พระเครื่อง

ร่วมบุญบูรณะวัดห้วยเงาะกับ'ตาหลวงเขียว'

ร่วมบุญบูรณะวัดห้วยเงาะกับ'ตาหลวงเขียว'

24 พ.ค. 2557

ร่วมบุญบูรณะวัดห้วยเงาะกับ'ตาหลวงเขียว'

               วัดหลวงพ่อศรีแก้ว หรือวัดห้วยเงาะเป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๒๐๐ สมัยกรุงศรีอยุธยาได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๙ มีชื่อเป็นทางการว่า “วัดอรัญวาสิการาม” ตั้งอยู่ หมู่ ๔ ต.ทุ่งเพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปัจจุบันมีพระครูอนุศาสน์กิจจาทร (พ่อท่านเขียว กิตฺติคุโณ) หรือที่ชาวภาคใต้เรียกว่า ตาหลวงเขียว เป็นเจ้าอาวาสมีอายุ ๘๕ ปี บวชเรียนมา ๖๕ ปี เรียกได้ว่ามีพรรษามากที่สุดในเมืองปัตตานี

               ตาหลวงเขียวท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงกับเหล่าศิษย์ และผู้ที่ไปขอให้ท่านเสกเป่าบรรเทาทุกข์ แก้ไขสิ่งที่ขัดข้องในชีวิต ท่านเมตตาเสมอเหมือนกันหมด ไม่ว่ายากดีมีจนมาจากไหนไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ โดยไม่แบ่งแยกไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด และท่านไม่จับ หรือรับเงินที่มาถวายเลย พ่อท่านไม่เคยสนใจลาภสักการะต่างๆ ใครไปให้ท่านช่วย พอจะลากลับหากถวายเงินท่าน พ่อท่านจะนิ่งเฉย และถามกลับว่า “เอามาให้เราทำไร ท่านเป็นพระไม่ต้องใช้ หากจะทำบุญก็นำไปใส่ตู้บริจาคภายในวัดตรงไหนก็ได้”

               นอกจากนี้แล้วท่านยังเป็นพระสมถะ ไม่สะสมทรัพย์ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร ฉันก็ฉันง่ายๆ บางทีก็แบ่งข้าวที่ท่านกำลังฉันให้สุนัขที่ท่านเลี้ยงกินด้วยกัน ท่านมีเมตตากับทุกๆ คน เดือดร้อนอะไรมาท่านก็ช่วยไม่เว้นแม้สุนัขที่ถูกทอดทิ้งท่านก็รับมาเลี้ยงอย่างดี ท่านชอบสอนทุกๆ คนที่ไปหา ท่านให้ทำดี ละเว้นชั่ว ตั้งมั่นในความซื่อสัตย์ กตัญญู อดออมทรัพย์สินใช้จ่ายอย่างประหยัด ดังที่ท่านเคยสอนให้เลิกใช้คำว่า “ทำมาหากิน” แต่ให้ใช้คำว่า “ทำมาหาไว้” แทนในทำนองว่าทำมาหาไว้ อย่ากิน อย่าใช้ จนหมด นั่นเอง

               ในส่วนของการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้นระหว่างที่ท่านได้รับตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดนางโอ จนกระทั่งได้เป็นเจ้าอาวาสในลำดับต่อมา ในระหว่างนี้ท่านเองเป็นสหธรรมิกกับ “พระอาจารย์ทิมวัดช้างไห้” ด้วยความสนิทสนม ชอบพออัธยาศัยไปมาหาสู่กันเสมอ ระยะทางระหว่างวัดทั้ง ๒ ไม่ไกลกันโดยร่วมสังฆกรรม สนทนาธรรม ร่วมพิธีกรรมต่างๆ กันเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคราวที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ สร้างหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พ.ศ.๒๔๙๗ เพื่อแจกแก่ผู้ที่ร่วมสร้างพระอุโบสถ วัดช้างไห้ โดยท่านเป็นผู้หนึ่งที่คลุกเนื้อผสมว่าน และร่วมอยู่ในพิธีกรรมเจริญพุทธมนต์ ในขณะที่ท่านอาจารย์ทิม อัญเชิญดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด เพื่อปลุกเสกพระเครื่องเนื้อว่านในคราว พ.ศ.๒๔๙๗ และร่วมพิธีกรรมปลุกเสกอีกหลายวาระ รวมทั้งปัจจุบันรับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ในหลายพิธีตลอดมาทั้งไกลและใกล้

               อย่างไรก็ตามใน พ.ศ.๒๕๕๗ นี้ ตาหลวงเขียวจึงจดสร้างพญาครุฑขนาดบูชาประกอบด้วย เนื้อทองคำ เนื้อนวะโลหะ และเนื้อสีรุ้ง ตามตำนานอันแสนโด่งดังนั่นก็ คือพระนารายณ์อวตาร ครั้นว่าครั้งหนึ่งองค์พระนารายณ์ได้อวตารลงมาบนโลกมนุษย์และได้ประมือกับครุฑ แต่ทว่าองค์นารายณ์นั้นก็ไม่สามารถทำอันตรายและเอาชนะครุฑได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะครุฑเป็นเทพที่เกิดจากพระอาทิตย์ และยังได้พรจากองค์วิษณุให้มีพละกำลังมากและเป็นอมตะ แต่พญาครุฑเองพอได้ทราบว่าเป็นองค์นารายณ์อวตารมา จึงยอมแพ้และขอถวายตนเป็นพาหนะขององค์นารายณ์ ด้วยเหตุนี้เององค์นารายณ์จึงยกย่องในความอ่อนน้อมถ่อมตนของพญาครุฑ จึงให้พญาครุฑยืนประทับอยู่บนพระที่นั่งบัลลังก์ของตนและประทานพรให้เป็นเจ้าแห่งชัยชนะอีกด้วยยังมีอีกหลายตำนานที่เล่าลือไม่ว่าจะเป็นศึกครุฑยึดนาค หรือศึกกวนเกษียรสมุทร รามายะนะ หรือรามเกียรติ์ ดังนั้นในความเชื่อเรื่องเครื่องรางของชาวพุทธอย่างเรา พญาครุฑก็เลยเป็นเครื่องรางแห่งมหาอำนาจไปโดยปริยาย

               พญาครุฑของตาหลวงเขียวจัดสร้างขึ้นเพื่อหารายได้ไปบูรณะวัดห้วยเงาะและวัดต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ในเขตตำบลทุ่งเพลา ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่วัดห้วยเงาะ โทร.๐-๗๓๔๑-๕๖๒๒, ๐๘-๑๗๒๕-๕๖๐๐ และ ๐๘-๒๓๒๒-๘๔๗๗