
'พระคนสนิท'ยัน'เณรคำ'ยังไม่สึก!
พระคนสนิทเข้าพบดีเอสไอ ยัน'เณรคำ'ยังไม่สึก พร้อมสู้คดีใน'สหรัฐ' ปัดไม่เคยซื้อ'รถหรู-เครื่องบินเจ็ต' ด้าน'ทนายความ'ยันร้องศาล หลังดีเอสไอออกหมายจับไม่ชอบ
3 ส.ค. 56 พระฐกฤต กัณตธัมโม ประชาสัมพันธ์สำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม และโฆษกประจำตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก (หลวงปู่เณรคำ) พร้อมด้วยนายสุกิจ พูลศรีเกษม ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง เพื่อให้ปากคำหลังมีชื่อปรากฎผ่านสื่อว่า ดีเอสไอกำลังติดตามตัวพระสงฆ์ที่ร่วมคณะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสกับอดีตเณรคำว่า ขณะนี้ยืนยันว่าอดีตเณรคำยังไม่สึกจากการเป็นพระและอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาตมาได้ติดต่อกับอดีตเณรคำครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งอดีตเณรคำยืนยันว่าต้องการกลับประเทศไทย แต่เมื่อถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง และถูกดีเอสไอออกหมายจับ จึงต้องหลบและเตรียมต่อสู้คดีในสหรัฐฯ โดยจะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนว่า การออกหมายจับของดีเอสไอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นการออกหมายจับในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเหตุเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยผู้หญิงคนดังกล่าวก็มีสามีใหม่ไปแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงเพิ่งออกมาให้ข้อมูลในเวลานี้
พระฐกฤต กล่าวต่อว่า ตนบวชมานาน 3 ปี ก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ และเมื่อบวชแล้วได้มาอยู่ร่วมคณะกับอดีตเณรคำ โดยอาตมาจะทำหน้าที่เป็นโฆษกและทำหน้าที่จัดงานแสดงธรรมเทศนาของอดีตเณรคำ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาเวลารับกิจนิมนต์เทศน์ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปฝรั่งเศสครั้งที่ผ่านมา ที่เป็นการรับกิจนิมนต์ไปเทศน์ในงานวันวิสาขบูชาโลก ที่กรุงปารีส โดยเป็นการเชิญของพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ (ปานขาว) เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม เมืองตวกหน่ง ประเทศฝรั่งเศส ยืนยันว่าเป็นการเดินทางไปอย่างถูกต้อง เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยได้จำวัดอยู่ที่วัดห้วยนารี อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ไม่ได้หลบหนีแต่ไปจำวัดอยู่ในที่ห่างไกล อย่างไรก็ตาม อดีตเณรคำมักมีปัญหาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไปรับกิจนิมนต์ในต่างประเทศ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุด
“เท่าที่อยู่ร่วมกับอดีตเณรคำยืนยันว่าไม่มีเงินมากมาย ไม่ได้ใช้จ่ายเงินวันละ 10 ล้านบาท บางเดือนเงินไม่พอค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ และไม่มีเงินฝากมากถึง 40 ล้านบาท คาดว่าเป็นความเข้าใจผิดหลังรับกิจนิมนต์ไปเทศน์หารายได้สร้างโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งการเทศน์ครั้งนั้นได้เงินบริจาคสูงถึง 40 ล้านบาท แต่อดีตเณรคำไม่ได้นำเงินกลับมา แต่เงินทั้งหมดอยู่ในบัญชีของโรงพยาบาล ส่วนการใช้เงินวันละ 11 ล้านบาทนั้น เป็นการติดหนี้ บริษัท โตโยต้า จ.สระแก้ว ซึ่งอดีตเณรคำไปซื้อรถโตโยต้า คัมรี่ สำหรับใช้นำขบวน และถูกทวงหนี้พร้อมยึดรถคืน ส่วนเรื่องการซื้อรถยนต์หรูเบนซ์ มายบัค ปอร์เช่ คาร์เยนร์ หรือโรสลอยซ์ ซึ่งอดีตเณรคำทำสัญญาผ่อนชำระด้วยตนเองนั้น ยืนยันว่าไม่เคยเห็นเพราะเพิ่งมาอยู่กับอดีตเณรคำเพียงปีเดียว สำหรับกระเป๋าหลุยส์ก็เป็นหลุยส์ราคา 200-300 บาท” พระฐกฤต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการซื้อเครื่องบินเจ็ตสำหรับรับกิจนิมนต์ พระฐกฤต กล่าวว่า อดีตเณรคำไม่เคยซื้อเครื่องบินเจ็ตและยืนยันไม่มีเงินซื้อ แต่ที่เป็นข่าวนั้นเป็นเพราะได้รับกิจนิมนต์หลายงานต่อวันและเจ้าภาพเป็นผู้เช่าเครื่องบินให้ใช้เพื่อเดินทางเท่านั้น โดยอาตมาเคยร่วมเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตและเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเช่าใช้จากบริษัท การบินกรุงเทพ ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ขณะนี้ยังเป็นหนี้ค่าเช่าเครื่องบินอยู่
“อาตมาอยากขอให้ความเป็นธรรมกับอดีตเณรคำ ขณะนี้ผิดถูกยังไม่รู้ สิ่งที่พบเห็นคือ มีการไล่ล่า จึงเป็นธรรมดาที่ต้องหลบไปก่อน ในเรื่องเกี่ยวกับพระมีพระธรรมวินัยทางปกครองอยู่ ควรตั้งอธิกรณ์เป็นผู้สอบสวน โดยคดีต้องใช้เวลาพิจารณาหลายปีกว่าจะตัดสินผิดถูก แต่เมื่อมีการไล่ล่าอดีตเณรคำก็ต้องต่อสู้คดี โดยจะยังไม่เดินทางกลับจนกว่าจะถูกผลักดันกลับ จนถึงขณะนี้อดีตเณรคำยังไม่ได้สึก และอยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการท้องเสีย ส่วนกรณีอวดอุตริก็ยังต้องพิสูจน์กันต่อไป” พระฐกฤต กล่าว
ด้านนายสุกิจ กล่าวว่า ตนเป็นอดีตทนายความของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง แต่ตอนนี้ได้รับการทาบทามให้เป็นทีมกฎหมายและทนายความให้กับอดีตเณรคำ เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดแนวทางการต่อสู้คดีที่ชัดเจน แต่เตรียมที่จะยื่นให้ศาลของประเทศสหรัฐฯไต่สวนการออกหมายจับของดีเอสไอว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการออกหมายจับในคดีที่เหตุเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปี ส่วนการเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เนื่องจากทราบจากข่าวว่า ดีเอสไอกำลังติดตามตัวพระที่ร่วมคณะไปฝรั่งเศสทั้ง 6 รูป จึงต้องนำพระเข้าพบพนักงานสอบสวน
DSI เผยพระ 5 รูปที่ร่วมคณะไปฝรั่งเศสกับสมีคำ เตรียมพบพนง.สอบสวนเร็วๆ นี้
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง เปิดเผยว่า พระฐกฤต กัณตธัมโม พร้อมทนายความ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนและให้ปากคำ ภายหลังดีเอสไอให้ข่าวผ่านสื่อมวลชนและแจ้งไปยังคณะสงฆ์ปกครองระดับจังหวัด เพื่อให้พระสงฆ์ 6 รูป ที่ร่วมคณะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสกับนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรืออดีตพระเณรคำ เข้าให้ปากคำกับพนักงาสอบสวน โดยดีเอสไอเน้นสอบปากคำถึงการติดตามอดีตเณรคำไปยังประเทศฝรั่งเศส และบทบาทภายในสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรมว่าพระรูปใดทำหน้าที่อะไรบ้าง โดยพระที่เข้าให้ปากคำเป็นพระที่มีความใกล้ชิดกับอดีตเณรคำ ส่วนพระสงฆ์อีก 5 รูป ทราบว่าเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยได้ไปจำวัดในจังหวัดชัยภูมิ และจะเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอพร้อมทีมทนายความในเร็วๆนี้