พระเครื่อง

สร้างกุฏิถวายพระสงฆ์ทั่วไทย

สร้างกุฏิถวายพระสงฆ์ทั่วไทย

09 ม.ค. 2557

สร้างกุฏิถวายพระสงฆ์ทั่วไทย : เส้นทางบุญ โดยบุญนำพา

              พระอาจารย์ ดร.คมสรณ์ พระธรรมทูตไทย สายประเทศอินเดีย ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมบุญสนับสนุนการก่อสร้างกุฏิถวายพระสงฆ์ทั่วไทย ราคาประหยัด เพื่อถวายวัดต่างๆ ขนาด ๑๒๐ ตารางวา ๒ ห้องจำวัด ๒ ห้องน้ำ มีที่เดินจงกรม เจริญภาวนา ราคาหลังละ ๓ แสนบาท ระยะเวลาสร้างหลังละ ๒ เดือน หลังเล็กกว่านี้ราคาลดตามความเป็นจริง ก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ ด้วยปูน "นาโน" เทคโนโลยีใหม่จากประเทศมาเลเซีย ประหยัด ออกแบบประยุกต์ตามความเหมาะสมของพื้นที่ เรียบง่าย ทนทาน กันความร้อน ทนไฟระดับ ๑,๐๐๐ องศาได้นาน ๓๐ นาที กันปลวกแมลงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยวางโครงการสร้างถวายวัดต่างๆ เท่าจำนวนผู้บริจาค พร้อมสลักชื่อเจ้าภาพให้ทุกหลัง เมื่อสร้างเสร็จแล้ว พระอาจารย์ ดร.คมสรณ์ จะเป็นผู้นำในการประกอบพิธีถวายเสนาสนะสงฆ์ด้วยตนเอง

ร่วมบุญซื้อที่ดินในอินเดีย

              ปี ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา พระอาจารย์ ดร.คมสรณ์  มีความตั้งใจว่าจะกู้แผ่นดินถวายเป็นพุทธบูชา จากเมืองสาวัตถี ถึงภูเขาหิมาลัย โดยเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ได้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้าง "วัดบุพพาราม" เมืองสาวัตถี อีก ๖ ไร่เศษ เพื่อเป็นอนุสรณ์ "นางวิสาขามหาอุบาสิกา" ผู้เป็นเลิศกว่าอุบาสิกาทั้งปวงผู้ถวายทาน เป็นส่วนขยายจากเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ ๙ ไร่ วัดแห่งนี้จักเน้นความเป็น "อรัญญวาสี" อันเป็นสัปปายะแก่ผู้ใคร่ความสงบทั้งหลาย และจักเป็นโอกาสเหล่าบรรดาลูกหลานนางวิสาขาทั้งหลาย จักได้มาร่วมสร้างวัดแห่งนี้กัน...ปี ๒๕๕๖ พระอาจารย์ ดร.คมสรณ์ ได้ดำเนินการซื้อทั้งที่ด่านโสเนารี กุสินารา และสาวัตถี รวมๆ แล้วประมาณเกือบ ๒๐ ไร่ เพื่อ "กู้แผ่นดินถวายพระพุทธเจ้า" ให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาต่อไป...ขอศาสนาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงเจริญมั่นคง สถิตสถาพรทั่วทั้งชมพูทวีปอีกครั้ง ตราบนานเท่านานเทอญฯ

              ทั้ง ๒ รายการบุญนี้ ศรัทธาสาธุนสนใจติดได้โดยแจ้งผ่านเฟซบุ๊ก "ชีวิตและงานท่านคมสรณ์" หรือที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ (๙๕๐) ประเทศอินเดีย...มูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ๓๗๓/๔-๕ ซอยรามคำแหง ๓๙ แยก ๗ (ซอยวัดเทพลีลา) เขตวังทองหลาง กทม.๑๐๑๓๐ โทร.๐-๒๑๘๔-๔๕๓๙-๔๐ Email

บูชาพระพุทธเจ้าเปิดโลก

              วัดร่องคือ จ.พะเยา ได้จัดสร้าง "พระพุทธเจ้าเปิดโลก" รุ่น "เปิดโลก เปิดปัญญา มหาบารมี" เพื่อเป็นกองทุนซื้อที่ดินสร้างอาคารปฏิบัติธรรม และที่พักผู้ปฏิบัติธรรม ณ สำนักปฏิบัติธรรมประจำ จ.พะเยา แห่งที่ ๘ ภายในวัดร่องคือ

              พระรุ่นนี้นับเป็นรุ่นประวัติศาสตร์ ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ และเข้มขลังด้วยอภิญญาฤทธิ์พุทธคุณ เป็นพระพิมพ์สวย มวลสารดี พิธีขลัง พระคณาจารย์ดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก  โดยจะจัดพิธีมหาพุทธาภิเษกในวันพฤหัสบดีที่ ๖ ถึงวันเสาร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ รวม ๕ วาระ ณ มณฑลพิธีวัดร่องคือ โดยมีพระคณาจารย์ชื่อดังของล้านนานั่งปรกอธิษฐานจิต พร้อมกับพระคณาจารย์จากทั่วทุกภาคของเมืองไทย

              พระที่จัดสร้างประกอบด้วยเนื้อทองคำ (ตามสั่งจอง), เนื้อเงิน (ตามสั่งจอง), เนื้อนวโลหะ ๔๙๙ องค์, เนื้อบุษราคัมรมดำ ๑,๔๙๙ องค์ และเนื้อทับทิมรมดำ ๑,๔๙๙ องค์

              พระรุ่นนี้ออกแบบได้งดงามประณีตมากขนาดกว้าง ๒ ซม. สูง ๓.๕ ซม. หนา ๒ มม. ติดต่อสั่งจองได้ที่วัดร่องคือ ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา ๕๖๐๐๐ โทร.๐๘-๕๖๒๒-๙๑๔๖(พระอดิศักดิ์), ๐๘-๗๗๘๖-๕๖๒๒ (คุณณัฐพสิษฐ์) พระครูประยุตศุภการ เจ้าอาวาสวัดร่องคือ เจ้าคณะตำบลแม่ปืม เขต ๒ เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดพะเยาแห่งที่ ๘ วัดร่องคือ เป็นประธานในการจัดสร้างพระเครื่องรุ่นนี้

              ผู้ร่วมทำบุญจัดสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมจะได้อานิสงส์ในการเปิดรับแสงสว่างแห่งความรู้ เปิดปัญญา เปิดความร่ำรวย เปิดรับความมั่งมีศรีสุข เปิดทางสว่างให้ชีวิตให้พบแต่สิ่งที่ดีงาม ความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองตลอดชีวิต

บุคคลแห่งปี

              ช่างภาพเครือเนชั่น ผู้มีผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ได้รับหน้าที่ติดตามข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบใน ๓ จังหวัดภาคใต้ ได้เขียนไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า... ๑๐ ปีไฟใต้ หากมีการคัดเลือก บุคคลแห่งปี หรือ แห่ง ๑๐ ปีชายแดนใต้ จะมอบรางวัลให้ใครดี ผมคนหนึ่งที่ไม่ลังเลเลยที่จะมอบให้สมณะผู้ครองผ้าเหลืองท่านนี้...พระครูพิทักษ์สุวรรณากรหรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ท่านรัญ หรือ พ่อหลวงรัญ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณากร (วัดบ่อทอง) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ...พระชาวบ้านธรรมดาๆ รูปหนึ่ง นอกจากจะเป็นบุคคลสำคัญในการส่งเสริมเผยแพร่พระพุทธศาสนาในพื้นที่แล้ว ท่านยังมีวัตรปฏิบัติในกิจที่สงฆ์พึงกระทำ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่สาธุชนทั่วไปอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง...ตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ เป็นต้นมา นับตั้งแต่สถานการณ์ไฟใต้รุนแรงจนถึงปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องปฏิบัติจนกลายเป็นกิจประจำ หรือเป็นหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งน้อยพระนักที่จะเป็นเหมือนท่าน คือ จะเป็นผู้ประกอบพิธีทางศาสนา นำทางส่งร่างอันไร้วิญญาณของผู้กล้า ที่จบภารกิจดับไฟใต้ของตนเอง ก่อนเวลาอันควร ขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน ที่สนามบินปัตตานี เพราะวัดอยู่ตรงข้ามกับสนามบิน

              เคยถามหลวงพ่อว่า ท่านส่งศพทหาร ตำรวจ มาแล้วกี่ศพ ท่านนิ่งอึ้งอยู่สักครู่ แล้วตอบว่า จำไม่ได้ แต่ไม่ต่ำกว่าร้อย...เลยเรียกกันติดปากว่า "หลวงพ่อร้อยศพ"  แม้จะเป็นคำเรียกกึ่งขันๆ แต่แฝงไฟด้วยความเศร้าที่พูดไม่ออก ตราบใดที่สถานการณ์ความรุนแรงยังไม่สงบ หลวงพ่อต้องเพิ่มสถิติให้ตนเองไปเรื่อยๆ โดยไม่มีพระคู่แข่งแม้แต่รูปเดียว

              ๑๐ ปีไฟใต้ เป็น ๑๐ ปี ที่อีกหลายเรื่องราวดำเนินไปพร้อมๆ กับ ความสูญเสีย รอยเลือด และคราบน้ำตา