พระเครื่อง

เหรียญจตุรพักตรมหาพรหมกฐินพระราชทานทีโอทีวัดมณีชลขัณฑ์ปี๕๖

เหรียญจตุรพักตรมหาพรหมกฐินพระราชทานทีโอทีวัดมณีชลขัณฑ์ปี๕๖

03 มี.ค. 2557

เหรียญจตุรพักตรมหาพรหมออกในงาน 'กฐินพระราชทาน ทีโอที วัดมณีชลขัณฑ์ ปี ๕๖' : ชั่วโมงเซียน อ.โสภณ

                เหรียญจตุรพักตรมหาพรหม เป็นวัตถุมงคลที่ออกในงาน กฐินพระราชทาน ทีโอที ณ วัดมณีชลขัณฑ์ พ.ศ.๒๕๕๖ นับเป็นบทหนึ่งในตำนานวัตถุมงคลทรงคุณค่า หนึ่งในศาสตร์แห่งนี้ เป็นรุ่นแรก ที่ได้รับอนุญาตจัดสร้างจากพระครูวิมลญาณอุดม หรือพระอาจารย์ติ๋ว เจ้าอาวาสวัดมณีชลขัณฑ์ เป็นลายลักษณ์อักษร อย่างเป็นทางการ เป็นรุ่นแรก ที่มีชื่อวัดมณีชลขัณฑ์บันทึกไว้หลังเหรียญอย่างชัดเจน เป็นรุ่นแรก ที่กระทำพิธีพุทธาภิเษกในพระอุโบสถต่อหน้าหลวงพ่อใหญ่พระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ที่พระอาจารย์ติ๋วเคารพนับถืออย่างยิ่ง หลายหนหลายวาระ ในห้วงเวลาแห่งไตรมาสและเป็นรุ่นแรก ที่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลจตุรพักตรมหาพรหมมากที่สุด พุทธาภิเษกหลายครั้งที่สุด เข้มขลังที่สุดของวัดมณีชลขัณฑ์

                พระอาจารย์ติ๋ว อนุญาตให้จัดสร้างเพื่องานกฐินพระราชทานของ บมจ.ทีโอที โดยมีนายวุฒิดนัย ฐิตะกสิกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ภาคขายและบริการนครหลวงที่ ๓ สายงานขายและบริการลูกค้านครหลวง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของฉายาในวงการพระเครื่องว่า "วุฒิ ทีโอที" เป็นหัวแรงสำคัญในการจัดสร้าง

                เหรียญจตุรพักร์มหาพรหม ประกอบด้วย ๑.เหรียญทองคำ สร้าง ๕๙ เหรียญ ๒.เหรียญ เงินสร้างตามเนื้อชนวน ๓.เหรียญทองแดง สร้างตามเนื้อชนวน ๔.ชุดพิเศษ ๓ เหรียญ/ชุด ประกอบด้วย เนื้อเงินหน้าประกบทองคำชนวน เนื้อเงินหน้าประกบเงินชนวน  และเนื้อทองแดงหน้าประกบทอง โดยไม่ได้เปิดให้เช่าหรือวางตามศูนย์พระทั่วๆ ไป ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ใช้สิทธิ์สั่งจองผ่านพนักงานทีโอทีเท่านั้น

                ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีปลุกเสกให้ ๒ วาระ วาระแรก ณ ลานพระพรหม บมจ.ทีโอที สำนักงานใหญ่ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ พระเกจิอาจารย์ ๑๒ รูป เมตตาจิตปลุกเสก ดังนี้

                ๑.พระราชภาวนาพินิจ (หลวงพ่อสนธิ์ อนาลโย) วัดพุทธบูชา กทม. จุดเทียนชัย และเมตตาปลุกเสก ๒.พระสุนทรธรรมานุวัตร (หลวงพ่อเอียด อินทรวังโส) วัดไผ่ล้อม ๓.พระครูวิชัยกิจจารักษ์ (หลวงพ่ออุดม อุตตมปัญโญ)   วัดพิชัยสงคราม ดับเทียนชัย ๔.พระครูอดุลวิริยกิจ (หลวงพ่อเอื้อน อัตตมโน) วัดวังแดงใต้ ๕.พระครูสังฆรักษ์เฉลิม  (หลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี) วัดพระญาติฯ

                ๖.พระครูอุดมสมุทรคุณ (หลวงพ่ออุดม สัทธาสัมปันโน) วัดประทุมคณาวาส ๗.พระครูธรรมวรญาณ (หลวงปู่บุญธรรม ญาณวโร) วัดสามัคคียาราม ๘.พระครูปลัดปิฎกวัฒน์ (พระอาจารย์ประจักษ์ จัตตมโล) วัดชุ้ง ๙.หลวงพ่อสุทัศน์ โกสโล วัดกระโจมทอง ๑๐.พระครูปทุมวรกิจ (พระอาจารย์ชำนาญ อุตตมปัญโญ) วัดบางกุฎีทอง ๑๑.ครูบา กฤษณะ  อินทวัณโณ อาศรมพฤกษาศาสตร์บ้านโตนด และ ๑๒.พระอาจารย์ติ๋ว ส่วนวาระที่ ๒ พระอาจารย์ติ๋ว เมตตาเสกเดี่ยว ณ อุโบสถวัดมณีชลขัณฑ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

                อักขระยันต์ที่ อ.ติ๋ว กำหนดให้วางหลังเหรียญจตุรพักตรมหาพรหม  
 
                ๓ ตัวบนสุด ที่อยู่นอก มีอุนาโลม วางบน บังคับ จาก ซ้ายมาขวา อ่าน ว่า อิ สวา สุ เป็นคาถา หัวใจพระรัตนตรัย

                ด้านข้าง ซ้ายขวา และตัวล่าง อ่าน ว่า  มะ อะ อุ เป็นคาถา หัวใจพระไตรปิฎก

                แถวล่างสุด กำกับด้วย โส ภะ คะ วา เป็นคาถา หัวใจพระเจ้าดำเนิน

                ภายในรูปตาราง กำกับว่า นะ โม พุท ธา ยะ(ตัวบนสุด) เป็นคาถา พระเจ้า ๕ พระองค์ และ ตรงกลาง อะ ระ หัง เป็นคาถา หัวใจยอดพระนิพพาน

                รอบนอก คือตัวเลขแทนค่า มหาเมตตา มหานิยม แบบโบราณ คือ เลข ๑-๕, ๖-๓, ๒-๔ และ ๘-๗ ดังคำกลอนโบราณว่า อาทิตย์(๑) เป็นมิตรกับ ครู(๕) จันทน์(๒) โฉมตรู คู่ พุธ(๔) นงเยาว์ ศุกร์(๕) ปากหวาน อังคาร(๓)รับเอา ราหู(๘) กับเสาร์ (๗) เป็นมิตรแก่กัน

                ยันต์นี้ ท่านเรียกว่า ยันต์ องค์พระปถมัง อานุภาพว่ากันครอบคลุมให้เกิดผลดีในทุกๆ ด้าน คุ้มครองดวงชะตา สงเสริมราศี และมีเมตตามหานิยม แก่ตัว

                อักขระยันต์ ที่วางหน้าเหรียญจตุรพัตรมหาพรหม (ต้นฉบับ ลายมือ อ.ติ๋ว) เป็นยันต์ หัวใจ นวหรคุณ หรือ หัวใจอิติปิโส บ้างก็เรียก หัวใจมงคล ๙ ที่ว่า อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ

                อ่าน จากแถวบน ซ้ายไปขวาว่า  อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ อุปเท่ห์และอานุภาพของพระยันต์นี้ ท่านกล่าวว่า เป็นสุดยอดของพระคาถาที่คุ้มครองรักษาในทุกๆ ด้าน ส่งเสริม ดวงชะตา ดีนัก แก้คุณไสย เสนียดจัญไรต่างๆ อีกทั้งเสริมบารมีแก่ผู้ที่ภาวนา และติดตัวไว้ สูงสุดยิ่งนัก

                 ด้านหน้าเหรียญ ข้างหน้าพระพรหม (ลายมือ อ.ติ๋ว)
 
                 กำกับสี่ด้านด้วยพระคาถา หัวใจยอดศีล  อ่านว่า พุท ธะ สัง มิ ซึ่งเป็นอานุภาพสูงสุดแห่งพระคาถาทั้งปวง ที่ปกป้องคุ้มครอง หนุนดวง ๙ คา ให้บังเกิดความสวัสดี มีลาภเพิ่มพูน ฯลฯ


"ยันต์สัมมุขขี"

                ตำราพิชัยสงคราม เป็นคำที่ใช้เรียกหนังสือหรือเอกสารที่มีการรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับกลยุทธ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการรบต่างๆ อาทิ การรุก การตั้งรับ การแปรขบวนทัพ การใช้อุบายทำลายข้าศึก เป็นต้น หนังสือจำพวกนี้ในบางแห่งมักจะมีการใส่เนื้อหาที่เป็นความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์เข้ามาประกอบ เช่น การดูฤกษ์ยามในการเคลื่อนทัพ การทำพิธีข่มขวัญข้าศึกและบำรุงขวัญฝ่ายตน ฯลฯ รูปแบบเนื้อหานั้นอาจอยู่ในลักษณะของร้อยแก้วหรือร้อยกรองก็ได้

                เนื้อหาในตำราพิชัยสงครามของไทยโบราณแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ ๑.เหตุแห่งสงคราม ๒.อุบายสงคราม และ ๓.ยุทธศาสตร์และยุทธวิธี นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ ซึ่งปรากฏมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว โดยเฉพาะสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายจะปรากฏความเชื่อในเรื่องดังกล่าวอย่างมาก

                อักขระเลขยันต์ที่พระเกจิอาจารย์ใช้ทั้งในอดีตและปัจจุบันล้วนอยู่ในตำราพิชัยสงครามทั้งสิ้น การเรียกชื่อยันต์ที่มีเศียรองค์เทพล้อมรอบ เศียรพระพรหม เศียรพระอินทร์ และเศียรพระนารายณ์ มีชื่อเรียกเฉพาะว่า "ยันต์สัมมุขขี" แม้ว่าจะใช้ยันต์คนละตัวก็ตาม


เหรียญเกียรติยศ-เหรียญแจกทาน

                การสร้างเหรียญเกียรติยศ หรือเหรียญแจกทาน "วุฒิ ทีโอที" ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า จัดสร้างจากเนื้อโลหะชนวนล้วนๆ ประกบกับหน้ากากเงินแท้ เป็นรูปเศียรพระพรหม กำกับด้วยอักขระยันต์ต่างๆ.. เข้าพิธีพุทธาภิเษกทุกครั้งทุกวาระพิธี อย่างเข้มขลัง ยิ่งนัก จัดสร้างเพียงอย่างละ ๕๐๐ เหรียญ (ผิวขัด และผิวชนวนเดิม) มีเลขและโค้ด กำกับทุกเหรียญ

                เหรียญนี้ได้จัดสร้างเพื่อตั้งใจ แจกและมอบให้แก่ผู้ที่ช่วยเหลืองานกฐินพระราชทานฯของวัดมณีชลขัณฑ์ ในครั้งนี้ โดยได้แจกให้แม่ครัวบ้าง รปภ. แม่บ้าน คนเสิร์ฟน้ำ เด็กวัด คนขับรถ ฯลฯ ตลอดจนผู้ที่มาร่วมงาน ที่ช่วยกันยกของจัดสถานที่ให้งานเสร็จลุล่วงไปด้วยดี จากเดิมที่เคยเรียกเหรียญนี้ว่า เหรียญแจกทาน เนื่องจากเป็นเหรียญที่นับว่ามีค่าน้อยสุด

                แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ ด้วยเหตุที่ว่า "วุฒิ ทีโอที" ได้ให้ทำเหรียญที่มีชนวนดีที่สุด แปลกที่สุดด้วยหน้ากากเงินแท้ มอบให้แจกให้แก่เหล่าผู้มาช่วยงาน ให้เกิดความภูมิใจว่า เหรียญที่ไม่ได้มีการจองซื้อขายเป็นเหรียญแจกที่มีคุณค่า จึงเรียกว่า "เหรียญเกียรติยศ" ซึ่งบัดนี้กลายเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่มีการสอบถามหา ซื้อขายกันในราคาที่สูงพอควร เนื่องจากพุทธคุณและความเข้มขลังของวัตถุมงคลที่ก่อเกิดประสบการณ์แก่ผู้ที่ได้บูชา ทั้งด้านเมตตา โชคลาภ และความสำเร็จยิ่งนัก