วงการเมืองวุ่นวาย ต้องยอมรับว่าตลาดพระก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน การเช่าซื้อพระไม่คล่องตัวแต่ก็พอที่จะขายได้เรื่อยๆ แต่สู้ในช่วงเศรษฐกิจดีๆ ขณะเดียวกันการหาพระเข้าร้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ลูกค้าที่มาเช่าพระมี ๒ กลุ่ม คือ ซื้อเพื่อใช้ หวังพุทธคุณ และซื้อเพื่อสะสม หวังผลกำไรในอนาคต ความแตกต่างของ ๒ กลุ่มนี้ คือ ซื้อเพื่อใช้จะเป็นพระสภาพพอใช้ได้ ราคากลางๆ ส่วนซื้อเพื่อสะสมนั้นจะเป็นพระที่สวยสมบูรณ์กว่า ราคาจะสูงกว่า แต่เรื่องพุทธคุณนั้นเชื่อว่า ซื้อเพื่อใช้ หรือซื้อเพื่อสะสม มีพุทธาคุณไม่ต่างกัน ด้วยเหตุพระเครื่องที่ใช้เป็นพระซื้อไว้ใช้
สำหรับพระเครื่องที่ "โจ้ พระราม ๔" นิมนต์ขึ้นคอเป็นประจำ ประกอบด้วย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ หลวงพ่อวัดไร่ขิง จ.นครปฐม และคุณแม่ บุญเรือน
ส่วนพุทธคุณขององค์พระนั้น จากประสบการณ์ใช้พระหลวงพ่อดำ วัดท่าทอง "โจ้ พระราม ๔" บอกว่า วันใดที่เช่าท่านเข้ามาที่ร้านไม่ว่าจะถูกหรือแพง ในวันเดียวกันนั้นหรือวันรุ่งจะขายพระออกไปในราคาที่แพงกว่า เป็นเช่นนี้มาตลอด ด้วยเหตุนี้เมื่อเห็นพระหลวงปู่ทองดำไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็จะเก็บไว้ทุกรุ่น ปัจจุบันนี้มีหลักพันองค์ อย่างกับเหรียญทองแดงรุ่นแรก ราคาอยู่หลักพันต้นๆ เท่านั้น ขณะที่พระกริ่งเนื้อนวะโลหะ รุ่นแรกสร้าง ๑๔๐ องค์ พ.ศ. ๒๕๓๖ ราคาประมาณ ๒ แสนบาท
"ผมชอบพระที่มีพุทธคุณเมตตาค้าขาย ยิ่งในยุคนี้เป็นสิ่งจำเป็น ชั่วโมงนี้เราไม่ได้รบกับใครที่ไหน พระคงกระพันอาจจะไม่จำเป็นเท่าไรนัก เว้นแต่คนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงพระที่มีพุทธคุณคงกระพันก็ยังคงมีความจำเป็น โดยส่วนตัวแล้วเชื่อมั่นว่าพุทธคุณในองค์พระนั้นมีอยู่จริง" โจ้ พระราม ๔ กล่าวทิ้งท้าย