
คำรณ สัยยะนิฐิ
วงการพระเครื่องในทุกวันนี้ มีเซียนพระระดับแนวหน้าหลายท่าน ที่ก้าวผ่านอาชีพอื่นมาก่อน แล้วถึงมาประสบพบกับความสำเร็จในธุรกิจซื้อขายพระเครื่องจนมีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะผู้ที่เคยทำอาชีพทนายความ
หนึ่งในนั้นก็คือ คำรณ สัยยะนิฐิ เจ้าของศูนย์พระเครื่องธนบุรี แหล่งรวมพระหลักยอดนิยมทุกประเภท ที่มีหลักประกันว่า พระที่มีอยู่ในร้าน ล้วนเป็นพระแท้ทุกองค์
ด้วยเกียรติภูมิอันนี้ จึงทำให้ชื่อเสียงของ คำรณ สัยยะนิฐิ เป็นที่รู้จักและได้รับความเชื่อถือจากนักสะสมพระอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะข้าราชการผู้ใหญ่ ผู้บริหารองค์กร พ่อค้า นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย
"ผมสนใจเรื่องพระมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนอยู่ที่บ้านเกิด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะคุณปู่คุณย่าเป็นลูกหลานของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่บ้านจึงมีพระหลวงพ่อปานมากมาย ในบางครั้งเคยไปคุ้ยเขี่ยพื้นดินที่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อปานเคยใช้ในการเผาพระ ก็ยังพบพระที่ท่านสร้างขึ้นอยู่บ่อยๆ" คำรณ เล่าย้อนอดีตให้ฟัง
หรือเมื่อครั้งที่มีการขุดพบ พระหลวงพ่อโต ที่ วัดบางกระทิง ซึ่งฝังกรุใต้ฐานชุกชีพระประธานในโบสถ์ คำรณก็ยังเคยไปค้นหาพระกับเขาด้วย สมัยนั้นได้พระมากมายเป็นเข่งๆ ใส่เต็มลำเรือ มีชาวบ้านเอามาขายที่ตลาดบ้านแพน องค์ละ ๕ บาทเท่านั้น นับเป็นเรื่องที่คำรณยังจดจำได้ จนทุกวันนี้
หลังจากที่ได้เรียนหนังสือจนจบชั้นมัธยมที่บ้านแล้ว คำรณได้เข้าเรียนต่อที่ ม.รามคำแหง จนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ แล้วจึงไปเรียนต่อเนติบัณฑิต ซึ่งสมัยนั้นสถาบันตั้งอยู่แถวศาลข้างสนามหลวง
ด้วยความสนใจในเรื่องพระเครื่องมาก่อนแล้ว ดังนั้นเมื่อเลิกเรียนที่เนติบัณฑิต ก็ข้ามถนนผ่านสนามหลวง ไปยังสนามพระท่าพระจันทร์ ไปดูพระที่เขาวางขายกันอย่างมากมาย องค์ไหนที่ชอบก็ขอซื้อไว้ เพื่อเอาไปศึกษา ร้านที่ได้ซื้อพระบ่อยๆ คือ ร้านของเฮียตี๋เหล้า ร้านเฮียบิ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่วางใจได้ พระที่ได้ไปจึงล้วนเป็นพระแท้ทุกองค์ ก็ได้อาศัยศึกษาเป็นองค์ครูอยู่เสมอๆ จนทำให้มีความรู้ทางด้านนี้มากขึ้น อะไรที่ไม่รู้ก็สอบถามผู้ใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะให้คำแนะนำที่ดีเสมอ เพราะเราเป็นลูกค้าประจำของเขาอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร
จากการเข้าออกสนามพระท่าพระจันทร์อยู่เสมอๆ จึงทำให้รู้จักเซียนพระหลายๆ ท่าน พร้อมกับการศึกษาเรื่องพระไปในตัว ขณะเดียวกันก็ได้ซื้อพระเอาไว้จำนวนมากพอสมควร เพราะซื้อเก็บอย่างเดียว ไม่ได้เอาไปปล่อยต่อให้ใครที่ไหน
เมื่อเรียนจบเนติบัณฑิตแล้ว คำรณได้ไปเปิดสำนักงานทนายความขึ้นที่ปากซอยพณิชยการธนบุรี ถนนจรัญสนิทวงศ์ พร้อมกับเปิด ศูนย์พระเครื่องธนบุรี ขึ้นพร้อมกัน เมื่อปี ๒๕๒๗ โดยคิดว่า จะได้รับงานคดีความจากบรรดาคนในวงการพระด้วยกัน
ส่วนศูนย์พระนั้น ตั้งใจเปิดขึ้นเพื่อเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์กับผู้คนในวงการพระ ซึ่งสมัยนั้นชาวบ้านยังไม่คุ้นกับเรื่องศูนย์พระเครื่องมากนัก
ปรากฏว่า งานคดีความมีเข้ามามากมาย จนต้องเดินทางไปว่าความตามต่างจังหวัดบ่อยๆ บางครั้งติดต่อกันหลายจังหวัด รู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก กว่าจะเสร็จแต่ละคดีกินเวลาหลายเดือน ในขณะที่ค่าตอบแทนได้เพียงไม่กี่หมื่นบาท ซึ่งไม่คุ้มกันเลย จึงเริ่มวางมือ เรื่องคดีความให้เพื่อนรับช่วงไปทำต่อ
ส่วนตัวเองคิดว่า มาลุยทางเรื่องพระเครื่องกันดีกว่า เพราะหาเงินได้ง่ายกว่า และไม่เหน็ดเหนื่อยมากนัก
ต่อมาที่ศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม เปิดตัวโครงการ เห็นว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจ คำรณจึงได้ขอเช่าพื้นที่ ๑ ห้องใหญ่ โดยย้ายศูนย์พระเครื่องธนบุรี จากถนนจรัญสนิทวงศ์ ขึ้นมาอยู่บนห้างดิโอลด์สยาม จนถึงทุกวันนี้
"ลูกค้าประจำของผมส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ผู้บริหาร บริษัทองค์กรใหญ่ พ่อค้า ข้าราชการผู้ใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พอเห็นลงโฆษณาตามหนังสือพระ หรือทางเว็บไซต์ ก็จะติดต่อสอบถามเข้ามา หากพอใจก็จะให้ผมส่งพระไปให้ก่อน ผมก็ส่งไปให้ จากนั้นเขาถึงโอนเงินมาให้ และเมื่อนำพระไปให้คนอื่นดู ก็รู้ว่าเป็นพระแท้พระสวย และราคาไม่แพง นับเป็นสร้างความเชื่อถือให้แก่ลูกค้าคนแล้วคนเล่า จนเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่า คนที่ได้พระจากผมไป จะไม่มีคำว่าผิดหวัง ลูกค้าบางคนถึงกับโอนเงินมาให้ก่อน โดยไม่ได้เห็นองค์พระเลยก็มี คือ เขาเชื่อใจเรามากกว่า ตรงนี้จึงต้องระมัดระวังให้มาก ยิ่งเขาเชื่อถือเรามากเท่าไร เราก็ต้องบริการให้เขาได้รับความพึงพอใจมากเท่านั้น" คำรณ กล่าว
อย่างกรณีของ ท่าน ดร.ไมตรี บุญสูง คหบดีชาวภูเก็ต เพียงเห็นภาพในหนังสือ ก็สั่งให้ส่งพระไปให้เลย โดยไม่ถามราคา และไม่เคยต่อราคาเลย แม้แต่ครั้งเดียว
ครั้งหนึ่ง ท่าน ดร.ไมตรี สั่งให้หาพระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และพระหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก บอกว่า เอาให้ครบทุกอย่างทุกรุ่น และพระอย่างอื่นอีกมากมาย ปีนั้น ท่าน ดร.ไมตรี ซื้อพระจากคำรณไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาท โดยที่ไม่เคยเห็นหน้าตากันเลย ติดต่อกันทางโทรศัพ์เท่านั้น
วันหนึ่ง ท่าน ดร.ไมตรี มายืนดูพระที่หน้าร้าน บอกให้หยิบพระองค์นั้นองค์นี้มากองไว้ จนแทบจะหมดตู้ แล้วถามว่า ทั้งหมดนี้เท่าไร เป็นพระเลี่ยมทองทั้งนั้น ทำเอาคำรณสงสัยมากว่า ท่านผู้นี้เป็นใครกันแน่ ? แต่น้ำเสียงที่พูดนั้นคุ้นๆ หู จึงเรียนถามท่านไปว่า ใช่ท่าน ดร.ไมตรี หรือไม่ ? เมื่อได้รับคำตอบว่า "ใช่" ทำเอาคำรณรู้สึกดีใจมาก ที่ได้มีโอกาสพบตัวจริงเป็นครั้งแรก
ครั้งหนึ่ง มีนักการเมืองใหญ่ชื่อดังท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกค้าของคำรณเช่นกัน ถามว่า ถ้าหากหาพระดีๆ เอาไว้แจกพรรคพวกเพื่อนฝูง และลูกน้อง ควรจะหาพระอะไรดี ?
คำรณแนะนำว่า พระคง ลำพูน และ เหรียญ ร.๕ ซึ่งสมัยนั้นยังไม่แพงมาก ท่านตอบตกลง ให้คำรณหาซื้อมาได้ไม่อั้น เท่าไรก็เอาหมด พร้อมกับสั่งให้เลี่ยมทองให้ด้วย
ผลงานชิ้นนี้ทำเอาคำรณรวยไปหลายล้าน
คำรณ บอกว่า ที่ประสบความสำเร็จตรงจุดนี้ได้ ก็เพราะความซื่อสัตย์สุจริต และจริงใจ กับลูกค้านั่นเอง
ฉะนั้น ใครก็ตามที่คิดว่า จะเดินบนเส้นทางสายนี้อย่างมั่นคง และเจริญรุ่งเรื่องยิ่งๆ ขึ้น ก่อนอื่นต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า และต้องรักษาให้ดีด้วย ถึงจะพบกับความสำเร็จ ตามที่ตั้งความหวังไว้
การศึกษาเรื่องพระ คำรณบอกว่า ต้องหา พระแท้ มาศึกษาโดยตรง จะได้เรียนรู้ง่ายขึ้น วิธีที่จะได้พระแท้ก็ต้องซื้อหาจากผู้ที่น่าเชื่อถือ อย่าไปซื้อพระแบบสะเปะสะปะ หรือหวังของถูกของฟรี เพราะโอกาสที่จะได้พระดีพระแท้มีน้อยมาก
เมื่อได้พระแท้มาแล้ว ก็ต้องศึกษาเรื่องพิมพ์ทรงองค์พระให้แม่น จากนั้นจึงศึกษาเรื่องเนื้อหามวลสารเป็นอันดับต่อไป การได้เห็นพระแท้บ่อยๆ จะทำให้จำได้ติดตา พอไปพบเห็นพระเก๊พระปลอม ก็บอกได้ทันทีว่า ไม่ใช่ เพราะผิดพิมพ์ผิดเนื้อ ฉะนั้น จึงต้องหมั่นดูพระแท้ให้มากๆ แล้วจะเก่งขึ้นเอง
นอกจากนี้ คำรณยังให้ความเห็นด้วยว่า อนาคตวงการพระ เหรียญพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า จะมาแรงสุดๆ เพราะมีข้อยุติ ของปลอมแม้จะทำได้ ก็ไม่เหมือนทั้งหมด ย่อมมีร่องรอยความแตกต่างทิ้งไว้ให้เห็นเสมอ
ทุกวันนี้ เหรียญพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า ราคาจึงพุ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ ใครมีเงินเก็บไว้ในชั่วโมงนี้ รับรองว่า กำไรลูกเดียว
และที่มีบางคนพูดกันมาก ในทุกวันนี้ว่า พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค นั้นท่านไม่ได้สร้างขึ้นเอง แต่เป็นพระกรุเก่าของอยุธยา ที่หลวงพ่อปานเอามาอุดผงทีหลัง จริงหรือไม่ ?
คำรณ บอกว่า "ในฐานะที่ผมเป็นคนรุ่นหลานเหลนของหลวงพ่อปาน ยืนยันได้เลยว่า พระหลวงพ่อปาน เป็นพระที่ท่านสร้างขึ้นเอง คุณปู่คุณทวดเล่าให้ฟัง รวมทั้งคนเก่าแก่แถวที่วัดก็รู้กันทั่ว หลวงพ่อปานท่านให้ช่างกดพิมพ์ และเผาพระกันในบริเวณวัดนั่นแหละ ไม่รู้เหมือนกันว่า คนที่พูดนี้เอาหลักฐานอะไรมากล่าวถึง"
ด้วยเหตุที่คำรณเป็นลูกหลานเหลนของหลวงพ่อปาน ฉะนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คำรณย่อมมีพระหลวงพ่อปานมากเป็นพิเศษ และรู้ลึกรู้กว้างอย่างแท้จริง
หากจะชมพระแท้ๆ พระสวยๆ ตั้งแต่ราคาหลักพัน ไปจนถึงหลัก (หลาย) ล้านบาท ขึ้นไปชมได้ที่ คำรณ สัยยะนิฐิ ศูนย์พระเครื่องธนบุรี ชั้น ๒ ห้อง เอ ๒๐๖ ห้างดิโอลด์สยาม พาหุรัด เฉลิมกรุง กทม.โทร.๐-๒๒๒๔-๔๓๒๗, ๐๘-๑๔๔๑-๑๓๗๙
++++++ ตาล ตันหยง +++++