พระเครื่อง

พุทธคุณยันต์น้ำเต้าหลังเหรียญครูบาศรีวิชัยรุ่น๑๓๕ปีสิริวิชโย

พุทธคุณยันต์น้ำเต้าหลังเหรียญครูบาศรีวิชัยรุ่น๑๓๕ปีสิริวิชโย

08 ก.ค. 2556

พุทธคุณแห่งยันต์น้ำเต้าหลังเหรียญครูบาศรีวิชัย'รุ่น ๑๓๕ ปี สิริวิชโย' : ชั่วโมงเซียนโดย อ.โสภณ


             วัดบ้านปาง ตั้งอยู่เลขที่ ๓๘๑ หมู่ ๑ ต.ศรีวิชัย บนเนินเขาบ้านปาง ห่างจากตัวอำเภอลี้ประมาณ ๓๘ กิโลเมตร เป็นวัดซึ่งครูบาศรีวิชัยบวชเรียนเป็นวัดแรก ภายในบริเวณวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีโบสถ์วิหารสวยงาม พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารครูบาศรีวิชัย ซึ่งเก็บของใช้ส่วนตัวของท่านไว้อย่างครบถ้วน ได้แก่ สบง จีวร หมอน กระโถน แจกัน เป็นต้น ปัจจุบันมีพระครูบาเจ้าเอนก อาสโภ เป็นเจ้าอาวาส

             ครูบาศรีวิชัย ถึงแม้ว่าท่านจะไม่มีฐานันดรสมณศักดิ์ แต่ท่านก็เป็นพระมหาเถระสมบูรณ์ พร้อมด้วยคุณธรรม และวัตรปฏิบัติอันประเสริฐยิ่ง มีบารมีสูงสุด เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ "ตนบุญ" หรือ "นักบุญ" อันมีความหมายเชิงยกย่องว่า เป็นนักบวชที่ได้เป็นนักพัฒนา ผู้สร้างความเจริญของเมืองเหนือในยุคอดีต และมีคุณสมบัติพิเศษ ที่ทำให้เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้ที่ได้พบเห็น

             ผลงานที่ครูบาศรีวิชัยได้ทำไว้ เท่าที่รวมแล้วพบว่างานบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามของครูบาศรีวิชัย มีอย่างน้อยก็ประมาณกว่า ๒๐๐ แห่ง แต่งานที่ทำให้ท่านเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือการสร้างถนนขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ท่านได้เริ่มสร้างทางเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๗ และเปิดให้รถยนต์แล่นได้ในวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๘ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของหลวงเลย

             อย่างไรก็ตาม ใน พ.ศ.๒๕๕๖ นี้ ครูบาศรีวิชัยมีอายุครบ ๑๓๕ ปี พระครูบาเอนกจึงได้ดำริจะจัดสร้างวัตถุมงคลของครูบาศรีวิชัย “รุ่น ๑๓๕ ปี สิริวิชโย” ประกอบด้วย รูปหล่อลอยองค์ขาดบูชา หน้าตัก ๙ นิ้ว พระกริ่งครูบาศรีวิชัยรุ่นแรก เหรียญเนื้อโลหะ เหรียญลงยา รูปหล่อลอยองค์เทดินไทย และพระขุนแผนรุ่นแรก เพื่อนำปัจจัยบูรณะเสนาสนะภายในวัด สนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพื้นที่ สร้างเมรุ รวมทั้งเป็นการรำลึกถึงพระคุณของครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย จึงปรึกษากับคณะศิษย์ผู้ที่นับถือครูบาเจ้าศรีวิชัย

             ในการจัดสร้างวัตถุมงคลครั้งนี้ ครูบาเอนกได้มอบหมายให้นายสวัสดิ์ จอมแปง เป็นประธานในการจัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ ได้ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งแรกในรอบ ๒๐ ปี โดยคณาจารย์ดังภาคเหนือถึง ๓ ครั้ง ดังนี้ พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๑ โดยครูบาดวงดี ยติโก ณ พระวิหารวัดบ้านฟ่อน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๕.๓๙ น. พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๒ โดยครูบาเอนก อาสโภ ณ พระวิหารวัดบ้านปาง ในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๕.๓๙ น. และพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๓ โดยคณาจารย์ดังภาคเหนือ ๑๙ รูป ร่วมพิธีในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๔.๕๙ น. ณ พระวิหารวัดบ้านปาง

             สำหรับยันต์ที่ปรากฏอยู่บนหลังเหรียญครูบาศรีวิชัย “รุ่น ๑๓๕ ปี สิริวิชโย” “ยันต์พระภควัม” หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกกันเป็นภาษาตลาดจนแพร่หลายว่า “ยันต์น้ำเต้า” เส้นวงรอบนอกของยันต์ดังกล่าว ที่ว่าคล้ายกับรูปทรงของพระภควัมบดี ซึ่งอ้วนล่ำม่อต้อนี่แหละ ที่บางคนมองเห็นไปว่าคล้ายกับผลน้ำเต้า จึงได้เรียกกันอีกนัยหนึ่งว่า “ยันต์น้ำเต้า”

             ภายในเป็น "คาถาหัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์" หรือ คาถาแม่ธาตุใหญ่ที่ว่า “นะ โม พุทธา ยะ” พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นพระคาถาที่สำคัญอย่างมาก คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเป็นที่นิยม สวดกันมากที่สุดคือ พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ของหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา โดยให้เริ่มต้นด้วย
การตั้งนะโม ๓ จบ โดยให้ว่าคาถาดังนี้นะ ทรงฟ้า
โม ทรงดิน
พุทธ ทรงสินธุ์
ธา ทรงสมุทร
ยะ ทรงอากาศ
พุทธังแคล้วคลาด
ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ

             ทั้งนี้มีคติความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ก่อนนอน ก่อนออกเดินทางจากบ้าน หรือเข้าในที่คับขัน เผชิญหน้ากับศัตรู ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีก ป้องกันภั

             ส่วนยันต์ ๔ แถว ที่อยู่ด้านล่างยันต์น้ำเต้านั้น เป็นคาถาให้พร ให้บริบูรณ์ด้วยธรรมอังงดงาม ซึ่งมี ๔ แถว ประกอบ

แถวที่ ๑ สัพ ภะ พุท ธา นุ ถา เว นะ
แถวที่  ๒ สัพ ภะ สัต คา ปะ ริ ถิ  โต 
แถวที่ ๓ สัพ ภะ มัต ถะ สัม ปัน โน
แถวที่ ๔ สิต ภู โต ศัท ธา ภะ วะ
ในแถวที่ ๑ “สัพ ภะ พุท ธา นุ ถา เว นะ” เป็นคาถาให้พรที่ให้ถึงพร้อมด้วยธรรมทั้งปวง
ในแถวที่ ๓  “สัม ปัน โน” แปลว่า “สมบูรณ์ด้วยธรรมะ”
ในแถวที่ ๔ “ภะ วะ” เข้าใจว่าย่อมาจาก “ภควา”แปลว่า “ผู้ไปดีแล้ว” ซึ่งเป็นคาถาหัวใจพระเจ้าดำเนิน
นอกจากนี้การเขียนยันต์น้ำเต้ายังนิยมใส่คาถาอื่นแทรกเข้าไปด้วย เช่น เติม อุ เพื่อให้พุทธคุณเด่น ทางเมตตา และมหาอุด
เฑาะว์ เพื่อให้พุทธคุณเด่น ทางเมตตา
รวมทั้ง นะ เพื่อให้พุทธคุณเด่น ทางเมตตา และ งกระพัน

             ขอคุณข้อมูลภาพจาก "www.krubasrivichai.com" และหนังสือ "๓๙ ครูบาเมืองเหนือ" ที่จัดทำโดยวัดบ้านปาง และนายสุทธิโรจน์ ติฐาปนโชติวัฒนะ ซึ่งมีผลงานเกี่ยวกับจัดทำหนังสือรวมเหรียญพระสายป่า สายอีสาน รวมทั้งสายเหนือหลายเล่ม ทั้งนี้ได้รวบรวมประวัติและภาพวัตถุมงคล ๓๙ ครูบาเมืองเหนือที่ได้รับความนิยม และสะสมกันในปัจจุบัน ฉบับสมบูรณ์อีกเล่มหนึ่ง


ยันต์หลังเหรียญครูบา ออกวัดบ้านปาง

             เหรียญครูบาศรีวิชัย ออกวัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน รุ่นนี้เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปครูบาศรีวิชัยครึ่งองค์ มีอักษรว่า "พระครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย" ด้านหลังมีอยู่ด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ หลังยันต์น้ำเต้า และหลังยันต์พระธาตุดอยสุเทพ มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง และเนื้อตะกั่วลองพิมพ์ แบ่งเป็น ๕ บล็อกดังนี้

             ๑.เหรียญบล็อกหน้าหนุ่มประคำเส้น หลังยันต์น้ำเต้า เป็นเหรียญที่นิยมและหายากมาก ๒.เหรียญบล็อกหน้าหนุ่ม หลังยันต์น้ำเต้า บล็อกตราเบนซ์ หรือเม็ดงา เป็นเหรียญที่นิยมและหายากมาก ๓.เหรียญบล็อกหน้าหนุ่ม หลังยันต์น้ำเต้า ๔.เหรียญบล็อกหน้าแก่ประคำเม็ด หลังยันต์น้ำเต้า และ เหรียญบล็อกหน้าแก่ประตำเม็ด หลังยันต์พระธาตุดอยสุเทพ

             สำหรับยันต์ที่ปรากฏบนหลังเหรียญรุ่นนี้ เป็นยันต์ตลกที่เขียนเป็นรูปองค์พระ โดย ๒ ชั้นแรก ต้องอ่านรวมกันว่า “มิ(บนสุด) พุท ธะ สัง” แต่ความจริงต้องอ่านว่า “พุท ธะ สัง มิ” ซึ้เป็นคาหัวใจยอดศีล

             ส่วนที่เป็นฐานหรือแถวแรก อ่านว่า “ปา อิ อา ปะ”

             “ปา อิ อา ปะ” เป็นส่วนหนึ่งของคำที่ปรากฏอยู่ในคาถา “เกราะเพชร” ซึ่งเป็นคาถาที่เอาอาการ ๓๒ มาปนด้วย เพื่อให้เกิด พุทธคุณด้านคงกระพัน ที่ว่า

             "อิติ พันธะ เกศา มะอะอุ พันธะ โลมา จะพะกะสะ พันธะ นะขา นะมะพะทะ พันธะ ทันตา กะระมะทะ พันธะ ตะโจ อิสวาสุ พันธะ มังสา จิปิเสคิ พันธะ นะหารู สุวิสังอะ พันธะ อัฏฐิ ทุสะนิมะ

             พันธะ อัฏฐิมิญชัง นาสังสิโม พันธะ วักกัง ปาอิอาปะ พันธะ จิตตัง เจตสิกกังรูปัง สังวิธาปุกะยะปะ อาปามะจุปะ ทีมะสังอังขุ นะมะอะอุ นะมามิหัง สิทธิเตชัง สิทธิวาจัง กายะพันธะนัง องคะพันธะนัง อธิษฐามิ สารพัดสิทธิ ภวันตุเม"