พระเครื่อง

คมเลนส์ส่องพระ (เสาร์ที่ 20 มิ.ย.52)

คมเลนส์ส่องพระ (เสาร์ที่ 20 มิ.ย.52)

20 มิ.ย. 2552

 *** ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา บุญส่ง ธาดาประดิษฐ์ (เสี่ยลิ้ง หาดใหญ่) บินไปทำบุญและท่องเที่ยวศรีลังกา ได้กุศลผลบุญกลับมาเพียบ อานิสงส์นี้ได้หนุนช่วยให้ซื้อขายพระ (แพง) ได้มากขึ้น...ล่าสุดก่อนไปศรีลังกา เสี่ยลิ้ง ได้ ชุดเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ ครบทั้ง ๕ องค์ อันประกอบด้วย พระปิดตาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้, พระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง, พระปิดตาหลวงปู่ทับ วัดทอง, พระปิดตาแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี และ พระปิดตากรุวัดท้ายย่าน สรรคบุรี จ.ชัยนาท แถมด้วย พระปิดตามหาอุด หลวงปู่ทับ วัดทอง พิมพ์ลูกอมยันต์ยุ่ง ซึ่งเป็นพระพิมพ์แปลกที่สุด และหายากมากๆ ช่วงนี้ "เสี่ยลิ้ง" เลยเนื้อหอม มีหลายคนตามจีบอยากได้พระปิดตาชุดนี้ ใครจะเป็นผู้โชคดี เร็วๆ นี้คงทราบ แต่วันนี้...มาชมความสวยงามคมชัดของพระปิดตาชุดนี้ก่อน ๒ องค์ คือ พระปิดตาแร่บางไผ่ และ พระปิดตากรุวัดท้ายย่าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยชมส่วนที่เหลือ

 ** พระปิดตาแร่บางไผ่ ผลงานการสร้างของ หลวงปู่จัน วัดโมลี อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พระเกจิอาจารย์ชาวเขมรผู้มีวิชาอาคมขลัง จนสามารถล่วงรู้ได้ว่า บริเวณคลองบางคูลัด ท้องที่บางไผ่ มีแร่ชนิดหนึ่งจมอยู่ในน้ำ จึงได้ไปพลีขึ้นมา เพื่อนำมาสร้าง พระปิดตา  โดยการหลอมแร่ให้เหลว แล้วเทน้ำแร่นั้นลงในแม่พิมพ์ทีละองค์ ซึ่งท่านออกแบบเอง โดยมียันต์รอบองค์พระ มีหลายพิมพ์ด้วยกัน และเนื่องจากเป็นแร่เหล็ก พระปิดตาเนื้อนี้จึงเกาะติดแม่เหล็ก และส่วนใหญ่จะมี "เสี้ยน" เป็นเส้นเล็กๆ ปรากฏตามองค์พระ นับเป็นพระปิดตาสำนักเดียว ที่สร้างด้วยเนื้อแร่พิเศษนี้ ซึ่งมีเฉพาะที่บางไผ่เท่านั้น และเชื่อกันว่า พระปิดตาแร่บางไผ่ มีคุณวิเศษเช่นเดียวกับ เหล็กไหล ซึ่งสามารถแก้คุณไสย ป้องกันภยันตรายต่างๆ ได้ดีมาก ทางด้านแคล้วคลาด คงกระพัน และเมตตามหานิยม ก็เป็นเลิศ นอกจากนี้ยังมีคุณวิเศษที่น้อยคนจะรู้ คือ คนสมัยก่อนเวลาเดินป่า หากอม พระปิดตาแร่บางไผ่ ไว้ในปากจะไม่รู้สึกหิวน้ำเลย (แต่ต้องระวังอย่าเผลอกลืนเอาองค์พระลงท้องก็แล้วกัน)

 ** พระปิดตาองค์ที่ ๒ ของ เสี่ยลิ้ง หาดใหญ่ วันนี้ คือ พระปิดตากรุวัดท้ายย่าน เมืองสรรค์ (อ.สรรคบุรี) จ.ชัยนาท ซึ่งนับเป็นสิ่งที่แปลกมาก ที่เป็น พระปิดตา ที่ได้จากการขุดพบใน กรุ เพราะส่วนใหญ่ พระปิดตา โดยทั่วไปมักจะเป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นโดยพระเกจิอาจารย์ในยุคหลัง ประมาณไม่เกิน ๒๐๐ ปี จะไม่ค่อยพบเห็นในพระกรุเมืองต่างๆ (ที่มีอายุกว่า ๓๐๐ ปีขึ้นไป) จะยกเว้นอยู่บ้าง ก็คือ พระปิดตา กรุวัดท้ายย่าน เมืองสรรคบุรี จ.ชัยนาท และ พระปิดตาเมืองคอน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเชื่อกันว่า พระปิดตา ๒ เมืองนี้เป็นการสร้างขึ้นโดยพระเกจิอาจารย์สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยไม่ทราบว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ท่านใด การเช่าหาก็ได้แต่อาศัย พิมพ์ทรงองค์พระ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และ ความเก่า ของ เนื้อหามวลสาร เป็นหลักในการพิจารณา

 ** พระปิดตา กรุวัดท้ายย่าน หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "ปิดตาท้ายย่าน" เป็นพระหล่อสร้างด้วยเนื้อแร่พลวง มีความเปราะ หากตกจะแตก เหมือนกับพระเนื้อเมฆสิทธิ์ เนื้อเมฆพัด ** พระปิดตา กรุวัดท้ายย่าน ที่พบมี ๓ พิมพ์ คือ ๑.พิมพ์ใหญ่จีโบ (หรือชีโบ) ซึ่งหมายถึงหมวกโบราณชนิดหนึ่ง เนื่องจากพระพิมพ์นี้มีลักษณะเหมือนกับสวมหมวกโบราณ ๒.พิมพ์เขียด และ ๓.พิมพ์กบ (องค์ในภาพนี้) ๒ พิมพ์นี้มีลักษณะเหมือนกับ เขียด และ กบ แม้ว่าจะเป็นการเรียกชื่อพระ ที่ฟังดูแล้วไม่เหมาะสม แต่ก็เป็นการเรียกที่มีมาตั้งแต่สมัยเก่าก่อนแล้ว หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ก็น่าจะลองทำดู

 ** เมื่อพูดถึง พระปิดตาเมืองคอน วันนี้ได้รับภาพมาจาก เลอรัฐ ใจปลื้ม (หนึ่ง ทุ่งสง) ร้าน "นาคอนดอนพระ" จ.นครศรีธรรมราช แหล่งใหญ่ของพระสายนี้ แต่เจ้าตัวมักจะหวงมากกว่าปล่อย โดยเฉพาะ พระปิดตา องค์นี้ไม่ใช่พระปิดตาธรรมดาทั่วๆ ไป  หากแต่เป็น พระพิฆเนศปิดตา ซึ่งหายากสุดๆ หนึ่ง ทุ่งสง บอกว่า ที่กล้าฟันธงว่า พระปิดตาองค์นี้เป็น พระพิฆเนศ ก็เพราะมือซ้ายของท่านจับงวงนั่นเอง หากดูด้านข้างจะเห็น งวง ได้ชัดกว่าด้านหน้า ในขณะที่มีมือ ๒ ข้างยกขึ้นไปปิดตา ส่วนด้านหลังก็มีมืออีก ๒ ข้างโยงไปที่ทวาร ซึ่งนับเป็นพระปิดตาที่แปลกตาจริงๆ ส่วนเนื้อพระ ก็ต้องเป็น เนื้อทองแดงเถื่อน ตามตำราของพระปิดตาเมืองคอน ซึ่ง หนึ่ง ทุ่งสง บอกด้วยว่า หมายถึงเนื้อทองแดงที่ขุดได้จากในป่า ชาวบ้านเรียกว่า ทองแดงเถื่อน หรือทองแดงดง ซึ่งหายากมากเช่นกัน ไม่ใช่ทองแดงที่นำเข้าจากเมืองจีน เหมือนกับเนื้อพระทองแดงทั่วๆ ไป ทั้งหมดนี้ คือ ความรอบรู้ของ หนึ่ง ทุ่งสง ที่ขอชมเชยไว้ ณ ที่นี้ด้วย **

 ** แม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา กระแสความนิยม จตุคามรามเทพ จะแผ่วเบาลงมากก็ตาม แต่ก็ยังมีการซื้อขายกันอยู่เป็นประจำ เพียงแต่ว่า ราคาไม่หวือหวาเหมือนสมัยก่อน โกจอง เมืองคอน ผู้ชำนาญพระสายนี้บอกว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ฝากให้หา จตุคามฯ รุ่นปี ๒๕๓๐ อยู่เสมอๆ หากราคาไม่ดุมากก็ยังมีคนต้องการกันอยู่ โดยเฉพาะองค์ที่สวยคมชัด ประมาณ ๑-๒ แสนบาท ยังขายได้

 ** ขณะเดียวกัน เหรียญพระปิดตาพังพระกาฬ ปี ๒๕๓๒ ก็ยังมีความเคลื่อนไหวกันอยู่ วันก่อนผ่านไปทางร้าน เชษฐ์ โฟโต้ เห็นมีผู้ศรัทธาเลื่อมใสองค์พ่อฯ นั่งส่องกันอยู่หลายคน เนื้อนวโลหะ ราคาหลักหมื่นต้นๆ กลางๆ ยังขายได้ ** แต่คนที่โชคดีสุดๆ เห็นจะเป็น หมอ ท่าแซะ หนุ่มเมืองชุมพร นั่งอยู่ที่ร้านเฉยๆ ก็มีคนเอา เหรียญพระปิดตาพังพระกาฬ ปี ๒๕๓๒ เนื้อเงิน มาให้ ๒ เหรียญ เปิดราคาไว้ที่ ๓ หมื่นบาท หมอ รีบคว้าเอาไว้ทันที จากนั้นไม่กี่นาที มีคนมาขอแบ่งไปเหรียญหนึ่ง ในราคาแสนเศษ เหลืออยู่อีก ๑ เหรียญ หมอ ไม่ยอมปล่อย เพราะเท่ากับเหรียญนี้ได้มาฟรี ไม่มีทุนอยู่แล้ว เป็นพิมพ์หนวดยาว สภาพเดิมๆ คมชัดมาก ผิวเหรียญปรากฏน้ำทองไปทั่ว อย่างที่เห็นในภาพนี้

 ** วันเสาร์ก่อนลงข่าว พระพุทธมหากัณฑ์เพชรกลับ (เททองหล่อแบบโบราณ) ที่คณะศรัทธาของ เอ พระราหู โดยมี เสี่ยเจ็ด ร้านหลักเมือง ให้การสนับสนุน เพื่อเป็นการกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับลงรายละเอียดอีกครั้งในวันอังคาร ปรากฏว่า เพียง ๓ วันเท่านั้น จำนวนพระที่จัดสร้าง ๖๐๐ องค์ ก็หมดลงทันที ทั้งๆ ที่จำกัดการจองได้เพียงท่านละ ๒-๕ องค์เท่านั้น ทำเอาคนที่โทรไปทีหลัง ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน นับเป็นวัตถุมงคลรุ่นใหม่ที่สวนกระแสวงการพระ ซึ่งส่วนใหญ่เวลานี้พากันเงียบเหงา วิเวกวังเวงมานานพอสมควร

 ** และเหรียญที่สวนกระแสอีก ๒ รุ่น ก็คือ เหรียญหลวงพ่อทวด ถอดพิมพ์รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ด้านหลัง พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ รุ่น "บารมี ๘๑" และ เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น "เจริญพร ๕๒" พิมพ์เสมาลายกนก (แบบเดียวกับเหรียญหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่) หลังยันต์ "รับทรัพย์" ปลุกเสกโดย พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ เช่นเดียวกัน รุ่นนี้ วัดถลุงทอง (หลวงปู่คลิ้ง) อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ขออนุญาตจัดสร้าง รูปแบบเหรียญสวยงามประณีตมาก เพราะแกะแม่พิมพ์โดย "ช่างอ๊อด" ประหยัด ลออพันธุ์สกุล สุดยอดของช่างแกะแม่พิมพ์ผู้มากด้วยฝีมือ สนใจเหรียญรุ่นนี้สอบถามได้ที่ วัดถลุงทอง โทร.๐๘-๙๕๙๐-๐๐๔๕, อ้อ เพชรทักษิณ โทร.๐๘-๑๓๔๗-๗๓๑๓ หรือโทร.๐๘-๖๗๙๑-๗๓๓๓

 ** ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย งานประกวดพระ ที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน จัดโดย กองกำลังทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒ อาสาช่วยรบทหารพราน กองทัพบก ๑ นำชัยชนะ ดีวิ ประธานจัดงาน บอกว่าได้ยอดเงินทั้งหมดประมาณ ๓ ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะได้นำเงินส่วนที่เหลือไปใช้จ่ายเป็นการกุศลตามที่แจ้งไว้ต่อไป  และขอฝากขอบพระคุณกรรมการทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือตลอดงาน รวมทั้งทุกท่านที่นำพระเครื่องไปส่งเข้าประกวด สำหรับหนังสือรางวัลงานนี้ จัดทำได้ดีมาก ภาพพระหลักยอดนิยมแท้และสวยงามคมชัด ถูกใจคนที่ได้รับโดยทั่วกัน ใครอยากได้หนังสือเล่มนี้ ตอนนี้ก็ต้องไปหาซื้อเอาเอง ตามร้านหนังสือในสนามพระทุกแห่ง

 ** ขอเชิญร่วม พิธีบูชาครู และ พิธีครอบเศียรบรมครูมหาสิปปคุรุ และ ท่านนรีกุมมา โดยศิษย์ผู้สืบสานพุทธามหาเวทย์ ตำรับพม่า+มอญ ของ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม โดย พระครูอาทรกาญจนกิจ (หลวงพ่อหอม บุปผรัมโม) วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อายุ ๗๘ ปี ซึ่ง หลวงพ่อหอม ได้เรียนมาจากพม่า มนต์วิชานี้มีความศักดิ์สิทธิ์ อธิษฐานสิ่งใดก็มักจะสมความปรารถนาในสิ่งนั้น นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนคาถาอาคมต่างๆ กับ หลวงพ่ออุตตมะ อีกด้วย ศิษยานุศิษย์และผู้ศรัทธาสนใจ ร่วมพิธีนี้ได้ในวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มิถุนายน) เวลา ๑๒.๓๐-๑๘.๓๐ น.ที่ ร้านต้นศรัทธา ซอยประดิพัทธ์ ๒๑ สะพานควาย กทม. โทร.๐๘-๙๗๙๙-๘๕๕๑, ๐๘-๖๓๖๖-๘๕๒๙ มีวัตถุมงคลแจกฟรี ! แก่ผู้ร่วมพิธีทุกท่าน ** พบกับ "คมเลนส์ส่องพระ" ได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้...นะมัสเต ***