
หลวงพ่อชาญวัดบางบ่อในวันและวัย'อายุ๑๐๐ปีพรรษาที่๘๐'
หลวงพ่อชาญวัดบางบ่อในวันและวัย'อายุ๑๐๐ปีพรรษาที่๘๐' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"พระมงคลวราการ" หรือที่ชาวบ้านมักเรียกขานว่า "หลวงพ่อใหม่” ก็คือ "หลวงพ่อชาญ อิณฺมุตฺโต" แห่งวัดบางบ่อ ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางบ่อ เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นพระแท้ ที่น่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ชื่อเสียงโด่งดังมานาน เป็นที่กล่าวขานในหมู่ศิษย์ชาวบางบ่อ และชาวปากน้ำ ถึงความขลังความศักดิ์สิทธิ์ และจริยวัตร ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลสำคัญทั่วประเทศ ปัจจุบันสิริอายุ ๑๐๐ ปี พรรษาที่ ๘๐
"ชาญ รอดทอง" เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงพ่อชาญ เกิดเมื่อวันศุกร์ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๓ เมษายน ๒๔๕๗ ณ หมู่ ๒๐ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่ออยู่ในปฐมวัยได้เข้าศึกษาเล่าเรียนใกล้บ้านจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนในสมัยนั้น เมื่อออกจากโรงเรียนแล้วได้อยู่ช่วยบิดามารดาทำนาอันเป็นอาชีพดั้งเดิมของบุพการี จนกระทั่งอายุครบบวช ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดคลองสวน ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๔๗๖ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีระกา โดยมีพระอธิการบุญเหลือ โสภโณ วัดเทพราช ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “อิณมุตฺโต”
๓ พรรษาแรก หลวงพ่อชาญจำพรรษาที่วัดนิยม ปฏิบัติอุปัชฌายวัตรและอาจริยวัตรมาโดยตลอด ได้ศึกษาพระธรรมวินัยตามหน้าที่ของพระสงฆ์ที่ดี จนเข้าสมัครสอบพระปริยัติธรรม สอบได้ในชั้นนักธรรมตรีโท เอก สำเร็จเป็นพระนักธรรมชั้นเถรภูมิ ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ๓๒ ปี และเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูวิจารณ์ธรรมคุณ” ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ได้รับอาราธนามาให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางบ่อ และได้รับแต่งตั้งให้เป็น “พระอธิการ” และเป็น “พระอุปัชฌาย์”
ด้วยเหตุที่หลวงพ่อชาญเป็นผู้มีคุณธรรมและปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย มีอัธยาศัยดีต่อทุกคนเสมอเหมือนกัน จึงเป็นที่นับถือ และเลื่อมใสศรัทธาแก่ประชาชนทั่วไป จะเห็นได้จากการบวชพระตามวัดต่างๆ ถึงแม้ว่าวัดนั้นจะมีพระอุปัชฌาย์อยู่แล้วผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาต่อท่านยังได้นิมนต์ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ ท่านได้บวชพระเณรเป็นจำนวนมาก นับได้มากกว่า ๕,๐๐๐ รูป
ในสมัยที่ยังเป็นพระหนุ่มมีพรรษาได้ ๑๐ พรรษาหลวงพ่อได้เล่าว่า เพื่อไปกราบนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งในสมัยนั้นวัดพระแท่นดงรักยังเป็นป่าทึบใช้เวลาเดินทาง ๑ เดือนเต็ม การเดินธุดงค์ไปวัดแท่นดงรังนั้น เป็นการเดินทางด้วยความยากลำบาก ร่างกายมีความเหนื่อยเมื่อยล้ามากแต่ทว่าทางจิตใจแล้วมีความแช่มชื่นมาก มีจุดมุ่งหมายเป็นกุศล ตลอดทางที่เดินไปนั้นต้องผจญกับสัตว์ร้ายมีช้างป่า เสือ หมี และงูพิษมากมาย อีกทั้งต้องต่อสู้กับภูตผีปีศาจต่างๆ มากมายแต่ในชีวิตนี้เราได้ถวายตัวแด่พระพุทธศาสนาแล้ว เราเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ไม่ด่างพร้อย ขอเอาธงชัยแก่ศีลเป็นสรณะ เป็นเกราะกำบังป้องกันภัยต่างๆ พร้อมด้วยคาถาอาคมต่างๆ ที่ได้เล่าเรียนมาจากครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพ นำออกมาใช้เราจึงมีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้
พ.ศ.๒๕๑๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จากพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ขึ้นเป็นชั้นเอกในพระราชทินนามเดิม ในพ.ศ.๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จากพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ขึ้นเป็นชั้นพิเศษในพระราชทินนามเดิม และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบางบ่อ บริหารกิจการคณะสงฆ์ บริหารพระศาสนาในเขตปกครองอำเภอบางบ่อทั้งอำเภอ ตลอดเวลาของการดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ
ตลอด ๒๕ ปี หลวงพ่อชาญได้ปฏิบัติงานสนองงานแก่หมู่คณะด้วยดีเสมอมาไม่มีด่างพร้อย เป็นที่พอใจของผู้บังคับบัญชาจนได้รับคำชมเชยและยกย่องจากคณะสงฆ์ ต่อเมื่อมีกฎหมายคณะสงฆ์ตราบัญญัติออกมาใหม่ว่าให้พระเถระที่มีอายุพรรษามากกว่า ๘๐ ปีขึ้นไป ให้ยกท่านขึ้นไว้ในฐานะปูชนียจารย์คอยให้คำปรึกษากับพระผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง “ที่ปรึกษาของเจ้าคณะ”นั้นๆ หลวงพ่อชาญก็เช่นกันท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ “ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางบ่อ” ตั้งแต่นั้นมาจุดประสงค์ของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์มาตรานี้ก็เพื่อที่จะให้พระ เถระที่มีตำแหน่งบริหารงานมานานได้รับการพักผ่อนดังเช่นที่ข้าราชการเกษียณอายุปลดวางการภาระทั้งปวงนั่นเอง
หลวงพ่อชาญเป็นพระเถระที่มีแต่ความเย็น ใครได้เข้าใกล้ท่านแล้วจะเกิดแต่ความร่มเย็น โดยปกติแล้วท่านเป็นพระที่มีความสงบเยือกเย็นกิริยามารยาทนุ่มนวล มีความสันโดษสมถะ เคร่งครัดในพระธรรมวินัยของสงฆ์ให้ความเมตตาแก่พระลูกวัด ตลอดถึงญาติโยมที่ไปหาที่วัดด้วยความเป็นกันเอง ผู้ที่ได้พบเห็นท่านแล้วก็จะเกิดความศรัทธาเลื่อมใส
แม้ว่าวัยจะล่วงเลยมามากถึง ๑๐๐ แต่หลวงพ่อยังเมตตารับกิจนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลให้วัดต่างๆ อย่างไม่ขาด ทั้งนี้หากใครอยากไปกราบไหว้ขอพรและชมบารมีโทรถามได้ที่พระครูภัทรธรรมธาดา รองเจ้าอาวาสวัดบางบ่อ.๐-๒๓๓๘-๑๗๕๙, ๐๘-๔๖๔๒-๔๐๙๔ และ ๐๘-๑๖๒๕-๕๙๔๕
เสือหลวงพ่อชาญ
"เสือหลวงพ่อชาญวัดบางบ่อและเครื่องรางของขลัง" เครื่องรางของขลังประเภทมหาอำนาจคงจะเรียกได้ว่า "เสือ" เป็นเครื่องรางที่หนึ่งตลอดกาล ดังจะเห็นได้จาก "เขี้ยวเสือแกะหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย" เป็นต้น
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ ท่านสืบสายวิชามาจากหลวงพ่อปานเต็มๆ ถึงแม้ว่าหลวงพ่อท่านจะเกิดไม่ทันหลวงพ่อปานก็ตาม แต่หลวงพ่อไผ่อดีตเจ้าอาวาสวัดบางบ่อรูปก่อน ท่านได้เรียนวิชามาจากหลวงพ่อปานแน่นอน ดังนั้นหลวงพ่อชาญท่านได้สืบทอดวิชามาจากหลวงพ่อไผ่เต็มๆ และยังมีอาจารย์อีกหลายรูปที่หลวงพ่อชาญท่านได้เรียนวิชามาเช่น หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อคำ วัดนิยมยาตรา และหลวงพ่อไผ่ วัดบางบ่อ เกจิที่กล่าวมาข้างต้นล้วนแล้วเป็นศิษย์หลวงพ่อปานทั้งสิ้น
ในปัจจุบัน "เครื่องรางของขลัง" ถูกสร้างขึ้นมากมายสุดแล้วแต่ผู้คนจะแสวงหามาใช้หวังพึ่งพุทธคุณ ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาที่ถูกต้อง ขอให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมได้ศึกษาและทำความเข้าใจ เกี่ยวกับวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางของขลัง ณ ที่นี้
การสร้างเครื่องรางของหลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ เริ่มอย่างเป็นทางการเมื่อปี ๒๕๓o เป็นเครื่องรางประเภทเสือหล่อโลหะเนื้อทองผสม เรียกชื่อรุ่นว่า "รุ่นสร้างเขื่อน" ขนาดห้อยคอ ปัจจุบันพบเห็นน้อยมาก จากนั้นก็จัดสร้างรูปภาพที่มีตะกรุดดอกเล็กปิดอยู่ด้านหลัง และก็ตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุดโทน เป็นต้น และเมื่อปี ๒๕๔๙ ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างเสือไม้แกะอย่างเป็นทางการครั้งแรก (ต้นปี ๒๕๔๙ ก็มีการแกะไม้พยุงออกมาแต่ก็ไม่ถือเป็นวาระ ศิลปะสวยงามพบเห็นน้อย)
ในปัจจุบันก็มีการสร้างอย่างไม่เป็นวาระ (สร้างเรื่อยๆ) เนื่องจากหลวงพ่อท่านโด่งดังเรื่องเสือ จึงมีสาธุชนจำนวนมากมาเช่าบูชา ฉะนั้น เสือในปัจจุบัน "หน้าจะไม่ซ้ำกัน" เป็นการแกะจากไม้ มงคลเช่นไม้กัลปังหา ไม้งิ้วดำ ไม้ขนุน ไม้มะยม ไม้โมกและไม้ขี้เหล็กป่า นอกจากแกะจากไม้แล้วก็มี จำพวกเขี้ยว งา และวัสดุหายากอื่นๆ อีกเป็นต้น ดังนั้นการเช่าหาขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคลมากกว่าค่านิยม เสือมงคลของหลวงพ่อชาญมีพุทธคุณโดดเด่นในเรื่องมหาอำนาจ และแคล้วคลาดปลอดภัย
ในวาระฉลองอายุ ๑๐๐ ปี พรรษาที่ ๘๐ พ.ศ.๒๕๕๗ วัดบางบ่อ โดยพระครูภัทรธรรมธาดา ได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อชาญ นั่งเสือ รุ่น ๓ ประกอบด้วย รูปหล่อลอยองค์ เหรียญหล่อโบราณนั่งเสือ เสื่อหล่อ เสือแกะจากไม้สังกรณีตรีชวา และเสือแกะจากไม้พยูง เพื่อนำปัจจัยบูรณะศาลาการเปรียญและถาวรวัตถุภายในวัด