พระเครื่อง

ก้าววิเวก(๑)ก้าวไปในความคิด

ก้าววิเวก(๑)ก้าวไปในความคิด

15 ม.ค. 2557

ก้าววิเวก(๑)ก้าวไปในความคิด : ธรรมะยู-เทิร์น/ก้าววิเวก(๑) โดยอิทธิโชโต

              เส้นทางชีวิตของคนคนหนึ่ง ใช่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญก็หาไม่ หากแต่บางทีก็ดูเหมือนบังเอิญเสียเหลือเกิน จนเราเองเมื่อย้อนกลับมาคิดพิจารณาถึงวันวานก็อดที่จะขอบคุณพ่อไม่ได้

              หากพ่อไม่ต้องการให้เราเรียนหนังสือ ไม่ต้องการให้บวชตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เมื่อครั้งที่เคยคิดจะบวช ก็คงไม่มีจุดเปลี่ยนในวันที่ไม่อยากบวช แต่ต้องบวช และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านไป ๒๐ ปีแล้ว

              อยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังก้าวเดินบนหนทางธรรม อย่าได้ท้อแท้แม้ว่าจะบวชโดยไม่ได้ตั้งใจเพียงระยะสั้นๆ แต่หากตั้งใจปฏิบัติ อย่ามองถึงอนาคตที่จะสึกมาก ให้อยู่กับการภาวนาในปัจจุบันขณะ ความสุขทางใจย่อมปรากฏให้เรามีเครื่องอยู่ และอยู่ได้อย่างสบายใจในวิถีชีวิตของผู้ใฝ่ธรรม เมื่อการภาวนาผ่านพ้นไปได้ระยะหนึ่ง
 
              ดังที่พุทธพจน์กล่าวว่า ขตฺติโย เสฏฺโฐ ชเนตสฺมิง เย โคตฺตปฏิสาริโน คนล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร
 
              เราเอง เมื่อยี่สิบปีก่อน ต้องเข้ามาอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาด้วยความจำใจ ก็ทดลองกับตนเองดู ครั้งแรก ออกเดินไปตามความคิดของตัวเอง ตอนนั้นยังไม่มีใครบอก ใครสอน แต่การเดินในระยะไกล ได้ผลบ้างเหมือนกัน ไว้จะเล่าให้ฟัง แต่ในตอนก่อนบวชเป็นหนุ่มอายุ ๑๗-๑๘ ปี ไม่อยากบวช เพราะมีเพื่อนชายเพื่อนหญิง แต่ต้องบวชกองบุญ อุทิศให้คุณตาที่เสียชีวิต ญาติๆ น้าๆ ทางคุณตาเขามาขอให้บวช เราก็คิดว่า เอาเถอะ เสร็จงานแล้วค่อยสึก บวชตอนเช้า พระอุปัชฌาย์มาที่บ้านเราใน จ.อุดรธานี

              บวชแล้วก็นึกว่าเขาจะให้อยู่ที่บ้านคุณตา พอบวชเสร็จ พี่ๆ น้าๆ อาๆ ก็บอกให้หลวงปู่ที่เป็นเพื่อนกับคุณตาพาไปอยู่ด้วยเลย เราก็คิดว่า อ้าว นี่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงนี่นะ ตอนนั้นกำลังมีความรักด้วย สงสารผู้หญิงก็สงสาร เขาก็มาช่วยงานทำบุญที่บ้าน ตอนที่หลวงปู่พาไป เราก็พูดไม่ออก ใจก็คิดว่าจะบอกผู้หญิงอย่างไรดี ในที่สุดก็ไม่ได้บอกเขา บอกแค่ว่า บวชก็บวช เดี๋ยวก็สึก

              ผู้หญิงก็มองตาม เราก็นั่งรถไปกับหลวงปู่ มานึกถึงตอนนี้ก็น่าสงสาร ผู้หญิงอายุห่างจากเราปีเดียว พอบวชแล้วความอยากสึกแรงมาก แต่เราก็พอคิดเป็น อาจเป็นเพราะตอนเป็นเด็กอยู่ชั้น ป.๒ ก็ไปเป็นเด็กวัดแล้ว อยู่กับพระ อยู่กับครูบาอาจารย์มาตลอด ท่านก็สอนให้รู้จักคิด ก็คิดว่า เอ บวชมาแค่ ๗ วัน ทำไมทรมานมาก อยากจะสึก คิดถึงเพื่อน คิดถึงแฟน ทำไมคิดถึงเขาล่ะ แล้วเขาคิดถึงเราบ้างไหม หรือว่าเราอยากไปหาเขาอย่างเดียว

              มันมีความคิดต่อต้านกัน หักล้างกันเองขึ้นมาว่า เราคิดถึงเขาฝ่ายเดียว แล้วเขาคิดถึงเราบ้างไหม ถ้าอยากรู้ว่า เขาคิดถึงเราไหม เราก็รอดูว่า ถ้าเขาคิดถึงเราก็ต้องมาหาเราที่วัดสิ รอมาเป็นเดือน เป็นปี เขาก็ไม่มาหา แสดงว่า เราคิดถึงเขาฝ่ายเดียวสิ

              นี่แหละ จุดเปลี่ยนของชีวิตในการภาวนาจริงๆ จังๆ จึงได้เริ่มต้นขึ้น

              (ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า)