ต้อย เทอร์โบกับปาฏิหาริย์'ร่างทรงหลวงปู่ทวด' | คมชัดลึก

               "ต้อย เทอร์โบ" เป็นฉายานามของ "นายธีปกร ชัยทองบุญมา" เจ้าของธุรกิจเทอร์โบ รุ่นแรกๆ ของประเทศไทย ว่ากันว่า ร้านเทอร์โบในกรุงเทพฯ กว่าครึ่งหนึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ผ่านการฝึกฝนจากมือของ ต้อย เทอร์โบ ซึ่งคร่ำหวดอยู่ในวงการเทอร์โบมากว่า ๓๐ ปี ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๖ เขาเคยได้แชมป์ประเทศไทยในการการแข่งขันรถกระบะทางเรียบเภทโอเพ่นที่สนามพีระเซอร์กิต ในชื่อ "เดชา ทองบุญมา" มีถ้วยรางวัลการันตี และยืนยันความสามารถหลายร้อยใบโชว์อยู่ในร้าน

               จากนั้น ต้อย เทอร์โบ ก็วนเวียนอยู่ในวงการแข่งรถมาตลอด ทั้งเป็นนักขับเองและอยู่เบื้องหลัง จนเป็นที่เล่าขานในวงการแข่งรถกระบะชนิดที่เรียกว่า "ไม่มีใครกล้าลงแข่งเดิมพัน" และเพิ่งวางมือจากการอยู่เบื้องหลังการแข่งรถเมือ พ.ศ.๒๕๕๒ ที่ผ่านมานี้เอง

               "ตอนที่แข่งรถนั้นผมไม่เคยแขวนหรือพกพระอะไรเลย เพราะไม่เชื่อ หลายครั้งที่เกิดแบัติเหตุบาตเจ็บ กระดูกหักหลายครั้ง มาวันนี้ถ้าขับรถโดยไม่แขวนพระหลวงปู่ทวดคไม่กล้าขับไปไหนไกลๆ ทุกวันนี้ทีมรถแข่งทุกทีมตั้องมีพระหลวงปู่ทวดไว้ในรถ รวมทั้งพระอื่นสุดแล้วแต่ใคร หรือทีมไหนศรัทธาพระองค์ใด เสียดายที่ผมเชื่อช้าไปหน่อย ถ้าเชื่อก่อนหน้านี้คงไม่เจ็บ และคงไม่เดือดร้อยใดๆ" นี่เป็นคำยืนยันของ ต้อย เทอร์โบ

               สำหรับที่มาของการเป็นร่างทรงหลวงปู่ทวดนั้น ต้อย เทอร์โบ เล่าให้ฟังว่า เคยเจ็บ เคยปวดหลัง ซึ่งเป็นผลพวงจากอุบัติเหตุแข่งรถมาหลายปี ที่ไหนมีหมอดีมีหมอเก่งก็รักษาไม่หาย เคยไปท้ากับร้างทรงองค์เจ้าว่า ถ้าทำให้หายขาดได้จะรับเป็นร่างทรงองค์เจ้า ไม่น่าเชื่อเลยว่าหลังจากรับขันอาการที่เป็นอยู่หายชนิดที่เรียกว่า อัศจรรย์ใจ"

               นอกจากนี้แล้วสมัยก่อนไปไหนมาไหนใครๆ ก็เรียกเสี่ยต้อย แต่ดวงผลิกฝันทรัพย์สมบัติ เงิน และรถที่มีเกือบ ๑๐ คัน รวมทั้งเมีย ต้องเสียไป โดยไม่มีเหตุผล แต่ภายหลังที่รับเป็นองค์ทรงหลวงปู่ทวด ชีวิตพลิกผันอีกครั้ง วันนี้แม้จะไม่มีใครเรียกว่าเสี่ยต้อย แต่ชีวิตก็กลับเป็นเช่นเดิม

               ส่วนพระเครื่องที่มีอยู่ในร้านซึ่งมากกว่าเทอร์โบนั้น ต้อย เทอร์โบ บอกว่า ไม่ได้เช่าและไม่ได้ซื้อมาเลยสักองค์ พระทั้งหมดมีทั้งได้มาจากคนที่รู้จักมักคุ้นกัน และไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยก็มี อย่างกับพระองค์แรกที่ได้มา เป็นพระเชียงแสนมีคนอุ้มทองนำพระมาให้ตอนตี ๕ จากนั้นก็มีพระเข้ามาเรื่อย โดยเฉพาะจากรู้ค้าที่มาซื้อและมาซ่อมเทอร์โบที่ร้าน เก็บไปเก็บมาจนกลายเป็นว่าพื้นที่ของร้านมีพระตั้งอยู่ ๙๐% โดยได้ขยับขยายพื้นที่ตั้งพระมาแล้ว ๖ ครั้ง เรียกว่า "ร้านรับเช่าซื้อพระยังมีพระน้อยกว่าร้ายขายเทอร์โบ"

               เมื่อถามถึงปาฏิหาริย์ ต้อย เทอร์โบ บอกว่า พระหลวงปู่ทวดถือว่าสุดยอดของปาฏิหาริย์สมคำร่ำลือที่ว่า แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง ทั้งนี้ ครั้งหนึ่งเคยขับรถไปชนประงานงากับรถพ่วง ๑๘ ล้อ ชนิดที่เรียกว่ว ใครๆ เห็นรถต้องคิดว่าคนขับศพไม่สวยเป็นแน่ แต่ที่ไหนได้ตนเองได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ถึงกับต้องไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ 

               "ก่อนหน้านี้ไม่มีความเชื่อเรื่องพุทธคุณในพระเครื่อง ยิ่งเรื่องร่างทรงนอกจากไม่เชื่อแล้วยังต่อต้านอีก เคยแตะร่างทรงมาแล้วหลายครั้ง ทุกวันนี้ขาที่เคยเตะร่างทรงไว้กลับเจ็บปวดโดยไม่มีอาการมาก่อน และเมื่อได้สัมผัสแล้วสิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เคยลบหลู่ไว้นั้นมีอยู่จริง" ต้อย เทอร์โบ พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิด

               อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนด หรือข้อปฏิบัติของร่างทรง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้อย เทอร์โบ ปฏิบัติมาตั้งแต่รับองค์เป็นร่างทรงหลวงปู่ทวด คือ ถือศีล ๘ กินเจทุกวันพฤหัสบดี และวันพระ รวมทั้งเลิกอบายมุขทุกอย่าง นอกจากนี้แล้วทุกๆ วัน ต้องสวดมนต์นั่งสมาธิไม่ต่ำกว่าวันละ ๑ ชั่วโมง ขณะเดียวกันเมื่อว่างเว้นจากงานซ่อมและติดตั้งเทอร์โบเขาจะเดินทางไปไหว้พระ รวมทั้งปฏิบัติธรรม