
อิ่มบุญวันออกนิโรธกรรมครูบาน้อย
อิ่มบุญวันออกนิโรธกรรมครูบาน้อย เตชปญฺโญ วัดศรีดอนมูล : ท่องไปในแดนธรรม เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"การปฏิบัติเข้า-ออกนิโรธกรรม" ประจำปีของพระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่ เป็นแบบเฉพาะที่ผสมผสานกับธุดงควัตร หมายถึง นิโรธกรรมสมมติสงฆ์ ดำเนินตามรอยของท่านครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา อันเป็นกุศโลบายเฉพาะ มุ่งขัดเกลากิเลสให้บางเบาลงไปเป็นครั้งเป็นคราว ทั้งนี้ ครูบาน้อย เข้านิโรธกรรม ปีที่ ๑ พ.ศ.๒๕๓๗ เป็นต้นมา
คำว่า "นิโรธสมาบัติ" (อ่านว่า นิ-โรด-สะ-มา-บัด) พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต และเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ได้ให้ความหมายไว้ว่า การเข้าถึงความดับสัญญา (ความจำ) และเวทนา (ความรับอารมณ์) ทั้งหมด ซึ่งสามารถดับได้ถึง ๗ วัน เรียกว่า เข้านิโรธสมาบัติ เรียกย่อว่า เข้านิโรธ เรียกเต็มว่า เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ
นิโรธสมาบัติ ต้องเป็นพระอรหันต์ และพระอนาคามีผู้ได้สมาบัติ ๘ จึงจะสามารถเข้าได้
การปฏิบัติเข้า-ออกนิโรธกรรมประจำปีของครูบาน้อย เป็นแบบเฉพาะที่ผสมผสานกับธุดงควัตร หมายถึง นิโรธกรรมสมมติสงฆ์ ดำเนินตามรอยของท่านครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา อันเป็นกุศโลบายเฉพาะ มุ่งขัดเกลากิเลสให้บางเบาลงไปเป็นครั้งเป็นคราว แตกต่างกับนิโรธสมาบัติของพระอริยเจ้าที่ตัดกิเลสได้ นิโรธกรรมสมมติสงฆ์ เป็นการดับอายตนะชั่วคราว เพื่อความสงบแห่งจิตเป็นแนวทางที่ครูบาน้อยยึดถือปฏิบัติ เพื่อเป็นอาจาริยบูชา มาตาปิตุบูชา เป็นเวลาตามกำลังที่จะปฏิบัติได้
ครูบาน้อยบอกว่า การนิโรธกรรม เป็นการตั้งจิตใจให้มั่นคงจากนั้น ภายใน ๓-๕-๗-๙ วัน จะไม่ฉันอาหาร ฉันเพียงแต่น้ำที่อยู่ในบาตร ขังตัวเองอยู่ในกุฏิหรือกระท่อมที่จัดสร้างขึ้นกว้าง ๕ วา ยาว ๕ วา มีประตูปิดเปิด
ความหมายการเข้านิโรธกรรม คือ เข้า ๓ วัน เปรียบได้กับ พระรัตนตรัย หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เข้า ๕ วัน คือ พระเจ้าห้าพระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ หมายถึง พระกะกุสันโธ โกนาคะมะโน กัสสะโป โคตะโม อริยเมตเตยโย
เข้า ๗ วัน คือ พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ อะ สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ
เข้า ๙ วัน คือ พระนวโลกุตรธรรมเจ้าเก้าประการ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑
อย่างไรก็ตามระหว่างวันที่ ๒๐-๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ครูบาน้อยได้เข้านิโรธกรรมเป็นปีที่ ๒๑ ในวันออกนิโรธกรรครูบาน้อยมีลูกศิษย์จากทั่วสารทิศไปร่วมใส่บาตร โดยมีคติความเชื่อถือกันว่าผู้ได้ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติเป็นมื้อแรกจะไรบอานิสงส์ทันตา เพราะเป็นอาหารมื้อสำคัญหลังจากท่านอดมานานร่างกายจึงต้องการอาหารมากเป็นพิเศษ
ครูบาน้อยเป็นพระที่มีเมตตาสูง ทุกๆ วันจะมีลูกศิษย์จากสารทิศ ทั้งกรุงเทพฯ ต่างประเทศ และต่างจังหวัด เดินไปกราบไหว้ขอพรจากท่านเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันท่านเมตตาต่อลูกศิษย์ที่เข้าไปกราบท่านมาก ทั้งเจิมรถ ปลุกเสกวัตถุมงคลก่อนมอบให้นำกลับไปบูชา ซึ่งคำหรือภาษาที่ท่านใช้ปลุกเสกนี้ เป็นภาษาเมือง (ภาษาเหนือ) โดยเฉพาะคำประพรมน้ำมนต์ของครูบาน้อยเป็นคำโคลงของล้านนาไทย ที่อวยพรให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมให้มีความสุขความเจริญในหน้าที่การงาน ตลอดถึงมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ว่าจะไปรดครั้งละกี่คน ท่านร่ายคำโคลงของล้านนาไม่ต่ำกว่า ๑๕ นาที
วาทะธรรมครูบาน้อย
อ.ยุทธ โตอดิเทพย์ อดีตนายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย สมัยที่ ๑๕ (พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๕๑) และศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นครปฐม เขต ๒ นักกลอนมือทองรางวัลพระราชทาน ซึ่งไปร่วมงานออกนิโรธรรมครูบาน้อยทุกครั้ง บอกว่า ครูบาน้อยเป็นพระที่มีปฏิปทาและวัตรปฏิบัติอันงดงาม หากใครได้ไปกราบไหว้และได้รับพรจากท่านจะมีความศรัทธามากยิ่งขึ้น เพราะรูปแบบการให้พรของท่าน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ท่านให้พรในลักษณะที่ใช้คำมงคลสัมผัสกันทั้งหมด ตลอดเวลาของการให้พรเกือบ ๑๐ นาที ซึ่งถือว่าเป็นมธุรสวาจาที่พระเกจิต่างๆ ควรถือเป็นแบบอย่างได้
นอกจากนี้แล้วคำพูดคำสอนของท่าน ถือเป็นวาทะธรรมที่ใช้เป็นปรัญชาในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี เช่น คิดก่อนทำ ไม่ใช่ทำแล้วคิด คิดก่อนพูด ไม่ใช่พูดแล้วคิด คิดก่อนไป ไม่ใช่ไปแล้วคิด คิดดี เพื่อดี คิดดี สู่ดี ของจริงทำจริง เห็นจริง ของดีทำดี เห็นดี คิดดีเพื่อดี คิดดีสู่ดี คิดชั่ว ทำชั่ว ได้ชั่ว ฉะนั้นให้ถึงพร้อมทานศีลภาวนา นิพพานัง ปรมัง สุขัง
วันนี้ คือ ชาตินี้ วันพรุ่งนี้ คือ ชาติหน้า เมื่อวาน คือ ชาติที่แล้ว วันเวลามันเร็ว จะทำความดีก็รีบทำอย่าผัดวันประกันพรุ่ง อย่างหลงใหลในลาภ ยศ สรรเสริญ อย่าปล่อยให้ โลภะ โทสะ โมหะ มาครอบงำ ต้องมีสติ คาถาชนะมาร คือ อดทน อดทน อดทน อดทน
ก่อนจะได้มาซึ่งของใหญ่ๆ สิ่งใหญ่ ต้องหมั่นทำแต่สิ่งเล็กๆ ก่อน ค่อยๆ ทำ ทำไปเรื่อยๆ ทำบ่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ ทุกอย่างต้องเกิดจากเล็กไปหาใหญ่
ชนะผู้น้อยด้วยการให้ ชนะผู้ใหญ่ด้วยการอ่อนน้อม
คนเราต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ต้องรับด้วยให้ด้วยถึงจะดี มิใช่เป็นแต่ผู้รับเพียงอย่างเดียว
โลกนี้ คือ ละคร บางคนก็ทุกข์ตลอด บางคนก็สุขตลอด บางคนก็สุขปนทุกข์ ทุกสิ่งเกิดขึ้นอยู่ที่กรรม ทำกรรมดีสู่ดี ทำกรรมชั่วสู่ชั่ว นี่คือละครชีวิตที่เป็นจริง
ทุกอย่างมีสองด้านเหมือนเหรียญ มีหัวมีก้อย มีดีก็มีไม่ดี มีได้ก็มีไม่ได้ มีสมหวังก็มีผิดหวัง มีคุณก็มีโทษ ทุกอย่างมันจะมาเป็นคู่ๆ ฉะนั้นจะทำอะไรจงคิดให้ดี อย่าประมาท จงมีสติ ตัวสตินี้สำคัญมาก
ร่วมทำบุญสร้าง รพ."ครูบาน้อย"
ครูบาน้อย ขึ้นชื่อว่าเป็นพระนักสงคมสงเคราะห์ และพระนักสร้างสาธารประโยชน์แห่งล้านนา โดยล่าสุดท่านได้รับเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการสร้างโรงพยาบาลสารภี สาขา ๒
ครูบาน้อยกล่าวว่า การสร้างโรงพยาบาลถือเป็นการช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่งได้บุญกุศล โรงพยาบาลสารภี สาขา ๒ นี้จะให้ประโยชน์กับประชาชนจำนวนมาทั้งประชาชนในอำเภอสารภี และประชาชนจากอำเภอต่างๆ ใกล้เคียง อาตมาจึงได้จัดตั้งกองทุน "ผุสฺสิตธมฺโม อุปถัมภ์" ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือในการก่อสร้างโรงพยาบาลสารภี 2 โดยเงินรายได้ทั้งหมดที่ได้มาจากประชาชนนำมาเข้ากองทุน มอบให้การก่อสร้างโรงพยาบาลสารภีทั้งหมด
สำหรับปัจจัยนำไปสร้างโรงพยาบาลและสร้างวัดศรีดอนมูลนั้น มาจากกิจนิมนต์ ศรัทธาญาติโยมที่เดินทางมาทำบุญที่วัด รวมทั้งเช่าบูชาวัตถุมงคลที่วัดสร้างเองทั้งหมด โดยล่าสุดท่านได้จัดสร้างรูปเหมือนปั๊ม รุ่น ๑ เพื่อนำปัจจัยทั้งหมดสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลสารภี สาขา ๒ ด้วยงบประมาณ ๑๒ ล้านบาท ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โทร.๐-๕๓๔๒-๑๐๔๐ และ ๐-๕๓๔๒-๐๒๗๗