'ผู้ใหญ่เยิ้ม เรืองดิษฐ์'กับปาฏิหาริย์แห่งลูกปัดและพระนางตรา | คมชัดลึก

              ปัจจุบันมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ผันตัวเข้าสู่ถนนสายพระเครื่องเพิ่มมากขึ้น และในจำนวนของผู้หญิงที่ชื่นชอบในพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังคงต้องนับรวมชื่อของ “เยิ้ม เรืองดิษฐ์” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ผู้ใหญ่เยิ้ม”

              ชื่อเสียงของผู้ใหญ่เยิ้ม มิได้เป็นที่รู้จักสำหรับคนนครเท่านั้น แต่ยังดังและกระฉ่อนไปทั่วประเทศในฐานะ “นักสะสมลูกปัดโบราณ” จนสามารถรวบรวมและเปิดบ้านเป็น "พิพิธภัณฑ์ลูกปัดโบราณ" สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของ จ.นครศรีธรรรมราช ให้คนรุ่นใหม่ได้ยลโฉมลูกปัดที่มีอายุตั้งแต่ ๗๐๐-๑,๐๐๐ปี จนทุกวันนี้บ้านพักของสตรีคนนี้ได้กลายเป็นสถานีสำคัญที่ใครต่อใครต้องมาเยือนให้ได้หากมาถึงนครศรีธรรมราช

              ผู้ใหญ่เยิ้ม ย้อนความให้ฟังว่า เมื่อครั้งยังเป็นเด็กมีสุขภาพย่ำแย่โดยมีอาการป่วยออดๆ แอดๆ ตลอดเวลา กระทั่งได้รับลูกปัดจากคนเฒ่าคนแก่ มาสวมติดตัวทำให้อาการเจ็บป่วยทุเลาและหายเป็นปลิดทิ้งจวบจนถึงทกวันนี้ และนี่เองที่เป็นเหตุผลสำคัญที่ชักนำให้หันมาสนใจและเริ่มสะสมลูกปัดตั้งแต่อายุยังน้อย ความเชื่อของคนโบราณลูกปัดเป็นของสูงส่ง มีพลังจักรวาล คนที่มีความทุกข์จะช่วยดับทุกข์ได้ รวมทั้งช่วยปัดเป่าภัยอันตราย ป้องกันสิ่งชั่วร้าย นอกจากนี้หากแขวนหรือสวมใส่ลูกปัดที่ถูกโฉลกกับตัวเราจะช่วยเพิ่มพลังธาตุให้ชีวิตได้

              ทั้งนี้ หากส่องด้วยกล้องจะมองเห็นปล้องไฉน พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุนครศรีธรรมราช หุ้มด้วยแผ่นทองคำกลีบบัว เหนือพุ่มข้าวบิณฑ์ประดับด้วยลูกปัดโบราณ ร้อยเป็นพวงใหญ่ ลูกปัดกลุ่มเดียวกับที่พบกันมากที่หาดทรายแก้ว จุดที่เรืออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย อับปางลงเมื่อ ๑,๘๐๐ ปีก่อน

              “ตอนเป็นเด็กได้รับลูกปัดทราวดีมาทำให้ชีวิตพบกับสิ่งดีและพ้นจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปลิดทิ้ง แถมครอบครัวก็ทำมาค้าขึ้นจนเริ่มมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ดีเป็นลำดับ นี่แหละคือเหตุผลสำคัญของลูกปัดโบราณที่เป็นของอยู่คู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและคู่แผ่นดินเมืองนครศรีธรรมราชมาตั้งแต่ยุคบรรพชน” ผู้ใหญ่เยิ้มกล่าว

              นอกจากชีวิตจะสะสมลูกปัดโบราณแล้ว “ผู้ใหญ่เยิ้ม” ยังสะสมพระเครื่อง โดยเฉพาะพระบ้านเกิด นั่นคือ “พระนางตรา” ซึ่งเป็นพระเนื้อดินจาก “กรุวัดนางตรา" อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยเป็นพระเครื่องที่แขวนติดตัวคู่กับ "สร้อยลูกปัดทราวดี" มาตลอดชีวิต ซึ่งสองสิ่งนี้ช่วยหนุนให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก รวมทั้งช่วยให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายมานับครั้งไม่ถ้วน

              “ฉันรอดตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มาหลายหน ซึ่งครั้งล่าสุดรถยนต์ที่ใช้เดินทางประสานงากับรถกระบะคู่กรณีซึ่งในที่เกิดเหตุใครๆ ก็ว่าฉันไม่น่ารอดเพราะรถพังยับเยิน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ช่วยฉันออกมาซากรถที่พังไม่มีชิ้นดีได้อย่างไร ทุกคนต่างงุนงงเหมือนกัน โดยในคอฉันมีเพียงสร้อยลูกปัดทราวดีกับพระนางตราเท่านั้น” ผู้ใหญ่เยิ้ม กล่าวอย่างเชื่อมั่น

              ปัจจุบันผู้ใหญ่เยิ้มได้นำลูกปัดโบราณมาจัดแสดงโดยเปิดเป็น "พิพิธภัณฑ์ลูกปัดโบราณ" บ้านเลขที่ ๑๐๓/๑ หมู่๑ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มีลูกปัดและเรื่องราวมากมายให้ศึกษา โดยเฉพาะลูกปัดรูปลักษณะสุริยเทพ (พระอาทิตย์) มีความเชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่สร้างก่อนประวัติศาสตร์ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ค้นคว้าศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวของลูกปัด หากมีโอกาสแวะไปชมหรือติดต่อที่ ๐๘๑-๗๑๙๒๖๙๑