
สะพานเชื่อมคนสู่ธรรม ณ 'บ้านพุฒมณฑา บ้านแห่งการเรียนรู้'
สะพานเชื่อมคนสู่ธรรมณ 'บ้านพุฒมณฑา บ้านแห่งการเรียนรู้' : เยือนถิ่นเรือนธรรม เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"ครูสร้างบ้านพุฒมณฑาเพราะครูคิดว่าเรามีเงินทองได้ก็เพราะคนในสังคมวางใจและศรัทธาเรา เขาให้เรามา เราไม่ควรเอาทั้งหมดเราต้องแบ่งคืนกลับไป เพราะชื่อของครูลิลลี่เกิดขึ้นจากศรัทธาของคนที่เขาให้เรามา เราก็ต้องแบ่งปัน ครูอยากจะสอนให้เด็กมีปัญญา ซึ่งจะเป็นหนทางทำให้เขาพบกับความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง จึงสร้างบ้านหลังนี้ขึ้น ทุกคนสามารถเข้าไปใช้บริการที่บ้านหลังนี้ได้” นี่คือความตั้งใจของนายกิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ หรือที่รู้จักกันในนาม "ครูลิลลี่"
"บ้านพุฒมณฑา" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๒ บนเนื้อที่สีเขียวกว่า ๔ ไร่ โดยความตั้งใจของครูลิลลี่ จากจุดแรกเริ่มเดิมทีที่ต้องการสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เพื่อการปฏิบัติธรรมของบรรดาพุทธศาสนิกชน เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ให้สังคม และเพื่อให้ได้มาใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข ในสภาพแวดล้อมแห่งขุนเขาที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามแรกเริ่มเดิมทีนั้น ครูลิลลี่ได้เร่งในส่วนของบ้านพักก่อนเพื่อให้คุณแม่มณฑาได้พักฟื้นร่างกาย แต่เมื่อที่สุดคุณแม่มณฑาได้ถึงแก่กรรมไป โครงการบ้านเพื่อการพักผ่อนตากอากาศจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์ใหม่เป็นการสร้างบ้านเพื่อสังคม บ้านเพื่อพุทธศาสนิกชน และบ้านแห่งการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เป็น “บ้านแห่งการเรียนรู้” ทั้งนี้เพื่อมอบอุทิศส่วนกุศลให้แก่คุณงามความดีของคุณแม่มณฑา จึงเป็นที่มาของชื่อ “บ้านพุฒมณฑา”
ครูลิลลี่ บอกว่า บ้านพุฒมณฑาตั้งขึ้นมามิได้มีเจตนาแสวงหาผลกำไร เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเผยแผ่ธรรมอันบริสุทธิ์ แก่สาธุชนทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในขณะที่ไม่มีรายรับเลย รายรับของบ้านพุฒมณฑาได้มาจากการบริจาคของผู้ปฏิบัติธรรมรุ่นก่อนได้มอบไว้ให้เท่านั้น
ทางบ้านพุฒมณฑาตระหนักว่า การมาปฏิบัติธรรมจะเป็นการฝึกตัวท่านเองให้เกิดความสงบทั้งภายนอกและภายใน มิใช่เป็นการมาท่องเที่ยวพักผ่อนซึ่งอยากให้ทุกท่านได้ศึกษากฎระเบียบต่างๆ ของทางบ้านพุฒมณฑาอย่างเคร่งครัด ทุกท่านได้เสียเวลามาเข้าร่วมปฏิบัติธรรมจึงอยากให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ทั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเองและเอื้อเฟื้อแก่ผู้ปฏิบัติท่านอื่นด้วย
"ภาษาธรรมไม่สามารถอธิบายให้เข้าถึงและเข้าใจได้ คนที่จะเข้าใจภาษาธรรมได้ดีที่สุด คือต้องลงมือทำลงมือปฏิบัติ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ทั้งภาษาไทยและภาษาธรรมต่างก็มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง คนไทยต้องพูดภาษาไทยทุกวัน ขณะเดียวกันความทุกข์กับความสุขเป็นของคู่กันเกิดได้ทุกวันเวลา แต่คนกลับไม่ให้ความสำคัญทั้งภาษาไทยและภาษาธรรม เมื่อคนไม่เข้าใจภาษาไม่เข้าใจธรรมะความวิบัติจึงเกิดขึ้น แค่พูดผิดหูอาจจะทำให้ชีวิตต้องตกอยู่ในความลำบาก แค่คิดผิดจิตไม่เป็นกุศลชีวิตอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งชีวิต" ครูลิลลี่พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิด
ผู้ปฏิบัติธรรมที่สมัครและลงทะเบียนไว้แล้ว ทางบ้านพุฒมณฑาจะติดต่อกลับเพื่อยืนยันทางอีเมลล่วงหน้าก่อนวันปฏิบัติธรรมอย่างน้อย ๓๐ วัน ติดต่อสอบถาม ๓๔๔ บ้านพุฒมณฑา ภูริพิมาน ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ๓๐๑๓๐โทร.๐๘-๗๙๐๙-๘๒๗๗ ที่ www.baanpootmontha.com หรือ www.facebook.com/baanpootmontha | Email : [email protected]