พระเครื่อง

พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรวันอาสาฬหบูชา

พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรวันอาสาฬหบูชา

22 ก.ค. 2556

พุทธศาสนิกชนร่วมใจกันทำบุญตักบาตรเนื่องในวันอาสาฬหบูชา โดยตั้งจิตอธิษฐานให้บ้านเมืองสงบสุขรวมทั้งอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้


          วันที่ 22 ก.ค.56 เวลา 06.30 น. บรรยากาศวันอาสาฬหบูชา ที่จ.สงขลา ประชาชนชาวจ.สงขลาต่างออกมาทำบุญตักบาตรกันตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะที่วัดเลียบ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มีประชาชนในอำเภอเมืองสงขลาจำนวนมากทุกเพศทุกวัย ได้นำอาหารหวานคาวข้าวสารอาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียนมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดเป็นจำนวนมาก 
 
          โดยพระอนุวาที ภิกขุ เจ้าอาวาสวัดเลียบ นำพระสงฆ์ จำนวน 14 รูป รวมทั้งพระมหาวิริโย ภิกขุ หรือพระแจ๊ส อดีตมิสทิฟฟานี่ ที่มาบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ออกเดินบิณฑบาตรรับภัตตาหารจากพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาร่วมทำบุญตักบาตรกันเป็นครอบครัวในวันนี้ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมกันน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ตามหลักพิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ คือ การทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา และสวดมนต์
 
          ซึ่งประชาชนจ.สงขลาต่างตั้งใจที่จะทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงรวมทั้งตั้งจิตอธิษฐานให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขและยังอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

 



พุทธศาสนิกชนชาวยะลา ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ท่ามกลางมาตรการ รปภ.เข้ม

          เมื่อเวลา 07.20 น. ที่วัดเมืองยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พุทธศาสนิกชนชาวยะลา  ทหาร ตำรวจ  จำนวนกว่า 500 คน ได้ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ และสามเณร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา  เพื่อความเป็นสิริมงคลและสืบทอดประเพณีการทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา  พร้อมทั้ง ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งภายนอกและภายในวัด อย่างเข้มงวด
 
          สำหรับวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8  เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก และเป็นวันแรกที่มีพระรัตนตรัยครบองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์   ซึ่งในวันสำคัญนี้ พุทธศาสนิกชนจะได้ร่วมกันมาปฏิบัติธรรม น้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาปฏิบัติ  ในการ ลด ละ เลิก อบายมุข เพื่อปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีของสังคม และประเทศ ต่อไป
 
          ทั้งนี้จังหวัดยะลายังมีพิธีเวียนเทียนในทุกวัด โดยจะแบ่งการเวียนเทียนออกเป็นสองช่วงเวลา คือเวียนเทียนเวลา 11.00 น. ที่วัดเวฬุวัน และ วัดหลักห้า อ.เมือง จ.ยะลา ส่วนวัดอื่นๆในเขต อ.เมือง จ.ยะลา จะมีพิธีเวียนเทียนเวลา 17.00 น. 





 

พุทธศาสนิกชนในจ.นราธิวาส ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์

          พื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนทุกหมู่เหล่าและข้าราชการในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ได้ร่วมใจกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแก่พระสงฆ์ ที่แต่ละอำเภอได้จัดขึ้น เช่น บริเวณสวนสาธารณะและหน้าที่ว่าการอำเภอของแต่ละอำเภอ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มของเจ้าหน้าที่กองกำลังทั้ง 3 ฝ่าย
 
          ทั้งนี้ทุกคนได้ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อแผ่อุทิศส่วนกุศลให้กับประชาชน เจ้าหน้าที่กองกำลังที่ได้ล่วงลับไป จากผลกระทบของสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งได้แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร เพื่อช่วยดลบันดาลให้รัฐบาลสามารถคลี่คลายปัญหาความมั่นคงของชาติได้ลุล่วงไปด้วยดี และให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนในอดีตที่ผ่านมาโดยเร็ว

   

 




ชาวอ่างทองนุ่งขาว-ห่มขาวร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งหน้าองค์พระพุทธไสยาสน์

          ที่บริเวณพุทธมณฑลจังหวัดอ่างทอง วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นายวิศว  ศะศิสมิต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน กว่า 500 คน พร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาว ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระภิกษุ จำนวน 86 รูป รอบองค์พระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์วัดขุนอินทประมูล เพื่อแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในวันวิสาขบูชา  และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ หลังจากทำบุญตักบาตรแล้ว ทุกคนได้ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถมีพลานามัยที่สมบูรณ์
 
          ในปีนี้วันอาสาฬหบูชาตรงกับวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. เป็นวันพระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมจักรกัปปวัตนะสูตร ปฐมเทศนาและวันเข้าพรรษาตรงกับวันอังคารที่ 23 ก.ค.56 เป็นวันพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอนุญาตให้พระภิกษุ เริ่มอยู่จำพรรษาตลอดระยะเวลา3เดือน
 
          สำหรับจังหวัดอ่างทอง เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาจังหวัดอ่างทองกำหนดจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและสถาบันของชาติ ระหว่างวันที่ 20-23 ก.ค. รวม 3 วัน ณ พุทธมณฑลจังหวัดอ่างทอง วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

 



อุตรดิตถ์-พุทธศาสนิกชนนุ่งขาวตักบาตรข้าวสารทำบุญวันพระใหญ่วัดใกล้บ้านเนืองแน่น
 
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิหารวัดบ้านกลาง พุทธศาสนิกชนจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมใจนุ่งขาวห่มขาวจัดเตรียมอาหาร คาว หวาน ดอกไม้ธูปเทียน ทำบุญใส่บาตร เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และยังได้ทำบุญตักบาตรข้าวสาร ในวันพระใหญ่ที่ 1 ปี จัดขึ้น 1 ครั้งตามประเพณีโบราณ อย่างเนื่องแน่น พุทธศาสนิกชนบางส่วนต้องนำเสื่อปูบริเวณรอบวิหารเพื่อทำบุญพร้อมครอบครัว
           
          พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ถือโอกาสเทศกาลสำคัญทางพุทธศาสนาและวันหยุดยาว พาครอบครัว ลูกหลาน ที่เดินทางจากต่างจังหวัดกลับภูมิลำเนาทำบุญตักบาตร วัดใกล้บ้านเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งนี้ข้าวสารที่พุทธศาสนิกชนนำมาร่วมทำบุญ ทางวัดบ้านกลาง ได้จัดสรรให้ผู้นำชุมชน ได้นำไปมอบให้กับครอบครัวผู้ยากไร้และมีฐานะยากจนในชุมชน ซึ่งเป็นเป็นการทำบุญและทำทานให้เทศกาลสำคัญทางพุทธศาสนา




 

พิษณุโลก-ประชาชนร่วมทำบุญเนืองแน่นวัดใกล้บ้าน

          วันพระใหญ่ วันอาสาฬหบูชา ที่จังหวัดพิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการตักบาตรทำบุญของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพิษณุโลกตามวัดต่าง ๆ ประชาชนชาวพิษณุโลก ต่างพาครอบครัวทำบุญกันเนืองแน่นวัดใกล้บ้าน โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองพิษณุโลก ศาลาการเปรียญวัดต่าง ๆ ทั้งวัดเขื่อนขันธ์ วัดศรีวิสุทธาราม วัดราชบูรณะ วัดท่ามะปราง วัดหูหาสวรรค์ วัดใหม่อภัยราม  ต่างหนาแน่นด้วยผู้คนมาตักบาตรข้าวสารให้พระภิกษุสงฆ์ พร้อมกับร่วมนำเทียนพรรษา หลอดไฟ มาถวายแด่ภิกษุสงฆ์ในเทศกาลวันเข้าพรรษา
 
          ขณะที่ศาลาพิบูลธรรม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อ.เมืองพิษณุโลก นายปรีชา  เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก พร้อมครอบครัว ร่วมทำบุญกับชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่พร้อมใจกันนุ่งขาวมาทำบุญเนื่องในโอกาสวันพระใหญ่ ที่มีติดต่อกัน 2 วัน คือวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ขณะที่วิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ก็หนาแน่นด้วยนักท่องเที่ยว ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว แวะเวียนมากราบนมัสการพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลกจำนวนมากเช่นกัน



 


ชาวบ้านกรุงเก่าพาครอบครัวเวียนเทียนกลางวัน

          ที่วัดพิชัยสงคราม ม.10 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีประชาชนจำนวนมากร่วมกันประกอบพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันอาสาฬหบูชา โดยมีพระครูวิชัยกิจจารักษ์ หรือหลวงพ่ออุดม เป็นประธานสงฆ์กล่าวอาราธนาศีลและนำเดินเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ หลังจากที่ประชาชนได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรและฟังธรรมเทศนาในตอนเช้าแล้ว ซึ่งพบว่ามีประชาชนส่วนใหญ่พาครอบครัวมาร่วม โดยในจำนวนนั้นมีทั้งผู้สูงอายุ และผู้ที่เดินไม่ได้ต้องใช้รถเข็น รวมทั้งยังมีเด็กๆมาร่วมเวียนเทียนจำนวนมากด้วย
           
          พระครูวิชัยกิจจารักษ์กล่าวว่าวัดพิชัยสงครามเป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา จัดให้มีการเวียนเทียนมาเป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายปีแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากต้องการให้ประชาชนได้พาครอบครัวมาร่วม โดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและผู้ที่เดินไม่ได้ต้องใช้รถเข็น เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทาง อีกทั้งยังเห็นว่าวัดพิชัยสงครามเป็นวัดขนาดเล็ก ช่วงค่ำวันเดียวกันประชาชนจะได้มีโอกาสไปเวียนเทียนที่วัดอื่นได้อีก


 

สุรินทร์-พุทธศานิกชนคึกคักแห่ตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลกในวันอาสาฬหบูชา

          บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นำส่วนราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งนักท่องเที่ยวกว่า 5  พันคน  ร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างจำนวน 96 เชือก พระสงฆ์ 120 รูป วันอาสาฬหบูชา ในงานมหกรรมแห่เทียนพรรษา 86 ไอยรา และตักบาตรบนหลังช้าง  เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อให้พุทธศาสนิกชนเกิดเจตคติที่ดีต่อวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมกิจกรรมทางพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียม ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของไทย

          นายนิรันดร์  กล่าวว่า ปีนี้จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรมขึ้นอย่างยิ่งใหญ่  โดยจัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษาจากคุ้มวัดและขบวนช้าง 86 เชือก ตกแต่งประดับไฟสวนงามเข้าร่วมพิธี และในช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ค.  ถือว่าเป็นไฮไลท์ของงานและเป็นหนึ่งเดียวในโลก คือการตักบาตรพระสงฆ์บนหลังช้าง  โดยมีการจัดอัฐจรรย์หันหน้าเข้าหากัน ให้ช้างนำพระสงฆ์เดินช่องตรงกลางและให้ประชาชนขึ้นไปตักบาตรพระสงฆ์  โดยปีนี้นับว่าได้รับความสนใจจากประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ ร่วมไปถึงนักท่องเที่ยวกว่า 5 พันคน เข้าร่วมตักบาตรพระสงฆ์และชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ ที่มีแห่งเดียวในโลกด้วย

          งานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จ.สุรินทร์ เป็นงานประจำปี จัดเป็นประจำตั้งแต่ปี 2550  เพื่อเฉลิมพระเกียติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ให้เป็นเมืองท่องเที่ยว  และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของประชาชนชาวไทยให้ดำรงสืบไป  โดยในแต่ละปีจะได้รับความสนจากนักท่องเที่ยว ประชาชน มาเที่ยวชมงานและร่วมตักบาตรบนหลังช้างจำนวนมาก