'นายสมัชญ์ จรเสมอ' เมืองนนท์ก็มีพระดีไม่แพ้เมืองอื่น | คมชัดลึก

 

                  "สนามพระเครื่องแห่งแรกของ จ.นนทบุรี ไม่ใช่สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยที่ตั้งอยู่บนห้างพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน แต่ความจริงแล้วสนามพระเครื่องแห่งแรกของ จ.นนทบุรี อยู่ที่ร้านชื่นอุรากาแฟ ซอยวัดบางขวาง หรือตรอกรถเฟียต เป็นจุดศูนย์รวมของเซียนเมื่อหลายสิบปีก่อนที่จะมีการก่อสร้างห้างพันธ์ทิพย์งามวงศ์วานด้วยซ้ำ" นี่เป็นคำบอกเล่าของนายสมัชญ์ จรเสมอ สมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรี ผู้สะสมและศรัทธาในพลังพุทธคุณของพระเครื่อง จ.นนทบุรี ทุกวัดทุกพระเกจิอาจารย์

 

                  นายสมัชญ์ บอกว่า พระเกจิใน จ.นนทบุรี คนทั่วๆ ไปจะรู้จักมีเพียง ๓ รูปเท่านั้น คือ ๑.หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด เจ้าตำรับ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก และตะกรุดโสฬส ๒.หลวงพ่อสุ่น จันทโชติก วัดศาลากุน เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีชื่อเลื่องรือว่าหนุมาน ถึงกับคนในวงการพระเครื่องตั้งสมญา "ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม" และ ๓.หลวงปู่ช่วง หรือพระครูนนทวุฒาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางแพรกใต้ ซึ่งตั้งอยู่หลังเรือนจำบางขวาง อ.เมือง

 

                  นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงอีกหลายรูป เช่น หลวงปู่สาย ปภาโส หรือพระครูนนทประการสิทธิ์ อดีตวัดบางรักใหญ่ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องธง พระครูศีลาภิรม ธมฺมธโร หรือหลวงพ่อท้วม วัดบางขวาง อ.เมือง และพระครูกิตตินนทคุณ หรือที่ชาวบ้านทั่วไปขนานนามท่านว่า "หลวงพ่อกี๋" อดีตวัดหูช้าง ต.คูเวียง อ.บางกรวย 

 

                  ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและยังมีชีวิตหลายรูป เช่น พระมงคลนนทวุฒ หรือ "หลวงพ่อเก๋ ถาวโร" เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ต.บางเขน อ.เมือง เป็นพระครูปิยนนทคุณ หรือหลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย เจ้าตำรับ "ตะกรุดคอหมา-เสือปืนแตก" และพระครูสุวรรณโชติวุฒิ หรือหลวงพ่อตี๋ เจ้าอาวาสวัดหูช้าง อ.บางกรวย ท่านเป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมเพียงรูปเดียว รวมทั้งยังมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงกี๋อีกด้วย

 

                  "ผมเป็นคนนนทบุรี เกิดที่ จ.นนทบุรี โตและเรียนที่นนทบุรี รวมทั้งทำงานรับใช้คนนทบุรี พระเครื่องที่ผมใช้ก็เป็นพระเมืองนนทบุรี โดยเฉพาะเหรียญหลวงปู่ช่วง วัดบางแพรกใต้ ถึงแม้ว่าจะเป็นพระท้องถิ่นระดับจังหวัดแต่พุทธคุณเป็นที่กล่าวขานระดับประเทศ" นายสมัชญ์กล่าว

 

                  พร้อมกันนี้นายสมัชญ์ พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า "สำนวนสุภาษิตที่ว่าใกล้เกลือกินด่างนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะคนใกล้วัดคิดว่าจะหาเมื่อไรก็ได้ แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น พอพระเกจิมรณภาพกลับไม่มีของดีท่านเก็บไว้เลย วันนี้จึงอยากแนะนำว่าหากจะเก็บพระให้เริ่มจากพระใกล้บ้านก่อน เพราะไม่แน่ว่าวันหนึ่งวันใดท่านจะดังขึ้นมาเราจะไม่ต้องมาพูดว่า รู้อย่างนี้เช่าท่านเก็บไว้ก็ดีแล้ว"

 

 

 

 

วัดหน้าโบสถ์ วัดเชิงท่า

 

 

 

 

 

                  วัดหน้าโบสถ์และวัดเชิงท่า วัดหน้าโบสถ์และวัดเชิงท่าเป็นวัดร้างตั้งอยู่ในเขตกรมชลประทาน ตำบลบางตลาด และอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก เนื่องจากกรมชลประทานต้องการเวนคืนที่ดินในท้องที่ตำบลบางตลาด เพื่อสร้างท่าเรือซึ่งครอบคลุมบริเวณวัดหน้าโบสถ์และวัดเชิงท่า โดยกรมชลประทานได้สร้างวัดชลประทานรังสฤษฎ์ให้ใหม่เมื่อ  พ.ศ.๒๔๙๙-๒๕๐๒     

 

                  ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้วัดหน้าโบสถ์และวัดเชิงท่าจึงกลายเป็นวัดร้าง โบราณสถานของวัดหน้าโบสถ์ยังมีพระอุโบสถเก่าซึ่งมีร่องรอยจิตรกรรมฝาผนังด้วย ในพระอุโบสถมีพระประธานค่อนข้างสมบูรณ์ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโต" กำแพงแก้วบางส่วนชำรุดมาก เจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ๔ องค์อยู่ตรงมุมกำแพงแก้วแต่ชำรุดทรุดโทรมมาก บางองค์เหลือแต่ฐานของเจดีย์ ใกล้ๆ พระอุโบสถมีซากพระพุทธรูปหลายชิ้นกองอยู่ ส่วนวัดเชิงท่ายังมีซากเจดีย์และซากพระอุโบสถเหลืออยู่ 

 

                  นายสมัชญ์ บอกว่า เทศบาลนครนนทบุรี จึงได้ร่วมมือกับกรมศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี จัดทำโครงการอนุรักษ์พัฒนาวัดเชิงท่า-วัดหน้าโบสถ์เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งความรู้ด้านศิลปะโบราณสถานและได้ย้ายพระอุโบสถวัดหน้าโบสถ์ในเขตพระราชฐานมายังบริเวณวัดเชิงท่าและให้ชื่อใหม่ว่า พุทธสถานเชิงท่า-หน้าโบสถ์ ที่พุทธสถานแห่งนี้มีศาลเจ้าพ่อเสือที่เป็นที่เคารพของผู้คนในบริเวณนี้ ด้านในพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อโตเป็นพระประธานให้กราบไหว้บูชา

 

 

 

.......................

 

('นายสมัชญ์ จรเสมอ' เมืองนนท์ก็มีพระดีไม่แพ้เมืองอื่น : คอลัมน์พระเครื่องสรณคนดัง : โดย...เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู)