รศ.เกริกเลี้ยงกุมารไว้ดูแล'พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น' | คมชัดลึก

              "คนที่เล่นและสะสมของเก่า มีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า เมื่อได้เห็นของบางอย่างหากตั้งจิตอธิฐานว่าสักวันต้องมาเป็นของเรา ในที่สุดวันหนึ่งของสิ่งนั้นก็กลับมาเป็นของเรา ของที่โชว์ในพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นมีอยู่หลายชิ้นที่ได้มาด้วยการอธิฐานจิต อย่างกับของเล่นเซลลูลอยด์บางชิ้นอายุกว่าร้อยปีไม่เคยคิดมาก่อนว่าเมืองไทยจะมีเห็นแต่ในรูป เมื่อทำพิพิธภัณฑ์ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าของเล่นเด็กที่ขึ้นชื่อว่าหายากระดับโลกก็เข้ามารวมอยู่ในที่เดียวกัน "

นี่คือเหตุอัศจรรย์จากคำบอกเล่าของ รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และเจ้าของพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ ๔๕ หมู่ ๒ ต.ท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา

              รศ. เกริก บอกว่า แรกเริ่มเมื่อเปิดพิพิธภัณฑ์ใหม่ๆ มีคนเอาของเล่นที่ขึ้นชื่อว่าสุดยอดปรารถนาของนักสะสมของเล่นเด็กระดับโลกนำมาขายให้ กว่า ๓๐ ชิ้น ที่สำคัญ คือ ราคาไม่ได้แพงเหมือนกับที่ท้องตลาดมีการตั้งราคากันราวกับว่าเป็นความฝันแต่มันเป็นจริง ทำให้ผมเชื่อว่าพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยกันนำพาของเล่นที่ขึ้นชื่อว่าหายากระดับโลกมาอยู่ร่วมกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคนเกิดขึ้น คือ อาถรรพ์ หรือ วิญญาณของเข้าของเดิมที่ดิตมากับของเล่น ตุ๊กตาที่มีอยู่นับพันตัวไม่เคยมีตัวไหนออกมาเดินเพ่นพ่านเหมือนในภาพยนตร์เลยสักตัว บางตัวมีอายุเกือบร้อยปีเมื่อมาอยู่พิพิธภัณฑ์ไม่เห็นมีอะไรเลย

              สำหรับของสะสมที่คิดว่ามีอาถรรพ์ คือ กุมารทอง และ นางกวัก ซึ่งเป็นเรื่องของความเชื่อและคติชนของชาวบ้าน ที่พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นมีกุมารทองตนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งทุกๆ วันจะต้องถวายของเซ่นไหว้ เช่น ถวายน้ำแดง น้ำเขียว รวมทั้งผลไม้ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งกุมารทอง และกวัก ทำให้คนมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นอย่างไม่ขาด เรียกว่า ช่วยให้พิพิธภัณฑ์ยืนอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้

              "ในวรรณคดีขุนช่างขุนแผนยังมีกุมารทองไว้เป็นพรายกระซิบบอกเหตุ ในเมื่อเราเป็นคนไทยไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมีความเชื่อตามคติชนชาวบ้านซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดมาหลายร้อยปี อย่างน้อยก็เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเราไม่ให้แกว่ง มีกุมารทองอยู่ตนหนึ่งที่ขึ้นเชื่อว่า ฝากพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นไว้ได้อย่างสบายใจ ของเล่นที่นี่ไม่เยหายเลยสักชิ้น ขณะเดียวกันเด็กมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่เคยมีเรื่อเล่าว่าเจอวิญญาณในของเล่น ทุกครั้งที่ถวายของเซ่นไหว้จะอธิฐานจิต บอกตงๆ ว่า ช่วยกันดูแลพิพิธภัณฑ์ไม่ให้มีอันตรายใดๆ" รศ.เกริก กล่าว

พิพิธภัณฑ์"นางกวัก"

              ภายในพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๒ ส่วน คือส่วนด้านนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดเป็นสวน พักผ่อน ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ มีของเล่นเป็นม้าโยก ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า และบริเวณ สวนให้  น้องๆ หนูๆ  ได้สนุกสนานกับการเล่นดังกล่าว รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเราๆ ได้ย้อนอดีตใน วัยเยาว์อีกครั้ง

              ชั้นล่างของอาคารจัดแสดงของเล่นไทยยุคเก่าอายุกว่า ๗๐๐ ปี ในสมัยสุโขทัย อยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ มีทั้งตุ๊กตาดินเผา กระปุก ออมสินดินเผา ฯลฯ และมีพวกข้าวของเครื่องใช้คนไทยยุคโบราณ ตั้งแต่ ๑๐๐ ปีย้อยลงมาถึง ๓๐ ปีที่แล้ว มีของโชว์มากมาย และมีการจัดแสดงใส่ตู้โชว์อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ของโบราณที่ชวนชมมีมากมาย อาทิ เครื่องเงิน ภาพพิมพ์โบราณ เครื่องแก้วอายุหลายร้อยปี ปิ่นโตเก่าลายสวยงาม งานทองเหลือง วิทยุโบราณ สิ่งพิมพ์ยุคแรกของคนไทย หนังสือเก่า เครื่องเรือนโบราณ โปสการ์ด จดหมายในยุคแรกที่เริ่มมี การไปรษณีย์ ฯลฯและที่ชั้นล่างนี้ยังมีการจัดแสดงภาพวาดลวดลายสวยงามน่ารัก ที่เป็นฝีมือของอ.เกริก นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางของขลัง ทั้งพระบูชา พระเครื่อง ที่เด่นสะดุดตามากเป็นพิเศษ คือ นางกวัก หลายขนาดหลากฝีมือช่าง มีมากชนิดที่เรียกว่า พอๆ กับตุ๊กตาเด็กเล่นที่สะสม

              ส่วนที่สองคืออาคารพิพิธภัณฑ์เป็นที่จัดแสดงของเล่เด็ก ที่ รศ. เกริก ได้ใช้เวลากว่า ๒๐ ปี ในการสะสม เช่น โมเดลการ์ตูนขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอุลตร้าแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน เจ้าหนูอะตอม และอีกหลากหลายตัวที่คอยยืนต้อนรับทุกคนอยู่ และก็จะได้พบกับเหล่าของเล่นจำนวนมากมาย ที่ถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจก อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยดูละลานตาไปหมด จัดแสดงเป็นหมวดหมู่ ไร่เรียงไป ตั้งแต่ของเล่นสมัยเก่าไปจนถึงของเล่นสมัยใหม่ โดยมีพวกของเล่นสมัยเก่าให้ดูเป็นจำนวนมากและหลากรูปแบบ อาทิ

              ของเล่น สังกะสีสารพัดรูปแบบ มีทั้งหุ่นยนต์สังกะสีที่มีกลไก รถยนต์-เรือ-รถไฟสังกะสีที่มีสีสันสวยงาม มีตุ๊กตาเซลลูลอยด์ สารพัดแบบ ตุ๊กตาสัตว์ไขลาน ของเล่นที่ทำจากดิน ไม้ ผ้า ของเล่นที่ใช้ถ่าน และอีกหลาก หลายของเล่นที่หาดูได้ยากแต่ที่นี่มีให้ดู รวมไปถึงมีของเล่นสมัยใหม่ที่เด็กๆ ชื่นชอบให้ได้ดูกันด้วย

              พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ -๑๖.๐๐ น. ยกเว้นวันจันทร์ อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ ๕๐ บาท เด็ก ๒๐  บาท ชาวต่างชาติ ๑๐๐ บาท กิจกรรมน่าสนใจในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๑.๓๐ น. เป็นเรื่องศิลปะเด็ก กิจกรรมสำหรับเด็ก ชั่วโมงนิทาน กิจกรรมสร้างสรรค์ วาดรูป ภาพพิมพ์ ปั้นดิน และศิลปะประดิษฐ์ เพื่อเป็นการปลูกฝัง ความรู้ ความคิด และจินตนาการ

"ธรรมะ"ในวรรณกรรมเด็ก

              นอกจากจะเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก แล้ว รศ. เกริก ยังเป็นนักวาดภาพประกอบ และคนทำหนังสือสำหรับเด็ก มีผลงานหนังสือภาพจำนวนมากมายกว่า ๒๐๐ เล่ม และเคยได้รับรางวัลนอมา(NOMA) ประเทศญี่ปุ่น จากผลงานเรื่อง "ชาวนาไทย" เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งจากรางวัลนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดความคิด อยากสร้างพิพิธภัณฑ์ของเล่น ขึ้นในเมืองไทย

              รศ. เกริก บอกว่า สิ่งหนึ่งที่สร้างความภูมิใจให้กับตนเองในฐานะอาจารย์ประจำสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก ลูกศิษย์ที่สอนแล้วจบออกไปได้ทำงานที่เกี่ยวกับวรรณกรรมเด็ก หรือผลิตสื่อที่เกี่ยวกับเด็กเกือบ ๑๐๐%

              ส่วนการใส่ธรรมะในวรรณกรรมเด็กนั้น รศ. เกริก บอกว่า ต้องเป็นเรื่องเดียว ประเด็นเดียว ต้องไม่ซับซ้อนให้ต้องคิด และ หักมุม ใช้ภาษาง่ายๆ แขวงด้วยความสนุก ภาพที่เหมาะสำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความเมตตา ความรัก ความมีน้ำใจ ความกตัญญู รวมทั้งความรู้จักพอ สิ่งเหล่านนี้ถือว่าเป็นธรรมะง่ายๆ สำหรับเด็ก

              "ก่อนที่จะเป็นนักเขียน นักวาดภาพเพื่อเด็ก รวมทั้งสร้างสรรค์งานเพื่อเด็ก ต้องมีความเข้าใจในศาสตร์ที่เรียกว่า วรรณกรรมสำหรับเด็กก่อน การเขียนเรื่องต้องเข้าใจภาษาก่อน ทุกวันนี้มีคนอยากทำวรรณกรรมเด็กแต่ไม่มีใครศึกษาการเขียนวรรณกรรมเด็กอย่างจริงจัง ทุกวันนี้หนังสือที่เรียวกว่าวรรณกรรมเด็กมีมาก แต่คุณภาพนั้นต้องบอกว่าผู้ปกครองต้องคัดกรอง" รศ. เกริก กล่าวแนะนำ