พระเครื่อง

พระสมเด็จเนื้อกระยาสารทชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม

พระสมเด็จเนื้อกระยาสารทชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม

27 ก.ค. 2556

พระสมเด็จเนื้อกระยาสารทของ... ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม : พระองค์ครู โดยไตรเทพ ไกรงู

             พ.อ.ผจญ กิตติประวัติ หรือ อ.ตรียัมปวาย ผู้ขนานนาม "พระเครื่องชุดเบญจภาคี" พิมพ์หนังสือ ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่ม ๑ เรื่องพระสมเด็จ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ ซึ่งเป็นต้นตำหรับแห่งหนังสือพระสมเด็จ หน้าที่ ๒๐๖ ระบุว่า
 
             เมื่อกล่าวถึงคุณวิเศษแห่งผงวิเศษ ๕ ประการ และความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระคาถาชินบัญชรสูตรที่ใช้ปลุกเสกแล้วย่อมพิจารณาได้ว่า พระสมเด็จฯ ทรงคุณวิเศษในด้านต่างๆ ทุกประการ ซึ่งผู้ใช้ได้โดยรอบ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ  คงกระพัน ชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด เสน่ห์ เมตตามหานิยม ป้องกันภัยภูตผีปีศาจและการกระทำทางคุณไสย ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ป้องกันอัคคีภัยและสามารถใช้อาราธนาทำน้ำมนต์ บำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกประการ รวมทั้งการคลอดบุตรด้วย ฯลฯ ด้วย
 
             ในหนังสือปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่ม ๑ เรื่อง พระสมเด็จ อ.ตรียัมปวาย บอกว่า เนื้อพระสมเด็จแบ่งได้เป็น ๖ ประเภท ใน ๓ หมวด ดังนี้

             ๑.หมวดเนื้อหนึกนุ่ม ได้แก่ เนื้อเกสรดอกไม้ และเนื้อกระแจะจันทน์

             ๒.หมวดเนื้อผสม ได้แก่ เนื้อปูนนุ่ม และเนื้อกระยาสารท

             ๓.หมวดเนื้อหน้าแกร่ง ได้แก่ เนื้อขนมตุ้บตั้บ และเนื้อปูนแกร่ง

             สำหรับภาพพระองค์ ฉบับนี้เป็นภาพพระสมเด็จ เนื้อกระยาสารท จากหนังสือ "ทำเนียบสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม" เล่ม ๒ จัดพิมพ์โดย "ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม" ซึ่งมีนายกล้า เกษสุรินทร์ชัย หรือ "เสี่ยกล้า" เป็นประธานชมรม แม้ว่าเซียนพระของสมาคมพระเครื่องจะระบุว่าเ ป็นการเล่นพระผิดทาง รูปพระสมเด็จที่จัดพิมพ์ในหนังสือเป็นพระที่วงการไม่เล่นกัน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสนใจการเล่นพระและซื้อหนังสือในแนวของชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม

             เสี่ยกล้า บอกว่า ชมรมนักอนุรักษ์สะสมพระเครื่องสยาม ตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๘ สมัยนั้นพระสมเด็จมีราคาอยู่ไม่ถึงแสนบาท คนเล่นหากันน้อยมาก มีการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการดูพระเช่นเดียวกับชมรมและสมาคมพระเครื่องกลุ่มอื่นๆ พระเครื่องแต่ละองค์ที่ลงในหนังสือต้องผ่านความเห็นของชมรม ไม่ใช่เป็นพระของคนใดคนหนึ่งที่มองว่าแท้แล้วเอามาลงโดยพลการ หนังสือที่พิมพ์ออกมาจำหน่ายนั้น ผมมีความตั้งใจว่าผู้ที่ซื้อหนังสือไปสามารถเรียนรู้การดูพระสมเด็จด้วยตัวเอง เพราะการเรียนรู้พระสมเด็จในปัจจุบันถูกผูกขาดโดยเซียนพระกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ทั้งๆ ที่ทุกคนน่าจะเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน

             "วงการพระเครื่องจะยอมรับหรือไม่ยอมรับนั้นไม่ใช่สาระสำคัญ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า พระเครื่ององค์เดียวกันแท้ๆ ตาเซียนพระเครื่องแต่ละตาแต่ละคนยังมีมุมมองที่ต่างกัน เซียนกลุ่มหนึ่งที่เสียงดังกว่าอาจจะมองว่าปลอม แต่เซียนอีกกลุ่มหนึ่งมองว่าแท้ แต่เผอิญว่า เซียนกลุ่มแรกเสียงดังกว่า พระที่แท้ก็กลายเป็นพระปลอมได้ ขณะเดียวกันพระที่ปลอมก็กลายเป็นพระแท้ได้เช่นกัน" เสี่ยกล้ากล่าว

             พร้อมกันนี้ เสี่ยกล้ายังบอกด้วยว่า ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้เล่นพระมีมาอย่างต่อเนื่อง ข้อเท็จจริงในการจัดสร้างพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าท่านลงมือสร้างเมื่อใด แต่ก็มีผู้สันนิษฐานที่แอบอ้างว่ามีการสร้างจำนวนน้อย เช่น อ้างว่ามี ๔ พิมพ์ทรง แต่ละพิมพ์ทรงมีเพียง ๔-๕ แบบบล็อกแม่พิมพ์เท่านั้น ซึ่งมีปัญหาว่าทั้งๆ ที่ผู้แอบอ้างว่ารู้ดีนั้นก็เกิดไม่ทันเหมือนกัน ทำไมจึงไม่คิดว่าแนวการเล่นของกลุ่มตนเป็นการเล่นในแนวที่คับแคบ หลงผิด หรือเล่นเพื่อผูกขาดตัดตอน เคยคิดบ้างไหมว่าแนวทางที่เล่นนั้นผิด ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการทำลายบล็อกแม่พิมพ์อื่นๆ ที่สมเด็จโตสร้างขึ้นมา