พระเครื่อง

สาวอ้างเป็นเมีย'เณรคำ'ยื่นฟ้องเรียก100ล.

สาวอ้างเป็นเมีย'เณรคำ'ยื่นฟ้องเรียก100ล.

19 ก.ค. 2556

ทนายความพาสาวชาวศรีสะเกษ ที่อ้างตัวว่ามีลูกกับอดีต'เณรคำ'เข้ายื่นฟ้องศาลอุบลฯ เรียกค่าเสียหายเณรคำ 100 ล้าน ด้านโพลล์ชี้DSIควรเผยชื่อองค์กร-พระผู้ใหญ่รับรถสมีคำ

                    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.ค. 2556 ที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ดร.สมชาติ วงศ์ธราธร ทนายความ ได้พา น.ส.ออน(นามสมมติ) พร้อมบุตรชาย ด.ช.เอ (นามสมมติ) เข้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี ให้เอาผิดกับนายวิรพล สุขผล หรืออดีตเณรคำ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

                   ดร.สมชาติ กล่าวว่า ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะมายื่นฟ้องศาลจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากว่า นายวิรพล สุขผล หรือเณรคำ เป็นคน จ.อุบลราชธานี จึงได้มายื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ในคดีอาญา มาตรา 276 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา มาตรา 277 วรรค 3 กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และมาตรา 317 ,318 ข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งใน วันที่ 2 ก.ย.56 ศาลจะมีการไต่สวนมูลฟ้อง โดยยายของ น.ส.ออน(นามสมมติ)ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ส่วน น.ส.ออน(นามสมมติ)ได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 70 ล้านรวมเป็นเงิน 100 ล้านบาท

                   ดร.สมชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพยานหลักฐานนั้นมั่นใจ แต่ยังคงต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอ  จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์  แต่ในส่วนของ ด.ช.เอ นั้นคงไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากมีใบหน้าคล้ายกับนายวิรพล สุขผล หรือ เณรคำ ใบหน้าเหมือนกันมากแทบจะทุกส่วน

 

 

โพลล์ชี้"ดีเอสไอ"ควรเผยชื่อองค์กร-พระผู้ใหญ่รับรถ"สมีคำ"
 

                  ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ทั่วประเทศ จำนวน 1,254 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “พระสงฆ์ ศาสนา กับความเชื่อและความศรัทธาของประชาชน”   พบว่า  เมื่อถามถึงบทบาทหรือหน้าที่ของพระสงฆ์ที่ควรทำ  ส่วนใหญ่ ร้อยละ 88.28 เห็นว่า พระสงฆ์มีหน้าที่เผยแพร่หลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการบวชเป็นพระ ว่ามีส่วนทำให้มีฐานะทางการเงินดีขึ้นหรือไม่นั้น   ร้อยละ 70.26  ไม่เห็นด้วย  เพราะ เงินบริจาคที่ได้มาบางส่วนก็เป็นของวัด บางวัดก็อยู่ในพื้นที่ชนบท จึงไม่ค่อยมีกิจนิมนต์มากเท่ากับวัดในเขตเมือง หรือวัดใหญ่ๆ ขณะที่ ร้อยละ 23.92 เห็นด้วย  เพราะ มีปรากฎให้เห็นอยู่ในตามข่าวและในสังคม

                  อย่างไรก็ตาม  ร้อยละ 88.84  มีความเชื่อหรือศรัทธาในหลักธรรมคำสั่งสอนของพุทธศาสนา อานิสงส์ผลบุญแห่งกรรม ความดีและความชั่วมากที่สุด  รองลงมา ร้อยละ 5.10 เชื่อหรือศรัทธาในวัดหรือชื่อเสียงของวัด และร้อยละ 4.31 เชื่อหรือศรัทธาในตัวพระสงฆ์หรือชื่อเสียงของพระสงฆ์   เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นหรือความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจากกรณีที่มีข่าวฉาวของพระสงฆ์ในวงการพระพุทธศาสนาในขณะนี้ พบว่า ร้อยละ 72.33 ยังมีความเชื่อหรือศรัทธาในพระพุทธศาสนาเท่าเดิม/ไม่ลดลง  ขณะที่ ร้อยละ 26.87 ระบุว่าลดลง สำหรับกรณีที่มีข่าว เณรคำ ซื้อรถยนต์และได้มอบรถให้กับองค์กรและพระผู้ใหญ่   ร้อยละ 75.04 เห็นว่า องค์กรและพระผู้ใหญ่ควรคืนรถยนต์ที่ได้มาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามกฎหมาย รองลงมาร้อยละ 10.21 องค์กรและพระผู้ใหญ่ใช้รถยนต์ต่อไป  ท้ายสุด เมื่อถามการเปิดเผยรายชื่อองค์กรหรือพระผู้ใหญ่ที่รับมอบรถจากเณรคำ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI    ร้อยละ 65.07 เห็นว่า ควรเปิดเผยรายชื่อ ขณะที่ ร้อยละ 21.13 เห็นว่าไม่ควรเปิดเผย    

                  ด้าน “มศว.โพล” มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สำรวจความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นไทยที่อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,073 คน เรื่อง “วัยรุ่น” กับ “วันอาสาฬหบูชา” สรุปผลดังนี้  ร้อยละ 75.21  รู้   ว่า “วันอาสาฬหบูชา” ตรงกับวันที่ 22 กรกฎาคม หรือขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ส่วน ร้อยละ 24.79 ไม่รู้     เมื่อถามถึงความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา พบว่า ร้อยละ 51.91 รู้  ว่าคือ วันที่สมเด็จพระพุทธเจ้าได้แสดงพระปฐมเทศนา หรือแสดงพระธรรมครั้งแรก ขณะที่ ร้อยละ 48.09 ไม่รู้    เมื่อถามว่ามีความคิดหรือตั้งใจที่จะทำบุญใส่บาตรใน “วันอาสาฬหบูชา” หรือ ไม่ ร้อยละ 73.53 คิดที่จะทำบุญตักบาตร ร้อยละ 21.25 ไม่แน่ใจ และร้อยละ5.22 ไม่คิดจะทำ เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาสไปทำบุญใน “วันอาสาฬหบูชา”  “วัยรุ่น” จะชวนใครไปด้วย ร้อยละ73.45 ระบุว่า พ่อแม่ และคนในครอบครัว รองลงมา ร้อยละ 11.83 เพื่อน ร้อยละ 9.62 แฟน /คนรัก และ ร้อยละ 5.10 ญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ

                  ส่วน“นักการเมือง” ที่  “วัยรุ่น” อยากชวนไปทำบุญใส่บาตรด้วยมากที่สุด พบว่า ร้อยละ 44.12 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รองลงมา ร้อยละ 25.05 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 15.41 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร้อยละ 8.67 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ ร้อยละ 6.75 นายชวน  หลีกภัย อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยระบุว่า วัยรุ่น ร้อยละ 47.16 ไม่ค่อยให้ความสำคัญ กับวันอาสาฬหบูชา เพราะวัยรุ่นในปัจจุบันสนใจแต่เรื่องสนุกเฮฮา ห่างไกลวัด ไม่ได้รับการปลูกฝังเท่าที่ควร ฯลฯ ร้อยละ 38.28 ค่อนข้างให้ความสำคัญ  ร้อยละ 11.91 ให้ความสำคัญมาก  และร้อยละ 2.65 ไม่ให้ความสำคัญ

                  เมื่อถามว่ากรณี “เณรคำ” มีผลทำให้ “วัยรุ่น” เชื่อมั่นในพุทธศาสนาลดลงหรือไม่ 51.42 มีผล เพราะ รู้สึกไม่เชื่อมั่น หมดศรัทธา คิดว่าน่าจะมีพระรูปอื่นๆที่มีพฤติกรรมแบบนี้เหมือนกัน ทำให้พุทธศาสนาเสื่อม ฯลฯ   ร้อยละ 48.58 ไม่มีผล เพราะ  แยกแยะได้ เป็นการกระทำของตัวบุคคลที่หาประโยชน์บนผ้าเหลือง ยังเคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนา ฯลฯ สิ่งที่ “วัยรุ่น” อยากอธิษฐานหรืออยากขอใน “วันอาสาฬหบูชา”  ร้อยละ 37.52ขอให้ตนเองมีชีวิตที่ดี  ครอบครัว พ่อ แม่สุขสบาย ไม่มีโรคภัย ร้อยละ 36.39ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และความรัก ร้อยละ 20.86 ขอให้คนไทยทุกคนรักกัน ประเทศชาติสงบสุข ร้อยละ 5.23ขออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย  ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน

 

 

"DSI"ใช้ช่องทางการทูตติดตาม"เณรคำ"กลับมาดำเนินคดี



                  พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ว่า จะเดินทางไปยื่นหนังสือเพิ่มเติมต่อกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โดยเป็นเอกสารและหมายจับในคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดตามตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ให้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยเฉพาะการให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวิรพลด้วย ซึ่งการยื่นเอกสารครั้งนี้เพื่อให้ครบตามกระบวนการ และให้เกิดความสมบูรณ์ของขั้นตอนเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

                   อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาดีเอสไอยังใช้ช่องทางของสำนักกิจการต่างประเทศ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกประเทศที่คาดว่านายวิรพลจะไปหลบซ่อน เพื่อประสานงานกันภายในแจ้งข้อมูลและส่งหนังสือ เพื่อขอตัวนายวิรพล หากเดินทางไปหลบซ่อนในประเทศเหล่านั้นด้วย ทั้งนี้หากมีการยกเลิกหนังสือเดินทางของนายวิรพลแล้วจะประสานไปยังสถานทูตประเทศต่าง ๆ อีกครั้ง โดยขั้นตอนของการส่งตัวหรือผลักดันกลับประเทศเป็นเรื่องที่ดีเอสไอจะพิจารณาต่อไปหลังจากที่มีการยกเลิกหนังสือเดินทางแล้ว

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  การเดินทางมายื่นหนังสือของดีเอสไอครั้งนี้ เกิดความเข้าใจผิดเนื่องจากจนท.ดีเอสไอคิดว่ากรมการกงศุลอยู่ที่กระทรวงกาต่างประเทศ ถ.ศรีอยุธยา แต่จริง ๆ อยู่ที่ศูนย์ราชการที่ติดกับกระทรวงยุติธรรม

 

......................................

ข่าวเกี่ยวข้อง

- 'บัวแก้ว'คาด2-3วันถอนพาสปอร์ต'เณรคำ' : http://www.komchadluek.net/detail/20130719/163779/บัวแก้วคาด23วันถอนพาสปอร์ตเณรคำ.html#.Uei37cQ5PIU

- สิ้นมนต์'สมีคำ'ตร.วืดแฟลตใหม่20ล้าน : http://www.komchadluek.net/detail/20130719/163768/สิ้นมนต์สมีคำตร.วืดแฟลตใหม่20ล้าน.html#.Uei4KsQ5PIU 

- CNNระบุ'เณรคำ'ใช้ชีวิตเยี่ยงซูเปอร์สตาร์ : http://www.komchadluek.net/detail/20130719/163780/CNNระบุเณรคำใช้ชีวิตเยี่ยงซูเปอร์สตาร์.html#.Uej_c8Q5PIU